ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | แนวทางการรับประกันภัยพิบัติภายใต้พระราชกำหนดกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 | กค | 06/03/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางการรับประกันภัย ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ วงเงินความคุ้มครองและการจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ (sub limit) แบ่งตามประเภทของผู้เอาประกันภัยเป็น ๓ ประเภท ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ กลุ่มบ้านอยู่อาศัย วงเงินความคุ้มครองไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราเบี้ยประกันภัยที่ร้อยละ ๐.๕ ต่อปี ของวงเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) หมายถึง ธุรกิจที่มีทุนประกันภัยไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท จะจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ภัยพิบัติที่ไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของทุนประกันภัย คิดอัตราเบี้ยประกันภัยที่ร้อยละ ๑.๐ ต่อปี ของวงเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ และกลุ่มอุตสาหกรรม หมายถึง ธุรกิจที่มีทุนประกันภัยตั้งแต่ ๕๐ ล้านบาทขึ้นไป จะจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์ภัยพิบัติที่ไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของทุนประกันภัย คิดอัตราเบี้ยประกันภัยที่ร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี ของวงเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ๑.๒ เกณฑ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ (Trigger) ครอบคลุมประเภทภัยพิบัติรวม ๓ ภัย ได้แก่ วาตภัย อุทกภัย และธรณีพิบัติภัย ๑.๓ วิธีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน บริษัทประกันภัยจะสำรวจและประเมินความเสียหายโดยจะจ่ายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติในทุกกรณี ยกเว้นกรณีอุทกภัยในกลุ่มบ้านอยู่อาศัย เนื่องจากมีผู้เอาประกันภัยจำนวนมาก โดยหากน้ำท่วมพื้นที่อาคารจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่ ๓๐,๐๐๐ บาท หากระดับน้ำสูง ๕๐ เซนติเมตร ๗๕ เซนติเมตร และ ๑๐๐ เซนติเมตรจากพื้นที่อาคาร จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่ ๕๐,๐๐๐ บาท ๗๕,๐๐๐ บาท และ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตามลำดับ ๑.๔ ประมาณการวงเงินความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ คาดว่าจะมีความต้องการเอาประกันภัยพิบัติเฉลี่ยที่ร้อยละ ๙๐.๔๕ ของจำนวนกรมธรรม์ทั้งหมดในปัจจุบัน โดยในกลุ่มบ้านอยู่อาศัย จำนวน ๑.๓ ล้านกรมธรรม์ในปัจจุบัน คาดว่าจะมีความต้องการเอาประกันภัยพิบัติทั้งหมด ในขณะที่กลุ่ม SMEs และอุตสาหกรรม อีกประมาณ ๒๔๕,๐๐๐ กรมธรรม์ คาดว่าร้อยละ ๙๐ จะมีความต้องการเอาประกันภัยพิบัติ ดังนั้น ประมาณการวงเงินความคุ้มครองรวมของกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติจะอยู่ที่ระดับ ๒,๕๙๘,๔๘๖ ล้านบาท ๑.๕ ค่าสินไหมทดแทนที่อาจเป็นไปได้สูงสุด (Probable Maximum Loss : PML) ที่เหมาะสมสำหรับกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติในการบริหารความเสี่ยงควรอยู่ที่ระดับ ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๖ ความเสี่ยงของรัฐบาล โดยที่กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติมีวงเงินในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ จำนวน ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท สามารถบริหารจัดการเพื่อรองรับความเสียหายสูงสุดที่ ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเกิดภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด ทำให้ความเสียหายสูงกว่า ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าความสามารถของกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติในการบริหารจัดการความเสียหาย ในส่วนนี้รัฐบาลจำเป็นต้องเข้ามาดูแลรับผิดชอบ โดยคาดว่ารัฐบาลจะมีความเสี่ยงสูงสุดที่ ๒,๒๙๘,๔๘๖ ล้านบาท ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของกองทุนได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติคำนึงถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงในระยะยาว และมีการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนทุกปี เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ส่วนการกำหนดจำนวนค่าสินไหมทดแทนรวมของผู้เอาประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติให้ต้องมากกว่า ๕,๐๐๐ ล้านบาท ต่อหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน ๖๐ วัน อาจเป็นจำนวนค่าสินไหมทดแทนรวมต่อครั้งที่สูงเกินไป เห็นควรให้คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติลดข้อกำหนดจำนวนค่าสินไหมทดแทนรวมต่อครั้งให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....