ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาการประกันภัยพืชผลและโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 | กค | 03/05/2554 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการพิจารณากรอบแนวทางการประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติเสนอ ๑.๑ ยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาการประกันพืชผล (ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๕) ซึ่งผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการพิจารณากรอบแนวทางการประกันภัยพืชผลอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ มีสาระสำคัญคือ เกษตรกรไทยสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยเพื่อจัดการความเสี่ยงทางการเงินที่เกิดจากภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยุทธศาสตร์ฯ ประกอบด้วย ๒ ประเด็นยุทธศาสตร์หลัก คือ การจัดการโครสร้างพื้นฐาน และการสร้างดุลยภาพของตลาดประกันภัยพืชผล โดยปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ มีการดำเนินงาน ๗ โครงการ วงเงิน ๔๕,๔๐๐,๙๔๕ บาท และในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ มีการดำเนินการ ๓ โครงการ วงเงิน ๘,๓๐๐,๐๐๐ บาท ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ๓ ชนิดหลัก ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง อย่างน้อย ๑ ล้านครัวเรือน มีหลักประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ และได้รูปแบบการประกันภัยที่เหมาะสม ๑.๒ โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔ มีสาระสำคัญคือ คงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยของรัฐในปัจจุบัน โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา ๖๐๖ บาท ต่อไร่ และสร้างระบบประกันภัยสำหรับเกษตรที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้ได้รับความคุ้มครองเมื่อผลผลิตได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รวม ๒,๐๐๖ บาท ต่อไร่ รวมทั้งสนับสนุนให้ภาคเอกชนเป็นผู้รับประกันภัยในส่วนที่เพิ่มเติมจากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยของรัฐ โดยใช้เกณฑ์การประเมินความเสียหายที่รัฐดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน โดยมีอัตราเบี้ยประกันภัยที่สมาคมประกันวินาศภัยเสนออยู่ที่ ๑๒๐ บาทต่อไร่ สำหรับวงเงินความคุ้มครอง ๑,๔๐๐ บาท ต่อไร่ (อัตราเบี้ยประกันสุทธิ รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์อยู่ที่ ๑๒๙.๔๗ บาทต่อไร่) ทั้งนี้ มีเงื่อนไขว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องมีจำนวนมากเพียงพอที่ทำให้ความเสี่ยงภัยกระจายทั้งประเทศ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔ ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทดลองจ่ายไปก่อน และเสนอขอเงินชดเชยจากรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับไปประสานงานให้ ธ.ก.ส. พิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับเกษตรกรลงอีกเพื่อลดภาระงบประมาณสำหรับการชดเชยดังกล่าวด้วย |
.....