ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการและการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียนสมัยพิเศษ ที่เกาะลอมบอก สาธารณรัฐอินโดนีเซีย | กต | 22/02/2554 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการและการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียนสมัยพิเศษ ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔ ที่เกาะลอมบอกสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอตามกรอบอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานต่อไป โดยสาระสำคัญของการประชุมสรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมเห็นชอบกับแนวคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการดำเนินการต่อพม่าซึ่งควรคำนึงถึงบริบทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากมีการเลือกตั้ง ประกอบกับอาเซียนจะเป็นประชาคมในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ อาเซียนจึงควรส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตยในพม่าโดยสนับสนุนให้มีการหารือระหว่างนางอองซาน ซูจี กับรัฐบาลของพม่าเพื่อร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพม่า และโน้มน้าวให้ประชาคมโลกยุติการคว่ำบาตรพม่าและเลิกล้มความพยายามที่จะตั้ง Commission of Inquiry เกี่ยวกับผู้นำพม่า ทั้งนี้ มอบหมายให้อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนเยือนพม่าเพื่อสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยในพม่าต่อไป ๒. ที่ประชุมเห็นว่าประชาคมโลกควรสนับสนุนการลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีโดยใช้โอกาสจากการที่เกาหลีเหนือพยายามหาช่องทางเจรจากับเกาหลีใต้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอให้อินโดนีเซียในฐานะประธานการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum - ARF) ได้ปรึกษากับประเทศที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในการเจรจา ๖ ฝ่าย เพื่อสอบถามว่า ARF จะสามารถมีส่วนสนับสนุนการลดความตึงเครียดได้อย่างไร ๓. ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้เพื่อคงไว้ซึ่งเสถียรภาพและความมั่นคง โดยการจัดทำแนวทาง (guidelines) การนำปฏิญญาฯ มาปฏิบัติให้แล้วเสร็จในโอกาสแรก และพิจารณาจัดทำหลักปฏิบัติ (Code of Conduct) ในทะเลจีนใต้ในโอกาสต่อไป พร้อมทั้งเห็นชอบกับแนวความคิดให้ประเทศผู้อ้างสิทธิ์หาหลักการร่วมกัน (Common principles) ที่จะให้เจรจากับจีนต่อไป รวมทั้งสนับสนุนข้อเสนอที่จะให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยืนยันหลักการของ Safe passage ในทะเลจีนใต้ และส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ภัยพิบัติ หรือน้ำมันรั่ว (oil spill) เป็นต้น ๔. ที่ประชุมรับทราบจากเลขาธิการอาเซียนว่า อาเซียนจะต้องเร่งรัดการนำข้อตกลงอาเซียนมาปฏิบัติ ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าข้อตกลง ๘๗ ข้อ จาก ๑๐๘ ข้อมาปฏิบัติ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เสนอให้ภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม รวมทั้งภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในการสร้างประชาคมอาเซียนด้วย และให้องค์การต่าง ๆ เช่น ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) ให้ความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำ Scorecard ของประชาคมอาเซียน อีกทั้งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนโดยใช้แผนแม่บทในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในอาเซียน (Master Plan on ASEAN Connectivity) เป็นกรอบในการปฏิบัติ และเสนอให้มีการสร้าง ASEAN branding เพื่อสร้างอัตลักษณ์อาเซียน ๕. ที่ประชุมพิจารณาเห็นควรผลักดันให้การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit - EAS) เน้นการหารือในประเด็นด้านยุทธศาสตร์มากกว่าประเด็นความร่วมมือในลักษณะงานด้าน functional และได้ย้ำว่า EAS ควรพิจารณาบทบาทของจีน และความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน และประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดยุทธศาสตร์อาเซียนต่อ EAS และเห็นชอบต่อข้อเสนอของเลขาธิการอาเซียนที่จะจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาเซียนเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ของอาเซียนต่อ EAS ในประเทศไทย (คาดว่าประมาณเดือนเมษายน ๒๕๕๔) ซึ่งไทยจะประสานกับอาเซียนต่อไป ๖.ที่ประชุมเห็นชอบกับแนวความคิดที่จะให้อาเซียนมีการประสานท่าทีใน Global Issues ต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การมีท่าทีร่วมกันในเวทีระหว่างประเทศ ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เสนอตัวอย่างมาตรการที่สามารถปูทางไปสู่เป้าหมายนี้ เช่น การให้คณะกรรมการอาเซียนที่นิวยอร์ก เจนิวา และเวียนนา ประสานท่าทีในเวทีสหประชาชาติ โดยเน้นการส่งเสริมความร่วมมือในเรื่องการรักษาสันติภาพ การจัดการภัยพิบัติ และความมั่นคงทางทะเล ซึ่งไทยเสนอเป็นเจ้าภาพ ASEAN Maritime Forum ครั้งที่ ๒ ในปีนี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบที่จะให้อาเซียนร่วมกำหนดวิสัยทัศน์เรื่องมุมมองอาเซียนใน global issues ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนพฤษภาคม ศกนี้ และมีเป้าหมายระยะยาวที่จะทำแผนงานในเรื่องนี้ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ๗. ที่ประชุมเห็นชอบกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ (Terms of Reference - TOR) ของคณะกรรมการประสานงานอาเซียนว่าด้วยเรื่องความเชื่อมโยง (ASEAN Connectivity Coordinating Committee - ACCC) เพื่อให้คณะกรรมาธิการทำงานได้อย่างจริงจังโดยแต่ละประเทศสมาชิกกำหนดจะส่งรายชื่อผู้แทนที่จะปฏิบัติงานอยู่ในคณะกรรมการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม ศกนี้ |
.....