ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยพิบัติปี 2554 โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย | กค | 20/09/2554 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยพิบัติปี ๒๕๕๔ โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญของมาตรการช่วยเหลือฯ ดังนี้ ๑.๑ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ จนถึงปัจจุบัน (พื้นที่ประสบภัยพิบัติตามประกาศของทางราชการ) ๑.๒ วงเงินอนุมัติสินเชื่อรวมของโครงการ วงเงินรวม ๒,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๓ ระยะเวลาโครงการ สิ้นสุดวันรับคำขอกู้ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ หรือเมื่อเต็มวงเงินสินเชื่อรวมของโครงการแล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน ๑.๔ วัตถุประสงค์ของการกู้ เพื่อใช้ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน ๑.๕ วงเงินสินเชื่อต่อราย สูงสุดไม่เกิน ๑ ล้านบาทต่อราย โดยพิจารณาตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ๑.๖ ประเภทสินเชื่อและระยะเวลากู้ยืม เป็นเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) ระยะเวลาการกู้ยืมสูงสุดไม่เกิน ๖ ปี ระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน ๒ ปี ๑.๗ อัตราดอกเบี้ย ธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราคงที่ร้อยละ ๘ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา โดยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ ๖ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยอีกร้อยละ ๒ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ส่วนค่าธรรมเนียม จะคิดในอัตราร้อยละ ๐.๑ ของวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ โดยเรียกเก็บขั้นต่ำ ๑๐๐ บาทต่อราย ๑.๘ ไม่มีหลักประกัน (Clean loan) ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ ๕ ต่อปี และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยอีกร้อยละ ๒ ต่อปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารพาณิชย์เฉลี่ยประมาณร้อยละ ๗.๗ ต่อปี และควรยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นการลดภาระของผู้ประกอบการ รวมทั้งควรจัดให้มีมาตรการและแนวทางในการตรวจสอบผู้ประกอบการให้ตรงตามคุณสมบัติที่ได้มีการกำหนดอย่างเข้มงวด และเร่งดำเนินการติดตามและประเมินผลการปล่อยสินเชื่อในโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (SME POWER) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ระยะเวลาการปลอดชำระคืนเงินต้นกำลังจะหมดลงในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสียและกระทบต่อผลประกอบการของ ธพว. ในอนาคต ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอรับการสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการปล่อยสินเชื่อตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยให้เหมาะสม ถูกต้อง และมีความโปร่งใส สอดคล้องกับข้อเท็จจริงต่อไป |
.....