คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น สรุปได้ ดังนี้
               ๑. การบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น
                   ๑.๑ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้เข้าพบนายทะดะเทรุ โคโนะเอะ ประธานสภากาชาดญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๔ เพื่อมอบเงินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จำนวน ๕ ล้านบาท และเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากรัฐบาลและประชาชนไทย จำนวน ๕ ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว
                   ๑.๒ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของและเงินช่วยเหลือ โดยเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น ทั้งนี้ ยอดเงินบริจาคสะสม ณ วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๔ มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๕๓,๓๔๗,๗๗๐.๕๕ ล้านบาท
                   ๑.๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยื่นหนังสือแสดงความจำนงในการมอบเงินบริจาคจากบัญชีกระทรวงการต่างประเทศงวดแรก จำนวน ๑๒๕ ล้านบาท แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน - ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๔
                   ๑.๔ กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และสภากาชาดญี่ปุ่น เพื่อจัดส่งสิ่งของช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ได้รับพระราชทานและบริจาคจากพระราชวงศ์ ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ และบุคคลทั่วไป โดยสายการบินไทยและเครื่องบิน C - 130
               ๒. กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดส่งคณะให้ความช่วยเหลือและดูแลคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว อาทิ คณะแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข คณะแพทย์สมทบจากกรมสุขภาพจิต เพื่อให้คำปรึกษาด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตแก่คนไทยในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายและที่พักพิงชั่วคราวที่วัดปากน้ำ จังหวัดชิบะ นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์จากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ เพื่อตรวจวัดกัมมันตรังสีในอากาศในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายที่มีคนไทยอยู่ คณะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการและเตรียมแผนอพยพคนไทยของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา เป็นต้น
               ๓. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยเป็นข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวขาว จำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๕,๐๐๐ ตัน นั้น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยแจ้งว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ขอรับบริจาคข้าวจากไทยเนื่องจากมีข้าวสำรองอยู่ในปริมาณมากทั้งในส่วนของภาคเอกชนและของรัฐบาลญี่ปุ่นเอง และพร้อมจะแจกจ่ายให้แก่สาธารณชนได้ทันที อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน - ญี่ปุ่น สมัยพิเศษฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มีถ้อยแถลงแสดงความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือแก่ญี่ปุ่นในด้านต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร โดยได้ย้ำความพร้อมในการสนับสนุนข้าว จำนวน ๑๕,๐๐๐ ตัน แก่ญี่ปุ่น และพร้อมดำเนินการจัดส่งให้ หากญี่ปุ่นร้องขอ
               ๔. กระทรวงการต่างประเทศได้จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์โดยประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงสาธารณสุข บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามสถานการณ์ จัดส่งของบริจาค ดูแลอำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยที่ต้องการติดตามหาญาติและประสงค์จะเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งจัดเตรียมแผนอพยพในกรณีที่สถานการณ์มีความฉุกเฉิน ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ ๑๑ มีนาคม - ๖ เมษายน ๒๕๕๔ ได้รับคำร้องขอให้ติดตามหาญาติคนไทยในญี่ปุ่น จำนวน ๓,๘๗๗ ราย สามารถติดต่อได้แล้ว ๓,๗๔๗ ราย และยังไม่สามารถติดต่อได้ ๙๗ ราย และยังไม่มีรายงานคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว
               ๕. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้ออกประกาศว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นยังมีแผ่นดินไหวจากอาฟเตอร์ช็อค (Aftershock) อยู่เป็นระยะ ประกอบกับปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังไม่สามารถแก้ไขได้ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด