ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนภายในประเทศภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ | กต | 22/02/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมี ๓ ประเด็นหลัก ได้แก่ กระบวนการจัดทำรายงาน UPR เป็นไปอย่างเปิดกว้างและโปร่งใส ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย ความก้าวหน้าของไทยในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ทั้งการที่ไทยเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก การมีกรอบกฎหมายและกลไกด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อคุ้มครองสิทธิของกลุ่มเปราะบางและกลุ่มชายขอบ ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น และประเด็นท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนและการแก้ไขปัญหาในบริบทของไทย ได้แก่ สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการโยกย้ายถิ่นฐานและการค้ามนุษย์ โดยประเทศไทยได้รับข้อเสนอแนะจากประเทศต่าง ๆ จำนวน ๑๗๒ ข้อ และสามารถยอมรับข้อเสนอแนะได้เลย จำนวน ๑๐๐ ข้อ ซึ่งเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับท่าทีและการดำเนินการของไทยอยู่แล้ว สำหรับข้อเสนอแนะอีก ๗๒ ข้อ ไทยขอนำกลับมาพิจารณาโดยมีกำหนดที่จะต้องแจ้งท่าทีต่อข้อเสนอแนะดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๑๙ ทราบในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ๑.๒ เห็นชอบท่าทีไทยต่อข้อเสนอแนะ จำนวน ๗๒ ข้อ และเหตุผลประกอบข้อเสนอแนะ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำเอกสารสรุปท่าทีไทยเพื่อส่งให้สหประชาชาติภายในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ตามที่สหประชาชาติกำหนดโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก ๑.๓ เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการจัดทำรายงานประเทศภายใต้กลไก UPR เป็น “คณะกรรมการกำกับดูแลการจัดทำรายงานประเทศและติดตามการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะภายใต้กลไก UPR” โดยมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ในการติดตามความคืบหน้าในการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ไทยให้การรับรอง รวบรวมและประมวลข้อมูลดังกล่าวเพื่อเตรียมการจัดทำรายงานในช่วงครึ่งเทอมแรก (ในอีกประมาณ ๒ ปีข้างหน้า) และการจัดทำและนำเสนอรายงาน UPR ของไทยในรอบที่สองในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ต่อไป ๑.๔ ให้ส่วนราชการต่าง ๆ ในคณะกรรมการกำกับดูแลการจัดทำรายงานประเทศและติดตามการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะภายใต้กลไก UPR จัดทำแผนการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะและคำมั่นที่เกี่ยวข้อง โดยหารือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการฯ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะได้นำมาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการตามข้อเสนอแนะและคำมั่น UPR ในภาพรวม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวให้เกิดผลดีต่อประชาชนภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการตอบรับข้อเสนอแนะในการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย เนื่องจากประเทศไทยกำลังรื้อฟื้นกระบวนการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ในขั้นตอนการดำเนินการในระยะต่อไปจำเป็นต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงประเด็นเรื่องสิทธิของรัฐในการกำหนดเงื่อนไขให้คนต่างด้าวลี้ภัยในดินแดนของตน และความเสี่ยงของประเทศไทยที่อาจต้องยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไว้เป็นการล่วงหน้า ตามที่ได้บัญญัติไว้ในอนุสัญญาฯ เพราะอาจจะมีผลเชื่อมโยงไปถึงการเรียกร้องให้ถอนข้อสงวน ข้อ ๒๒ ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กด้วย และในการจัดทำแผนปฏิบัติการและติดตามการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะและคำมั่น UPR ในภาพรวม ซึ่งจะต้องดำเนินการผ่านคณะกรรมการกำกับดูแลการจัดทำรายงานประเทศและติดตามการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะภายใต้กลไก UPR เห็นควรให้มีการประสานงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในคณะกรรมการฯ โดยใกล้ชิดบนพื้นฐานของการคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศไทยในภาพรวมทั้งในด้านความมั่นคง ด้านสิทธิมนุษยชน และด้านภาพลักษณ์ของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....