ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวงเกี่ยวกับการช่วยเหลือ ดูแลฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย | นร | 18/10/2554 | ||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และให้หน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามผลการหารือของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยสาระสำคัญของแนวทางการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ดังนี้ ๑.๑ แนวทางในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและขั้นตอนการฟื้นฟู ๔ ระยะ ประกอบด้วย ๑.๑.๑ ระยะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ได้แก่ การป้องกันกระแสน้ำที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย การอพยพและให้ความช่วยเหลือประชาชน และการจัดหาปัจจัยการดำรงชีพ ๑.๑.๒ ระยะของการช่วยเหลือระหว่างที่ระดับน้ำในพื้นที่ยังท่วมสูง เป็นระยะที่ประชาชนที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัย ซึ่งพักพิงในศูนย์อพยพ มีความตึงเครียด เนื่องจากทรัพย์สินถูกทำลาย และมีความกังวลในด้านการประกอบอาชีพ ซึ่งในจุดนี้จะต้องมีการบูรณาการที่ศูนย์อพยพ ๑.๑.๓ ระยะการฟื้นฟูภายหลังน้ำลดแล้ว ได้แก่ การซ่อมแซมถนน เส้นทางคมนาคม โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการ โบราณสถาน และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ๑.๑.๔ ระยะการปรับโครงสร้างถาวร เป็นการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานหลักของประเทศเพื่อสร้างเป็นระบบถาวร ทั้งในด้านระบบชลประทาน ระบบป้องกันอุทกภัยและภัยธรรมชาติ ระบบคมนาคม ระบบการวางระบบผังเมืองของประเทศ และระบบการฟื้นฟูระบบนิเวศน์ ๑.๒ การจัดทำระบบฐานข้อมูลการฟื้นฟู ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดระบบฐานข้อมูลรายบุคคล ตั้งแต่ฐานข้อมูลด้านอาชีพ ที่อยู่อาศัย รวมถึงข้อมูลทางกายภาพเพื่อประกอบในการวางแนวทางฟื้นฟูแบบถาวร โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลักและประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ๑.๓ รูปแบบของการบูรณาการกิจกรรมในศูนย์อพยพ ๔ - ๖ สัปดาห์ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เป็นเจ้าภาพในการให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้การสนับสนุน ซึ่งศูนย์อพยพนี้จะต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนในระยะ ๔ - ๖ สัปดาห์ โดยประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เริ่มดำเนินการตั้งแต่การจัดทำฐานข้อมูลรายบุคคล การให้บริการด้านสาธารณสุข การจัดหาอาหาร การบริการขั้นพื้นฐาน การฟื้นฟูจิตใจ และการฝึกอาชีพเพื่อโอกาสของการจ้างงานในช่วงเวลาน้ำลดตามโครงการฟื้นฟูต่าง ๆ ๑.๔ การมอบหมายกิจกรรมด้านสังคมในการจัดทำแผนช่วยเหลือ ฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ ๑.๔.๑ ให้กระทรวงกลาโหม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานกระทรวงมหาดไทยในการส่งเจ้าหน้าที่ไปแนะนำการผลิต EM และจัดชุดเครื่องมืออุปกรณ์ให้แต่ละชุมชน รวมทั้งสำรวจข้อมูลพื้นที่ที่เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก แล้วส่งข้อมูลให้คณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (ด้านสังคม) เพื่อดำเนินการพิจารณาจัดหาที่ทำกินใหม่ที่เหมาะสมต่อไป ๑.๔.๒ ให้กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังโรคระบาดต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยอาศัยเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการวางระบบการป้องกันและสนับสนุน และให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) ดูแลเรื่องรูปแบบ (model) ของศูนย์อพยพถาวรว่าควรจะมีองค์ประกอบอะไรบ้างที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดเป็นชุมชน เช่น มีหัวหน้าศูนย์ฯ ครู แพทย์ พยาบาล มีการสอนหนังสือ ฝึกอาชีพ เป็นต้น ๑.๔.๓ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการฝึกอบรมอาชีพต่าง ๆ เช่น งานซ่อมบ้าน งานอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ในศูนย์อพยพ ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนแต่ละจังหวัด และประสานกับกระทรวงมหาดไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดทำฐานข้อมูลของผู้ตกงานที่เป็นลูกจ้างทั่วไป และลูกจ้างโรงงาน ๑.๔.๔ ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์) เร่งรัดประเมินความเสียหายของโบราณสถานต่าง ๆ กรณีเป็นงานด้านโยธาให้เสนอคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฯ (ด้านโครงสร้างพื้นฐาน) พิจารณา และให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำแผนป้องกันโบราณสถานในระยะยาวด้วย รวมทั้งให้กระทรวงวัฒนธรรมประชาสัมพันธ์สร้างความมั่นใจในความสมบูรณ์ของโบราณสถานให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ๑.๔.