ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สรุปผลการประชุม World Economic forum on East Asia ปี 2555 | นร | 19/06/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการระดับชาติของไทยเพื่อเตรียมการจัดประชุม World Economic Forum on East Asia ปี ๒๕๕๕ รายงานสรุปผลการประชุม World Economic Forum on East Asia ปี ๒๕๕๕ ที่ประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓๐ พฤษภาคม - ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ โดยการประชุมแบ่งออกเป็น ดังนี้
๑. การประชุมแบบ Private Sessions ได้จัดให้มีกิจกรรมเสวนาแบบแบ่งกลุ่มย่อยใน ๕ สาขา ได้แก่ ๑.๑ การประชุมสุดยอดภายใต้หัวข้อ เปิดพรมแดน : สร้างการเติบโตให้กับทวีปเอเชีย ผ่านการเดินทาง การค้า และการท่องเที่ยว (Open Borders : Revitalizing Asia’s Growth through Travel, Trade and Tourism) ที่ประชุมพิจารณาเห็นควรเร่งสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงระดับพื้นที่ลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในสาขาที่มีศักยภาพ ในขณะที่ภาคเอกชนควรเร่งปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดเพื่อตอบสนองผู้บริโภคผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ๑.๒ การประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Summit) ประกอบด้วย ๓ ประเด็นย่อย ได้แก่ พลังของข้อมูลกับการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี สังคม และเศรษฐิจ (The Power of Data to Fuel Technological, Social and Economic Innovations) ความเชื่อมโยงเครือข่ายดิจิตอลและโครงสร้างทางกายภาพเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาค (Connectivity for Growth : Digital and Physical) และความร่วมมือในการสร้างความยืดหยุ่นเพื่อรับมือภัยทางไซเบอร์ (Partnering for Cyber Resilience (PCR) : Individual Action, Collective Good เป็นกิจกรรมที่ WEF ริเริ่มขึ้นในลักษณะพันธมิตรและความร่วมมือในระดับโลก เพื่อเพิ่มขีดความคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือทางไซเบอร์ ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะเพื่อส่งเสริมเรื่อง PCR อาทิ เสริมสร้างความตระหนักในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน จัดทำมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้รับทราบและเข้ามามีส่วนร่วม ๑.๓ การวางแผนโครงสร้างการพัฒนาพลังงานของแต่ละประเทศในภูมิภาครูปแบบใหม่ ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับการจัดหาพลังงานให้เพียงพอ ราคาถูก และรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสมดุลและทำให้ธุรกิจพลังงานอยู่บนพื้นฐานที่ยั่งยืน และความสามารถในการเข้าถึงพลังงานของประชาชนอย่างแท้จริง ๑.๔ การผลักดันวิสัยทัศน์ใหม่ด้านการเกษตรสู่การปฏิบัติงานภูมิภาคเอเชียตะวันออก (Putting the New Vision for Agriculture into Action in East Asia) ที่ประชุมสรุปว่าการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกต้องอาศัยกลไกการลงทุนในรูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้มากขึ้น โดยภาครัฐควรกำหนดยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการลงทุนภาคเกษตรให้ชัดเจน เช่น ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน จัดการเกี่ยวกับการเข้าถึงที่ดินทำกิน การบริหารความเสี่ยง การประกันภัยพืชผลเกษตร การจัดหาตลาดสำหรับสินค้าเกษตรสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ๑.๕ แนวทางความร่วมมือเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี (Healthy Living : Collaborative solutions for Maximizing Impact) ที่ประชุมพิจารณาเห็นควรให้ประเทศในภูมิภาคร่วมกันพัฒนาแผนปฏิบัติการของภูมิภาคและส่งเสริมการประสานงานในการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคที่ไม่ติดต่อมากยิ่งขึ้น ๒. การประชุมแบบ Public Sessions ที่ประชุมได้เน้น ๓ ประเด็นหลัก ได้แก่ ๒.๑ การมองภูมิภาคในบริบทใหม่ของโลก (Rethinking Regional Models for a New Global Context) โดยให้มีการทบทวนและศึกษารูปแบบการพัฒนาประเทศในภูมิภาคสำหรับโลกยุคใหม่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ที่ประชุมได้เสนอประเด็นสำคัญ ได้แก่ การลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเพศและการเพิ่มบทบาทสตรีต่อการพัฒนาประเทศในภูมิภาคเอเชีย การสร้างรูปแบบเศรษฐกิจสมดุลใหม่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก การลดปัญหาความยากจน การสนับสนุนให้ผู้นำทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ผลักดันรูปแบบและระบบการคุ้มครองทางสังคมให้กับผู้สูงอายุแบบมีส่วนร่วมและยั่งยืนสู่การปฏิบัติ การพัฒนาการศึกษา ทักษะและการเชื่อมต่อกับการทำงาน รวมทั้งการจัดการกับค่านิยมที่มีอยู่และค่านิยมใหม่ที่ดีไม่ให้สูญหาย ๒.๒ การเตรียมรับมือกับความเสี่ยงในภูมิภาค (Responding to a Region@Risk) ที่ประชุมเห็นว่าประชาคมอาเซียนต้องลดผลกระทบเพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงทั้งจากภัยทางเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ และภัยก่อการร้าย โดยใช้มาตรการต่าง ๆ ได้แก่ การจัดการเพื่อลดปัญหาความรุนแรงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การบริหารจัดการและใช้เครื่องมือทางการเงินในอนาคตเพื่อลดความเสี่ยงและความผันผวนของภาคการเงินโลก และลดปัญหาความไม่เพียงพอของแหล่งเงินทุนโดยเฉพาะการขาดแคลนสภาพคล่องในการพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนในอนาคต และการลดปัญหาสุขภาพเป็นพื้นฐานของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ๒.๓ การเชื่อมโยงภูมิภาคเป็นหนึ่งเดียว (Realizing Regional Connectivity) ที่ประชุมเห็นว่า อนาคตของเอเชียตะวันออก ความเชื่อมั่น และความสามารถในการปรับตัวของภูมิภาคขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการให้สามารถสร้างความเชื่อมโยงภูมิภาคให้เป็นหนึ่งเดียว การเชื่อมโยงดังกล่าวจะช่วยตอกย้ำบทบาทที่สำคัญของเอเชียตะวันออกในการก้าวขึ้นเป็นอีกหนึ่งเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี เอเชียตะวันออกยังมีประเด็นท้าทายในเรื่องความยั่งยืนของเศรษฐกิจ พลังงาน และทรัพยากร
|
.....