ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี พ.ศ. 2553 | พม | 31/01/2555 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ปริมาณการจับกุมคดีค้ามนุษย์ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีจำนวนทั้งสิ้น ๗๐ คดี โดยมีประเภทคดีเพียง ๓ ประเภท คือ การแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี จำนวน ๕๘ คดี การนำคนมาขอทาน จำนวน ๒ คดี และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ จำนวน ๑๐ คดี สำหรับผู้เสียหาย มีจำนวนทั้งสิ้น ๘๗ คน แบ่งเป็นคนไทย จำนวน ๕๑ คน ต่างชาติ จำนวน ๓๖ คน จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนทั้งสิ้น ๑๑๕ คน แบ่งเป็นคนไทย จำนวน ๑๐๑ คน และต่างชาติ จำนวน ๑๔ คน ๒. ประเทศไทยยังคงมี ๓ สถานะในกระบวนการค้ามนุษย์ ได้แก่ สถานะประเทศต้นทาง สถานะประเทศปลายทาง และสถานะทางผ่าน โดยเฉพาะสถานะของประเทศปลายทาง เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานไร้ฝีมือในทุกภาคการผลิตส่งผลให้มีผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแสวงหาประโยชน์จากการใช้แรงงาน นอกจากนี้ ยังมีคนไทยเป็นจำนวนมากที่ถูกแสวงหาประโยชน์จากการไปทำงานในต่างประเทศด้วย ๓. การดำเนินงานป้องกัน ได้มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ครอบคลุมทุกด้านอย่างเป็นระบบทั้งในด้านการป้องกัน การดำเนินคดี การคุ้มครอง และด้านการพัฒนานโยบาย ซึ่งมีผลการดำเนินงานสรุปได้ ดังนี้ ๓.๑ ด้านการดำเนินคดี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จับกุมคดีค้ามนุษย์ที่มีตัวผู้กระทำความผิดทั่วประเทศได้ จำนวน ๗๐ คดี โดยมีองค์กรภาคเอกชนเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส และข้อมูล พร้อมทั้งสนับสนุนการนำจับ ซึ่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องคดี จำนวน ๗๐ คดีเช่นกัน ๓.๒ ด้านการคุ้มครอง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีกลุ่มเสี่ยงหรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจตกเป็นผู้เสียหายเข้ารับการคุ้มครองในสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน ๕๐๙ คน และได้ใช้แบบประเมินสภาพร่างกาย จิตใจ และสังคม เพื่อคัดกรองผู้เสียหายจากกลุ่มเสี่ยงและได้รับใบส่งตัวเป็นผู้เสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น ๘๗ คน เป็นคนไทย ๕๑ คน ต่างชาติ ๓๖ คน ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือ ฟื้นฟู และดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและค่าชดเชย ๓.๓ ด้านการป้องกัน ได้สร้างความตระหนักถึงภัยการค้ามนุษย์และรูปแบบหรือวิธีการของกระบวนการค้ามนุษย์สำหรับประชาชนทั่วไป และประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ในรูปแบบต่าง ๆ การผลิตสื่อรณรงค์ และเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับภัยการค้ามนุษย์ ของภาคธุรกิจ ภาคเอกชนในระดับพื้นที่ และการเข้าถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น กลุ่มแรงงานไร้ฝีมือ หรือกึ่งมีฝีมือที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้รับทราบถึงวิธีการแสวงหาประโยชน์จากนายหน้าค้ามนุษย์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศที่จะเดินทางเพื่อไปทำงาน รวมถึงแหล่งให้ความช่วยเหลือกรณีประสบปัญหา ของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สำหรับแรงงานต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาตามด่านพรมแดนถาวร หรือด่านชั่วคราว จะมีสื่อรณรงค์เป็นภาษาต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ไว้เพื่อเตือนให้ระวังภัยจากการค้ามนุษย์ และแหล่งให้ความช่วยเหลือ ๓.๔. ด้านการพัฒนานโยบาย ได้มีการประชุมความร่วมมือในระดับพหุภาคีในกลุ่มอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงซึ่งเป็นประเทศต้นทางในกระบวนการค้ามนุษย์ของไทย เพื่อวางแผนในการพัฒนาผู้บังคับใช้กฎหมาย การจัดการข้อมูล และการส่งกลับโดยปลอดภัย รวมทั้งความร่วมมือในระดับทวิภาคีกับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการส่งกลับผู้เสียหายไปยังประเทศต้นทาง ๔. แนวทางการดำเนินการต่อไป ได้แก่ การส่งเสริมให้แรงงานต่างด้าวมีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย การเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศปลายทางในการปราบปรามการแสวงหาประโยชน์จากแรงงานไทย การพัฒนาระบบข้อมูลของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและการดำเนินคดี การสร้างความเข้าใจกับทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังการแสวงหาประโยชน์จากการใช้แรงงาน การแสวงหาประโยชน์ทางเพศรูปแบบอื่น รวมทั้งการพัฒนาแบบคัดแยกเหยื่อให้เป็นมาตรฐาน และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่คาดว่าจะเป็นผู้เสียหายให้ความร่วมมือในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
|
.....