๕ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แจ้งว่า การเปิดเทอมเป็นไปตามกำหนดเดิมคือ วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนที่จะพิจารณาได้ตามความจำเป็น กรณีที่โรงเรียนใดไม่สามารถเปิดเทอมในวันดังกล่าวได้ ให้แจ้ง สพฐ. ทราบก่อนถึงวันเปิดภาคเรียน ๑ สัปดาห์ ส่วนการสอบ GAT - PAT ให้เลื่อนเป็นวันที่ ๑๙ - ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ และวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ สำหรับโรงเรียนที่ยังไม่ทำการสอบภาคเรียนที่ ๑ ให้จัดให้มีการทบทวนบทเรียนให้กับเด็กนักเรียนก่อนทำการสอบต่อไป และให้กระทรวงศึกษาธิการจัดทำฐานข้อมูลความเสียหายของโรงเรียน ครู และเด็กนักเรียนที่ประสบอุทกภัย ส่วนกรณีโรงเรียนที่ยังไม่สามารถจัดทำการสอนได้ให้จัดการสอนที่ศูนย์อพยพ และกรณีการช่วยเหลือด้านการเงินให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยโดยตรงเท่านั้น ๑.๕ แนวทางในการช่วยเหลือในระยะการรอการฟื้นฟูในด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ ประกอบด้วย ๑.๕.๑ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม โรงงานต่าง ๆ ผู้ประกอบการ SME ในช่วง ๒ เดือนก่อนน้ำลด ทั้งในส่วนที่เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนและที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ทั้งที่อยู่ในและนอกนิคมอุตสาหกรรม มีประกันภัยและไม่มีประกันภัย เช่น การให้ความช่วยเหลือในด้านเครื่องมือ/เครื่องจักร และวัตถุดิบที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ทั้งนี้ ให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศที่จะทำความช่วยเหลือในลักษณะรัฐต่อรัฐด้วย และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑ สัปดาห์ ๑.๕.๒ ให้กระทรวงแรงงานจัดทำแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาและแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้แรงงานในช่วง ๒ เดือนก่อนน้ำลดให้ครอบคลุมถึงผู้ใช้แรงงานในแต่ละกลุ่ม ทั้งผู้ที่อยู่/ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม แรงงานที่ถูกเลิกจ้างถาวร (เช่น การฝึกอาชีพ) และแรงงานที่ว่างงานชั่วคราว และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑ สัปดาห์ ทั้งนี้ ให้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อมูลของผู้ใช้แรงงานกับแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้แนวทางการให้ความช่วยเหลือมีความครบถ้วน ถูกต้อง และไม่เกิดความซ้ำซ้อน ๑.๕.๓ ให้กระทรวงคมนาคมจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาและบูรณะซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้กลับมาใช้งานได้ในช่วง ๒ เดือนก่อนน้ำลด ทั้งในส่วนที่เป็นเส้นทางสายหลักและเส้นทางโครงข่ายต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการขนส่งสินค้าและบริการ โดยประสานข้อมูลในการดำเนินการกับกระทรวงพาณิชย์ และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑ สัปดาห์ ๑.๕.๔ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำแผนและแนวทางในการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเป็นระบบในช่วง ๒ เดือนก่อนน้ำลด โดยให้ครอบคลุมถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น เส้นทางการระบายน้ำ ความต้องการเครื่องมือ/อุปกรณ์ในการสูบน้ำ และกรอบระยะเวลาการระบายน้ำ เป็นต้น และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๑ สัปดาห์ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานประสานกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อจัดทำข้อมูลระดับน้ำสูงสุดของแต่ละพื้นที่เพื่อให้ประชาชน และผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่สามารถเข้าใจได้ง่าย และจัดทำพนังกั้นน้ำให้มีความสูงสอดคล้องกับระดับน้ำสูงสุดในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ให้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวในเว็บไซต์ของทางราชการ เพื่อให้เป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไป ๑.๕.๕ ให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำแผนและแนวทางในการกำกับดูแลการกระจายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นสำหรับประชาชนให้เพียงพอและทั่วถึง รวมทั้งควบคุมดูแลให้ราคาสินค้ามีความเหมาะสมและเป็นไปตามกลไกตลาด ทั้งนี้ ให้ประสานกับกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับเส้นทางคมนาคมที่จำเป็น เพื่อให้การขนส่งสินค้าต่าง ๆ ไปยังปลายทางมีความสะดวกและรวดเร็ว ๑.๕.๖ มาตรการด้านการเงินและการคลัง รวมทั้งการตั้งเป้าหมายด้านเศรษฐกิจมหภาค ๑.๕.๖.๑ ให้กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยหารือกับสมาคมธนาคารไทยในการออกมาตรการทางด้านสังคมในการที่จะพักชำระหนี้และอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย (SME) รวมทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ได้เท่าเทียมกับธนาคารภาครัฐ ๑.๕.๖.๒ ให้คณะกรรมการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจจัดทำมาตรการในการฟื้นฟูกิจการต่าง ๆ รวมทั้งผ่อนปรนด้านภาษีในเรื่องเครื่องจักร วัตถุดิบ ทั้งนี้ ให้รวมถึงมาตรการที่จะสามารถใช้ความร่วมมือภาครัฐต่อรัฐกับทางกระทรวงการต่างประเทศด้วย เพื่อให้กา
|
.....