ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | โครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม | นร | 12/06/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางนลินี ทวีสิน) เสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ แนวทางหลักในการดำเนินการ ได้แก่ การสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อสร้างผลงานวิจัยพร้อมกับนักวิจัยระดับปริญญาโท การสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อสร้างผลงานวิจัยพร้อมกับนักวิจัยระดับปริญญาเอก การสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อสร้างผลงานที่เป็นนวัตกรรมหรือแก้ปัญหาในภาคอุตสาหกรรม และการสนับสนุนการสร้างเครือข่ายนักวิจัยระหว่างนักวิจัยในสถาบันอุดมศึกษาและนักวิจัยในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนนักวิจัยในต่างประเทศ ๑.๒ แผนการให้ทุน ช่วงแรกของการให้ทุน จะเริ่มที่ ๒๐๐ ทุน สำหรับทุนวิจัยเพื่อสร้างนักวิจัยระดับปริญญาโท และ ๑๐๐ ทุน สำหรับทุนวิจัยเพื่อสร้างนักวิจัยระดับปริญญาเอก และค่อย ๆ เพิ่มในแต่ละปีจนมีจำนวน ๑,๐๐๐ คนต่อปีในแต่ละระดับ ส่วนการให้ทุนวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมและแก้ปัญหาของอุตสาหกรรม จะเริ่มที่ ๑๐ ทุนในปีแรก และค่อย ๆ เพิ่มทุกปีจนถึง ๑๐๐ ทุนต่อปี รวมระยะเวลาสนับสนุนทุนทั้งสิ้น ๑๕ ปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑.๓ งบประมาณที่ต้องใช้ในระยะเวลา ๑๕ ปี เป็นเงินรวม ๒๙,๑๗๒ ล้านบาท เป็นงบประมาณสำหรับให้ทุนระดับปริญญาโท จำนวน ๓,๔๒๐ ล้านบาท ระดับปริญญาเอก จำนวน ๑๗,๘๕๐ ล้านบาท ทุนวิจัย จำนวน ๕,๒๕๐ ล้านบาท และค่าบริหารจัดการ จำนวน ๒,๖๕๒ ล้านบาท ๒. ในการพิจารณาคัดเลือกผู้รับทุนและกำหนดสาขาวิชาที่จะให้ทุน ให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสนับสนุนการวิจัยแก่สถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาให้สอดคล้องและตรงกับศักยภาพและความชำนาญของแต่ละสถาบันการศึกษาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันอุดมศึกษาที่มีการทำการวิจัยร่วมกับภาคเอกชน ชุมชน หรือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการสร้างนวัตกรรม หรือที่ตอบสนองต่อการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาเรื่องต่าง ๆ ที่สามารถนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม ๓. ให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เกี่ยวกับการกำหนดให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ (การขนส่งระบบราง) จัดอยู่ในกลุ่มสาขาอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเร่งด่วน การกำหนดมาตรการประกันคุณภาพนักวิจัย ควรคิดค้นและริเริ่มตัวชี้วัดและวิธีการประเมินผลใหม่ ๆ เพื่อเป็นการผลักดันให้นักศึกษา นักวิจัย หรืออาจารย์ผลิตผลงานที่เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม ควรมีองค์ประกอบผู้แทนจากภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชน เข้าร่วมด้วย และให้คณะกรรมการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ครอบคลุมถึงการกำหนดโจทย์การวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม พิจารณาหาข้อยุติในกรณีเกิดข้อพิพาท และนำเสนอรายงานการประเมินผลโครงการเมื่อดำเนินงานไปได้ครึ่งทางของระยะที่ ๑ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินโครงการในระยะต่อไป นอกจากนี้ ในการผลิตนักวิจัยที่เป็นนักศึกษาต้องกำหนดโจทย์วิจัยที่มุ่งเน้นความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และผู้ใช้ประโยชน์เห็นพ้องกันและเป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและหน่วยงานเครือข่ายได้ร่วมกำหนดไว้ รวมทั้งมาตรการประกันคุณภาพและตัวชี้วัดความสำเร็จ ควรเน้นความสำเร็จของงานวิจัยที่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมในระดับที่ใกล้เคียงกับตัวชี้วัดด้านคุณภาพวิชาการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. สำหรับกรอบวงเงินโครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม เนื่องจากกรอบวงเงินโครงการฯ ตามแผน ๑๕ ปี จำนวน ๒๙,๑๗๒ ล้านบาท เป็นวงเงินค่อนข้างสูง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยควรประสานความร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชน เพื่อสนับสนุนและบูรณาการการสร้างและพัฒนางานวิจัยเชิงพาณิชย์อุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายรองรับไว้ ในวงเงิน ๒๐๐ ล้านบาท ตามความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ |
.....