ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การลงนามในร่างแผนปฏิบัติการตามกรอบความร่วมมือหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสหประชาชาติ ปี ค.ศ. 2012 - 2016 | กต | 02/04/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการตามกรอบความร่วมมือหุ้นส่วนระหว่างไทยกับสหประชาชาติ ปี ค.ศ. ๒๐๑๒ - ๒๐๑๖ โดยหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างแผนปฏิบัติการฯ ที่มิใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ ทั้งนี้ ร่างแผนปฏิบัติการฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑.๑ ร่างแผนปฏิบัติการฯ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ โดยมีความร่วมมือหุ้นส่วนด้านต่าง ๆ (Joint Partnership) ใน ๖ สาขา ได้แก่ สาขาการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เป็นประธานร่วม, สาขาสิทธิมนุษยชนและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม (Human Rights and Access to Justice) โดยมีกระทรวงยุติธรรมกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เป็นประธานร่วม, สาขาข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Information) โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) เป็นประธานร่วม, สาขาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เป็นประธานร่วม, สาขาความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Cooperation) โดยมีสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เป็นประธานร่วม และสาขาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยมีกระทรวงพาณิชย์กับองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เป็นประธานร่วม ๑.๑.๒ ร่างแผนปฏิบัติการฯ ยังมีร่างแผนปฏิบัติการย่อยที่เรียกว่า Country Programme Action Plans ขององค์การสหประชาชาติ ๓ องค์กร รวมอยู่ด้วย ได้แก่ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) กองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) และกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ๑.๑.๓ ร่างแผนปฏิบัติการฯ กำหนดให้มีคณะกรรมการสามฝ่าย (Tripartite Committee) เป็นกลไกตรวจสอบและปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ ทุกปี ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN Resident Coordinator) ในฐานะประธานร่วม (co - chair) และผู้แทนอื่น ๆ จากองค์กรสหประชาชาติ และหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้อง โดยมีอำนาจตามที่ระบุใน Annex 9 ของร่างแผนปฏิบัติการฯ ได้แก่ อนุมัติรายงานความคืบหน้าในการดำเนินโครงการต่าง ๆ มอบแนวทางเพื่อปฏิบัติตามโครงการ และเห็นชอบการแก้ไขปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ ตามความจำเป็น ๑.๑.๔ การดำเนินการตามร่างแผนปฏิบัติการฯ จะมีการจัดทำแผนดำเนินงานประจำปี (Annual Work Plans) และเอกสารโครงการต่าง ๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยกับองค์กรต่าง ๆ ขององค์การสหประชาชาติที่เป็นหุ้นส่วนเพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับเป้าหมายของ UNPAF ๑.๒ อนุมัติให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานไทยที่เป็นประธานร่วมของแต่ละความร่วมมือหุ้นส่วน ๖ สาขา เป็นผู้ลงนามในแผนปฏิบัติการฯ ร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ของสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง ๑.๓ อนุมัติให้ผู้แทนส่วนราชการที่อยู่ในคณะกรรมการสามฝ่าย ได้แก่ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN Resident Coordinator) ให้ความเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขแผนปฏิบัติการฯ และสามารถพิจารณาดำเนินการได้เฉพาะในเนื้อหาสาระที่ไม่เกินอำนาจหน้าที่ กฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่มีอยู่ โดยรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบในภายหลัง ๑.๔ ในกรณีที่มีการจัดทำแผนดำเนินงานประจำปี (Annual Work Plans) ระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยกับองค์กรของสหประชาชาติที่เป็นหุ้นส่วนสำหรับความร่วมมือหุ้นส่วนทั้ง ๖ สาขา อนุมัติให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสามารถพิจารณาดำเนินการจัดทำและลงนาม รวมทั้งหากจำเป็นสามารถปรับปรุงแก้ไขแผนดำเนินงานประจำปีร่วมกับองค์กรของสหประชาชาติได้ โดยรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบในภายหลัง เพื่อความคล่องตัวและรวดเร็วในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ๒. ให้เพิ่มเติมหน่วยงานที่ทำหน้าที่ประธานร่วมใน ๒ สาขา คือ สาขา ๕ ความร่วมมือระหว่างประเทศ (International Cooperation) ให้เพิ่มสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสาขา ๖ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ให้เพิ่มสำนักนายกรัฐมนตรี ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการปรับตัวเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการป้องกันภัยพิบัติ เห็นควรเพิ่มการดำเนินงานในด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติจากน้ำท่วม น้ำแล้ง และโคลนถล่ม ที่อาจมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....