ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | เป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2555 | กค | 17/04/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะกรรมการนโยบายการเงินเห็นชอบร่วมกันในการเสนอเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ไว้ที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยรายไตรมาสระหว่างร้อยละ ๐.๕ - ๓.๐ ต่อปี เช่นเดียวกับเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ๑.๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยข้อตกลงดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๒.๑ เป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยรายไตรมาสระหว่างร้อยละ ๐.๕ - ๓.๐ ต่อปี ๑.๒.๒ การติดตามความเคลื่อนไหวของเป้าหมายของนโยบายการเงิน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายของนโยบายการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยจะจัดให้มีการหารือร่วมกันเป็นประจำทุกไตรมาส และเมื่อมีเหตุจำเป็นอื่นใดตามที่ทั้งสองหน่วยงานจะเห็นสมควร ๑.๒.๓ การเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานออกนอกเป้าหมาย กรณีอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเคลื่อนไหวออกนอกช่วงเป้าหมายตามที่ได้ตกลงร่วมกันไว้ ให้คณะกรรมการนโยบายการเงินชี้แจงสาเหตุ แนวทางแก้ไข และระยะเวลาที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะกลับเข้าสู่ช่วงที่กำหนดไว้โดยเร็ว รวมทั้งให้รายงานความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาเป็นระยะตามสมควร ๑.๒.๔ การแก้ไขเป้าหมายของนโยบายการเงิน ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรหรือจำเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะกรรมการนโยบายการเงินอาจตกลงร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาของนโยบายการเงินได้ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปควบคู่ไปกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ใช้เป็นเป้าหมายการดำเนินนโยบายการเงิน และพิจารณาเครื่องมือทางการเงินอื่นนอกเหนือจากการใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายมาใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการดำเนินนโยบาย นอกจากนี้ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังประสานการดำเนินนโยบายการเงินและนโยบายการคลังไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเพื่อรักษาระดับราคาสินค้าและบริการให้เหมาะสม โดยให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสมต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ไปพิจารณาด้วย |
.....