ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย | อก | 19/12/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ ๑.๑ การลงทะเบียนผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยเพื่อขอรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ตามที่รัฐบาลได้มีมาตรการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำโดยการอุดหนุนอัตราดอกเบี้ยและค้ำประกันโดยรัฐ จำแนกออกเป็น ๒ ประเภท คือ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ๓% ต่อปี โดยธนาคารออมสินนำเงินเข้าฝากธนาคารพาณิชย์ที่เข้าโครงการ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย ๐.๐๑% ต่อปี และธนาคารพาณิชย์สมทบเงินกู้อีก ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำค้ำประกันโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม (บสย.) สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม วงเงิน ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ๓% ต่อปี ในช่วง ๓ ปีแรก โดยรัฐชดเชยค่าธรรมเนียมและชดเชยความเสียหายไม่เกิน ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท จากการเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ มีผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยลงทะเบียนขอความช่วยเหลือ ๒,๑๕๓ ราย มูลค่าการลงทุน ๒๘๔,๕๑๙ ล้านบาท มีแรงงาน ๑๗๖,๕๘๙ คน มูลค่าความเสียหาย ๙๕,๔๑๖ ล้านบาท ๑.๒ มาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ได้แก่ การอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรอุปกรณ์ วัตถุดิบไว้นอกโรงงานกรณีฉุกเฉิน การยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ที่นำมาทดแทนเครื่องจักรที่เสียหาย และยืดหยุ่นในเรื่องวัตถุดิบนำเข้าซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า การเร่งอนุมัติวีซ่าและใบอนุญาตทำงานของเจ้าหน้าที่/ผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาติดตั้งซ่อมแซมเครื่องจักร การเพิ่มสิทธิประโยชน์หรือยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้ให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายทั้งในกรณีทำการผลิตชั่วคราว หรือลงทุนใหม่เพื่อฟื้นฟูธุรกิจในประเทศ ๑.๓ โครงการและมาตรการช่วยเหลือโดยทั่วไป ได้แก่ การยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีและค่าธรรมเนียมการต่อใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน เป็นเวลา ๕ ปี การยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ทดแทนเครื่องจักรที่เสียหายเป็นการทั่วไปสำหรับโรงงานที่ประสบอุทกภัยและมิได้เป็นโรงงานที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน การดำเนินโครงการคลินิกอุตสาหกรรมเพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม โดยจัดส่งทีมงานเข้าสำรวจ วินิจฉัย วางแผนการฟื้นฟูการผลิตและกระบวนการทางธุรกิจ มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ๒,๑๘๑ ราย และได้เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ๕๑๖ ราย มีผู้ประกอบการ ๕๕ ราย สามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติ และการดำเนินโครงการศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประกอบการ โดยจัดตั้งศูนย์พักพิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษาเครื่องจักรกล สินค้าวัตถุดิบ และเป็นสถานที่เพื่อการผลิตชั่วคราว ซึ่งเบื้องต้นได้จัดพื้นที่ภายในหน่วยงานในจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น สุพรรณบุรี ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร ให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยให้ใช้เป็นสถานที่ในการประกอบการผลิตและยืมเครื่องจักรในการผลิต มีผู้ประกอบการเข้ารับบริการ ๘ ราย ๒. มาตรการให้ความช่วยเหลือของการนิคมแห่งประเทศไทย ได้แก่ ๒.๑ การยกเว้นค่าบริการในการออกใบอนุญาตใหม่ กรณีใบอนุญาตเดิมสูญหาย การยกเว้นค่าบริการการต่อใบอนุญาตให้ใช้ที่ดินประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และการยกเว้นค่าบริการการออกหนังสือรับรองสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรทางอิเล็กทรอนิกส์ จนถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ ๒.๒ การบริการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในเขตประกอบการเสรี โดยประสานกรมศุลกากรให้ผู้ประกอบการสามารถขนย้ายเครื่องจักร วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ออกนอกเขตประกอบการเสรีโดยด่วน พร้อมจัดทำมาตรการด้านพิธีการศุลกากรให้ผู้ประกอบการแจ้งสถานที่ชั่วคราวที่ขนย้ายเครื่องจักรอุปกรณ์ หรือสถานที่ชั่วคราวที่ประกอบกิจการ และสามารถประกอบกิจการและปฏิบัติพิธีการศุลกากรปกติ รวมทั้งการอนุญาตคนต่างด้าวเข้ามาอยู่และทำงานภายใต้กฎหมายการนิคมฯ โดยกรณีหนังสือสูญหายจะจัดทำสำเนาให้ใหม่ และกรณีผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยต้องการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในระดับผู้เชี่ยวชาญ จะยกเว้นให้เข้ามาได้จนถึงเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ ๓. การฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ การตรวจสอบเฝ้าระวังการระบายน้ำและการจัดการกากอุตสาหกรรมมิให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนใกล้เคียง โดยผลการตรวจสอบวิเคราะห์น้ำที่ระบายออกจากนิคม/เขตประกอบการ/สวนอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่อยู่ในมาตรฐานน้ำทิ้งอุตสาหกรรม ยกเว้นในบางพื้นที่มีคราบน้ำมันสูงกว่ามาตรฐาน ซึ่งได้ทำการล้อมให้คราบน้ำมันอยู่ในที่จำกัด และตักออกไปกำจัด และเมื่อมีการระบายน้ำแล้วเสร็จ จะส่งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมในโรงงานไม่ให้รั่วไหลออกไปสร้างผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ ซึ่งได้ทำการตรวจสอบโรงงานไปแล้ว จำนวน ๒๓๕ แห่ง จากจำนวนทั้งหมด ๘๘๘ แห่ง
|
.....