ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ปี 2555 | รง | 13/02/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ปี ๒๕๕๕ ซึ่งผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๕ แล้ว ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยแนวทางการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ ประกอบด้วย ๑.๑ การเร่งรัดดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่ได้รับการผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การขยายเวลาการพิสูจน์สัญชาติและการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรแก่แรงงานต่างด้าว และการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเพิ่มเติม) ที่ได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ๑.๒ การพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและได้รับอนุญาตทำงาน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔ (เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบ) ซึ่งใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ๑.๓ การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราให้แก่แรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ และแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมายตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐ (MOU) จากอัตราปกติ ๒,๐๐๐ บาท เหลือ ๕๐๐ บาท และสามารถขออยู่ต่อได้อีกครั้งเดียว ค่าธรรมเนียมในอัตรา ๕๐๐ บาทเช่นกัน ๑.๔ การขยายเวลาการเก็บเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๕๑ ออกไปอีก ๑ ปี ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ ควรมุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวทั้งระบบอย่างยั่งยืน และควรจัดทำแผนงานรองรับอย่างรอบคอบ ชัดเจน และรัดกุม บนพื้นฐานของผลประโยชน์แห่งชาติอย่างสมดุล ทั้งมิติการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และสิทธิมนุษยชน โดยคำนึงถึงเงื่อนเวลาที่กระชั้นชิดในการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวกลุ่มใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔ ให้เสร็จทันตามกำหนดก่อนวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ส่วนการขยายเวลาเริ่มเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ออกไปอีก ๑ ปี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหารือกับประเทศต้นทางอย่างใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าวเข้าใจในการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ไปประกอบการดำเนินการด้วย ๓. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย |
.....