ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานสรุปผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของผู้แทนการค้าไทย (นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์) | นร | 07/02/2555 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการเดินทางเยือนมณฑลเสฉวน และนครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ของผู้แทนการค้าไทย (นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์) ระหว่างวันที่ ๑๑ - ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๔ เพื่อแสวงหาความร่วมมือในด้านการค้าการลงทุน ประกอบด้วยการหารือข้อราชการกับรองผู้ว่าราชการมณฑลเสฉวน และการหารือกับทีมประเทศไทย เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจไทยและจีน ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการหารือกับรองผู้ว่าราชการมณฑลเสฉวน ๑.๑ รองผู้ว่าฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและการผลักดันความร่วมมือระหว่างเสฉวนกับไทย และได้ย้ำถึงศักยภาพของมณฑลเสฉวนที่มีขนาดใหญ่ทั้งด้านประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ และเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ลำดับ ๘ ของจีน และเป็นตลาดในด้านอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เป็นผู้นำด้านการค้าระหว่างประเทศแห่งจีนภาคตะวันตก ภายใต้นโยบายของรัฐบาลกลางที่ผลักดันให้เสฉวนเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคม ทางการเงิน และอุตสาหกรรมในจีนตะวันตก จึงมีความพร้อม เช่น การมีสนามบินนานาชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ ๔ รองจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว และภายในสิ้นปีนี้ ถนน Panzhihua ที่เชื่อมต่อเฉินตูไปถึงกรุงเทพฯ จะแล้วเสร็จและคาดว่าจะใช้เวลาน้อยกว่า ๒๔ ชั่วโมงในการเดินทางโดยรถยนต์ ๑.๒ ผู้แทนการค้าไทยได้ขอให้ฝ่ายจีนพิจารณาถึงวิธีการทางศุลกากรและการผ่านด่านกักกันพืชและสัตว์ที่ต้องใช้เวลานาน ทำให้ผลไม้ที่ส่งออกจากไทยขายไม่ได้ราคาและเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการไทย โดยเสนอตัวอย่างการขนส่งผ่านเมืองกวางโจว ซึ่งมีวิธีการทางศุลกากรที่รวดเร็วทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ส่งตรงทางกวางโจว ซึ่งรองผู้ว่าฯ ได้รับปากที่จะพัฒนาให้เสฉวนมีการบริการที่รวดเร็วเหมือนกวางโจว ๑.๓ รองผู้ว่าฯ เสนอให้ฝ่ายไทยดำเนินการในเรื่องขั้นตอนทางศุลกากรต่อการนำเข้าสตรอเบอร์รีจากจีนให้รวบรัดกว่าเดิม รวมทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ศุลกากรของทั้งสองฝ่ายให้ดีกว่าเดิม ๑.๔ ผู้แทนการค้าไทยและรองผู้ว่าฯ ได้หารือถึงศักยภาพของบริษัทจีนในการผลิตแท็บเล็ต พีซี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย โดยเสฉวนเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของบริษัทชั้นนำระดับโลก เช่น Apple Dell และ Lenovo ซึ่งมีกำลังการผลิตถึง ๑๐๐ ล้านเครื่องต่อปี โดยรองผู้ว่าฯ จะมอบให้สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกรมพาณิชย์ดำเนินการจัดหาข้อมูลต่อไป นอกจากนี้ ผู้แทนการค้าไทยได้เชิญชวนภาครัฐและเอกชนจีนไปลงทุนในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ การสร้างพลังงานทดแทนต่าง ๆ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ การคมนาคมขนส่งทางรถไฟ และโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ๒. การหารือกับทีมประเทศไทย ๒.๑ ผู้แทนการค้าไทยได้หารือกับทีมประเทศไทยประจำนครเฉินตูถึงธุรกิจที่มีศักยภาพในการดำเนินงาน ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทย โดยเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องตกแต่งและสินค้าไทยอื่น ๆ เช่น ผ้าไหม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สปาและสมุนไพรที่เป็นที่นิยมสำหรับชาวจีน โดยการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้านั้น ผู้ประกอบการไทยจะสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนสินค้าไทย ๒.๒ การหารือกับทีมประเทศไทย ณ สถานกงสุลใหญ่ประจำนครคุนหมิง ๒.๒.๑ ผู้แทนการค้าไทยได้หารือในเรื่องอุปสรรคต่อการค้าของไทยในประเด็นบนเส้นทางถนนหมายเลข R3 (ไทย - ลาว - จีนตอนใต้) โดยเฉพาะช่วงสาย R3A ซึ่งเป็นเส้นทางช่วงจีน - ลาว - ไทย ที่ประสบปัญหาความล่าช้าในการเดินรถ ผู้ประกอบการไทยที่ส่งสินค้าผ่านเส้นทางนี้ต้องทำการเปิดตู้สินค้าและเปลี่ยนหัวรถลากเมื่อผ่านชายแดนลาวทุกครั้ง เนื่องจากไทยยังไม่ได้มีการลงนามความตกลงขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Transport Agreement - CBTA) ยกเว้นสินค้าประเภทผลไม้ ซึ่งไทยและจีนได้ลงนามในพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สาม ทำให้ลดระยะเวลาในการตรวจโรคและขนส่งเหลือเพียง ๒ - ๓ วัน ๒.๒.๒ รัฐบาลจีนได้กำหนดเงื่อนไขของบริษัทที่มีสิทธิ์ยื่นขอโควตานำเข้าข้าว รวมทั้งได้ระงับการนำเข้าไก่สดและไก่แช่แข็งจากไทย โดยอ้างปัญหาไข้หวัดนก ทำให้มีการลักลอบการนำเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาไก่ที่ชาวจีนมีการบริโภคสูง นอกจากนี้ ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทสมุนไพรจำนวนมาก แต่ประสบปัญหาในการนำเข้าจีน เนื่องจากหลักเกณฑ์การปฏิบัติและเอกสาร เช่น ใบรับรองปลอดศัตรูพืช ไม่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับไทย และยังต้องเสียภาษีนำเข้าเนื่องจากสมุนไพรไม่ได้อยู่ในพิกัด ๐๗ และ ๐๘ ตามข้อตกลงการลดภาษีส่วนแรก (Early Harvest) ๒.๒.๓ ตามที่ได้มีกลุ่มบริษัท หนุน ซี กรุ๊ป จากคุนหมิงได้เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมยางพาราและการแปรรูปยางพาราในจังหวัดเชียงราย ซึ่งการลงทุนครั้งนี้สามารถสร้างมูลค่าได้ถึงปีละ ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเหมาะสมกับผู้ประกอบการไทยที่จะลงทุนในจีน ได้แก่ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ อุตสาหกรรมยางใน อุตสาหกรรมสายพานลำเลียงและการแปรรูปต่าง ๆ ที่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า
|
.....