ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย | อก | 13/02/2555 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัยและการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรม เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการฟื้นฟู เยียวยานิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ๗ แห่ง ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี ได้แก่ นิคมสหรัตนนคร นิคมไฮเทค นิคมบางปะอิน นิคมโรจนะ นิคมแฟคตอรี่แลนด์ นิคมนวนคร และนิคมบางกะดี ขณะนี้มีโรงงานประกอบกิจการแล้ว ๓๒๘ ราย ๒. การดำเนินการฟื้นฟูโรงงานขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งตั้งอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้มีโรงงาน สถานประกอบการอุตสาหกรรม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน เปิดดำเนินการแล้ว ๑,๐๐๙ ราย ๓. มาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ๓.๑ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์และวัตถุดิบที่นำมาทดแทนเครื่องจักรอุปกรณ์และวัตถุดิบนำเข้าที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน ๓๑๒ โครงการ มูลค่ารวม ๒๙,๐๐๐ ล้านบาท ๓.๒ อนุมัติวีซ่าและใบอนุญาตทำงานแก่บริษัทที่ได้รับการส่งเสริม จำนวน ๘๑ บริษัท ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ จำนวน ๓๕๖ ราย ๓.๓ อนุญาตให้ส่งออกเครื่องจักรและวัตถุดิบไปต่างประเทศ และการย้ายเครื่องจักรและวัตถุดิบไปต่างประเทศ หรืออยู่นอกโครงการเป็นการชั่วคราว สำหรับผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่ประสบอุทกภัย โดยดำเนินการอนุญาตอย่างเร่งด่วนได้ภายในวันเดียวกับที่บริษัทยื่นเรื่อง จำนวน ๒๐๐ โครงการ ๓.๔ เพิ่มสิทธิประโยชน์หรือยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายทั้งในกรณีทำการผลิตชั่วคราวหรือลงทุนใหม่ เพื่อฟื้นฟูธุรกิจในประเทศ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการออกประกาศ ๔. โครงการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ๔.๑ โครงการจัดตั้งศูนย์พักพิงอุตสาหกรรม เป็นการจัดตั้งศูนย์สำหรับเป็นพื้นที่สำนักงานและโรงงานชั่วคราวสำหรับสถานประกอบการและวิสาหกิจชุมชนที่ประสบอุทกภัย เพื่อการผลิต จัดเก็บอุปกรณ์เครื่องจักรและซ่อมแซมเครื่องจักร ณ สำนักงานอำนวยการศูนย์พักพิง บริเวณตลาดโรงเกลือประตูน้ำพระอินทร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน ๑๑๔ ราย ประกอบด้วย สถานประกอบการอุตสาหกรรม จำนวน ๖๕ ราย และวิสาหกิจชุมชน จำนวน ๖๑ ราย มีการใช้พื้นที่แล้วรวม ๑๖,๐๒๐ ตารางเมตร จากพื้นที่ ๒๐,๐๐๐ ตารางเมตร คงเหลือพื้นที่สามารถรองรับสถานประกอบการได้อีก ๓,๙๘๐ ตารางเมตร ๔.๒ โครงการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และกากอุตสาหกรรมในสถานประกอบการที่ประสบอุทกภัย ได้ส่งทีมวิศวกรออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ เพื่อดูแล ตรวจสอบ และแนะนำเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน การดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งชนิดอันตรายและไม่อันตรายและแก้ไขการปนเปื้อนของสารพิษ สารเคมี โดยเก็บรวบรวมข้อมูลสถานประกอบการ จำนวน ๓๐๖ ราย หรือร้อยละ ๑๕.๓ ของโรงงานเป้าหมายทั้งหมด (๒,๐๐๐ โรงงาน) ๔.๓ โครงการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ดิน และการปนเปื้อนของสารพิษอุตสาหกรรมในสถานประกอบการทั้งภายในและภายนอกนิคม มีการเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ ดินและสารปนเปื้อนของสารพิษอุตสาหกรรมทั้งในและนอกนิคมในพื้นที่ ๑๔ จังหวัดที่ประสบอุทกภัย มุ่งเน้นสถานประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม/เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ๗ แห่ง ที่ประสบอุทกภัย โดยดำเนินการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ผลแล้ว จำนวน ๓๗๒ ตัวอย่าง หรือร้อยละ ๓๑ ของตัวอย่างทั้งหมด (๑,๒๐๐ ตัวอย่าง) ๔.๔ โครงการคลินิกอุตสาหกรรม มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ จำนวน ๔,๓๘๘ ราย จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น จำนวน ๘๕๗ ราย สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ดำเนินการฟื้นฟูเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จำนวน ๖๗๖ ราย ๕. ความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อน นิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ความยาวโดยประมาณ ๑๑ กิโลเมตร สวนอุตสาหกรรมบางกะดี ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ความยาวโดยประมาณ ๘.๕ กิโลเมตร เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ความยาวโดยประมาณ ๗๗.๖ กิโลเมตร นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร สวนอุตสาหกรรมนวนคร ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ความยาวโดยประมาณ ๑๘ กิโลเมตร และนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ความยาวโดยประมาณ ๑๓ กิโลเมตร ซึ่งการก่อสร้างเขื่อนทั้งหมดกำหนดเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน ๒๕๕๕
|
.....