ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | รายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ | นร | 29/03/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ วงเงิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑.๑ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๖๔ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑๑๕,๑๔๙.๙๗๓ ล้านบาท ไม่มีการจัดสรรเพิ่มเติม ๑.๑.๑.๑ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายสะสม ณ เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๕๖,๒๖๒.๐๕๗ ล้านบาท เปรียบเทียบกับแผนฯ ณ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๔๑,๗๘๓.๐๓๗ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๑๔,๔๗๙.๐๑๙ ล้านบาท คิดเป็น ๓๔.๖๕ ๑.๑.๑.๒ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการแล้วมีการเบิกจ่ายสะสม ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๓๙,๖๙๔.๙๐๖ ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๓๗,๒๑๒.๒๙๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๒,๔๘๒.๖๑๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖.๖๗ ๑.๑.๑.๓ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลงนามในสัญญาแล้ว เป็นเงิน ๔๙,๕๑๑.๔๒๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๓.๐๐ ของวงเงินจัดสรร และยังไม่ลงนามในสัญญา เป็นเงิน ๖๕,๖๓๘.๕๕๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๗.๐๐ ของวงเงินจัดสรร ๑.๑.๒ สถานะการเบิกจ่าย จำแนกออกเป็น ๓ กลุ่ม ๑.๑.๒.๑ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ยังไม่เบิกจ่าย ประกอบด้วย (๑) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ยังไม่เบิกจ่ายเนื่องจากยังไม่ถึงกำหนดการใช้จ่ายตามแผนฯ จำนวน ๑๓ หน่วยงาน วงเงินจัดสรร ๑๐,๓๘๑.๑๘๑ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๓ หน่วยงาน เป็นเงิน ๒๐๗.๒๓๖ ล้านบาท ที่เหลืออีก จำนวน ๑๐ หน่วยงาน ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง และมีการลงนามในสัญญาแล้วบางส่วนแต่อยู่ระหว่างการบันทึกข้อมูลการลงนามในสัญญาจัดซื้อ หรือ Purchase Order : PO ในระบบระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์” หรือ ระบบ Government Fiscal Management System : GFMIS และ (๒) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ถึงกำหนดการใช้จ่ายตามแผนฯ แล้ว แต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย จำนวน ๑๐ หน่วยงาน วงเงินจัดสรร ๓,๐๓๙.๓๕๑ ล้านบาท เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๑ หน่วยงาน เป็นเงิน ๓.๖๙๘ ล้านบาท ๑.๑.๒.๒ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ เมื่อเปรียบเทียบกับแผนการใช้จ่ายสะสม ประกอบด้วย (๑) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมต่ำกว่าร้อยละ ๓๐ จำนวน ๑๖ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๕๒,๓๕๔.๒๓๗ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๑๖ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑๐,๒๓๔.๐๙๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๙.๕๕ ของวงเงินจัดสรร (๒) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมระหว่างร้อยละ ๓๐ ถึง ๕๐ จำนวน ๔ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๓,๒๖๗.๒๑๗ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๔ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑,๐๘๒.๗๔๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๑๔ ของวงเงินจัดสรร และ (๓) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมระหว่างร้อยละ ๕๐ ถึง ๘๐ จำนวน ๘ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๗,๑๔๙.๕๓๖ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๘ หน่วยงาน เป็นเงิน ๑,๗๙๘.๕๓๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๑๖ ของวงเงินจัดสรร ๑.๑.๒.๓ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายสะสมสูงกว่าร้อยละ ๘๐ จำนวน ๑๓ หน่วยงาน ได้รับวงเงินจัดสรรทั้งสิ้น ๓๘,๙๕๘.๔๕๒ ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน ๑๓ หน่วยงาน เป็นเงิน ๓๖,๑๘๕.๑๑๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙๒.๘๘ ของวงเงินจัดสรร ๑.๒ เห็นชอบแนวปฏิบัติ ดังนี้ ๑.๒.๑ กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ยังมิได้ดำเนินการหรือยังมิได้เบิกจ่าย หรือเบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายสะสม ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเร่งรัดส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง/ลงนามในสัญญา หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง รายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ) เพื่อให้สามารถดำเนินการได้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยได้อย่างเหมาะสม ๑.๒.๒ กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ลงนามในสัญญาแล้ว และมีวงเงินจัดซื้อจัดจ้างหรือวงเงินดำเนินการเองต่ำกว่าวงเงินที่ได้รับการจัดสรร ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการจัดสรรงบประมาณคืนสำนักงบประมาณโดยด่วนภายใน ๑๕ วัน หลังจากทราบผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือวงเงินดำเนินการเองตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ๑.๒.๓ หากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนการประกวดราคา หรือกรณีดำเนินการเองที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติงานตามแผนฯ ภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ ให้สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมและความจำเป็นในการดำเนินการโครงการอีกครั้ง หากเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ของแผนงานตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ก็ให้แจ้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจให้นำเสนอโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่อพิจารณาใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกรณีที่ทบทวนโครงการแล้วปรากฏว่ามีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการและเป็นโครงการที่ไม่เป็นลักษณะเฉพาะที่ต้องดำเนินการโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ให้สามารถปรับเปลี่ยนหน่วยงานเจ้าของโครงการที่มีความพร้อมมากกว่าได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ในการรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป ให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประมวลผลข้อมูลการเบิกจ่ายและผลการดำเนินงานโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการให้เสร็จสิ้นทุกวันพุธ เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดี และนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในวันอังคารสัปดาห์ถัดไป เพื่อที่รัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบได้อย่างรวดเร็วต่อไป ๔. ให้รัฐมนตรีนำข้อมูลตามรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ไปตรวจสอบและติดตามการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในความรับผิดชอบ โดยเฉพาะโครงการในกลุ่มที่ถึงกำหนดตามแผนฯ แล้วแต่ยังไม่ได้เบิกจ่าย กลุ่มที่เบิกจ่ายต่ำกว่าร้อยละ ๓๐ และกลุ่มที่เบิกจ่ายระหว่างร้อยละ ๓๐ - ร้อยละ ๕๐ และให้รายงานสถานะความก้าวหน้าล่าสุด ตลอดจนปัญหาอุปสรรคและสาเหตุของความล่าช้าในการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมครั้งต่อไปในวันจันทร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๕ |
.....