ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย | อก | 06/03/2555 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมและการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการฟื้นฟู เยียวยานิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ๗ แห่ง ที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ได้แก่ นิคมสหรัตนนคร นิคมไฮเทค นิคมบางปะอิน นิคมโรจนะ นิคมแฟคตอรี่แลนด์ นิคมนวนคร และนิคมบางกะดี ขณะนี้มีโรงงานประกอบกิจการแล้ว ๔๒๒ ราย คิดเป็นร้อยละ ๔๙.๔๗ ของโรงงานทั้งหมด ๘๕๓ ราย ๒. การดำเนินการฟื้นฟูโรงงานขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ประสบอุทกภัยซึ่งตั้งอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้มีโรงงาน สถานประกอบการอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน ได้เปิดดำเนินการแล้ว ๖,๐๖๐ ราย คิดเป็นร้อยละ ๗๖.๖๕ ของสถานประกอบการทั้งหมด ๓. มาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ๓.๑ การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์และวัตถุดิบที่นำมาทดแทนเครื่องจักรอุปกรณ์และวัตถุดิบนำเข้าที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน ๑๗๖ โครงการ มูลค่า ๗๒,๙๓๙ ล้านบาท ๓.๒ อนุมัติวีซ่าและใบอนุญาตทำงานแก่บริษัทที่ได้รับการส่งเสริม จำนวน ๑๕๘ บริษัท จำนวนคนต่างชาติ ๖๑๔ คน ๓.๓ การอนุญาตให้ส่งออกเครื่องจักรและวัตถุดิบไปต่างประเทศ และการย้ายเครื่องจักรและวัตถุดิบไปต่างประเทศ หรืออยู่นอกโครงการเป็นการชั่วคราว จำนวน ๓๒๕ โครงการ ๓.๔ การออกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๑/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรื่อง มาตรการด้านภาษีอากร เพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัย เพิ่มสิทธิประโยชน์หรือยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายทั้งในกรณีทำการผลิตชั่วคราวหรือลงทุนใหม่ เพื่อฟื้นฟูธุรกิจในประเทศ ๔. โครงการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ๔.๑ โครงการจัดตั้งศูนย์พักพิงอุตสาหกรรม มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการรวม ๑๓๓ ราย จากเป้าหมาย ๑๐๐ ราย ประกอบด้วยสถานประกอบการอุตสาหกรรม ๗๐ ราย และวิสาหกิจชุมชน ๖๓ ราย มีการใช้พื้นที่แล้ว ๑๘,๒๔๐ ตารางเมตร จากพื้นที่ ๒๑,๖๔๐ ตารางเมตร คงเหลือพื้นที่สามารถรองรับสถานประกอบการได้อีก ๓,๔๐๐ ตารางเมตร ๔.๒ โครงการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และกากอุตสาหกรรมในสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย ทีมวิศวกรได้ออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ ดูแล ตรวจสอบ และแนะนำเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งชนิดอันตรายและไม่อันตราย และแก้ไขการปนเปื้อนของสารพิษ สารเคมี ซึ่งขณะนี้เก็บรวบรวมข้อมูลสถานประกอบการได้แล้ว ๑,๐๕๔ ราย หรือร้อยละ ๕๒.๗ ของโรงงานเป้าหมายทั้งหมด (๒,๐๐๐ โรงงาน) ๔.๓ โครงการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ดิน และการปนเปื้อนของสารพิษอุตสาหกรรมในสถานประกอบการทั้งภายในและภายนอกนิคม โดยมุ่งเน้นสถานประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม/เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรมทั้ง ๗ แห่ง ที่ประสบอุทกภัย ขณะนี้ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ผลแล้ว ๓๘๙ ตัวอย่าง หรือร้อยละ ๓๒ ของตัวอย่างทั้งหมด (๑,๒๐๐ ตัวอย่าง) ๕. ความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อน นิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๑ กิโลเมตร เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ สวนอุตสาหกรรมบางกะดี ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๘.๕ กิโลเมตร มีแผนการก่อสร้างเริ่มวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร กำหนดดำเนินการวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร กำหนดดำเนินการวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ สวนอุตสาหกรรมนวนคร ก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๘ กิโลเมตร เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ และนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร มีแผนการก่อสร้างเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ เสร็จสิ้นในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕
|
.....