ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ครั้งที่ 1/2554 | นร | 01/02/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (กพบ.) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๔ และเห็นชอบตามมติคณะกรรมการ กพบ. รวม ๕ เรื่อง ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กพบ. เสนอ สำหรับมติคณะกรรมการ กพบ. รวม ๕ เรื่อง สรุปได้ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมในกรอบที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง รวม ๕ เรื่อง ได้แก่ ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๑๖ ผลการประชุมเวทีหารือเพื่อการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๖ ผลการประชุมระดับผู้นำประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๒ ผลการประชุมระดับผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ ๔ และข้อริเริ่มลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างกับสหรัฐฯ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของที่ประชุมไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการต่างประเทศ รวบรวมข้อมูลด้านการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเปรียบเทียบระหว่างการลงทุนของไทยกับประเทศผู้ให้ที่สำคัญ รวมทั้งรวบรวมข้อมูลและความก้าวหน้าเกี่ยวกับการลงทุนในสาขาความร่วมมือต่าง ๆ กับประเทศเพื่อนบ้าน และเสนอในการประชุมคณะกรรมการ กพบ. ครั้งต่อไป ๒. รับทราบผลการศึกษาการดำเนินงานของด่านศุลกากรชายแดนมาเลเซีย และเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานกำกับดูแลการพัฒนาด่านชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธาน และ สศช. เป็นคณะทำงานและเลขานุการ มีหน้าที่ศึกษาการพัฒนาด่านชายแดนของไทยอย่างเป็นระบบ มีความทันสมัย มีการให้บริการที่มีการปรับปรุงช่องทางผู้โดยสาร รถยนต์ รถโดยสาร และรถบรรทุกที่แยกออกจากกัน และมีแผนงานเตรียมการด้านการพัฒนาพื้นที่การให้บริการและวางแผนพื้นที่เศรษฐกิจต่อเนื่องเพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคตอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งวางแผนเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์อย่างเป็นโครงข่ายที่สมบูรณ์ ๓. เห็นชอบประเด็นความร่วมมือในรายละเอียดการพัฒนาเชื่อมโยงพื้นที่ภาคใต้ของไทยและพื้นที่ภาคเหนือ (NCER) และภาคตะวันออก (ECER) ของมาเลเซีย รวม ๕ ประเด็น ได้แก่ การเชื่อมโยงด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงด้านการค้าและการลงทุน การเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสร้างฐานรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการพัฒนาด้านการเกษตร ประมง และอุสาหกรรมเกษตร รวมทั้งฮาลาล โดยให้ สศช. ปรับปรุงประเด็นด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาของฝ่ายไทยให้มีความชัดเจนโดยเฉพาะในเรื่องมาตรการสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ประเภทกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ส่งเสริม มาตรการจูงใจ กลไกการบริหารจัดการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ และปรับยุทธศาสตร์เชิงรุกในส่วนที่เป็นการสร้างผลประโยชน์ของไทยเชื่อมโยงกับศักยภาพของมาเลเซียตามแผนพัฒนา NCER/ECER เช่น ผลิตภัณฑ์ฮาลาล โดยให้มีแผนพัฒนารายสาขาที่ชัดเจนของไทย และให้หน่วยงานหลักของแต่ละประเด็น/โครงการ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดท่าทีในรายละเอียดของแต่ละเรื่องและเร่งบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของมาเลเซีย โดยให้ สศช. เป็นหน่วยงานกลางประสานงานกับ Economic Planning Unit ของมาเลเซียในภาพรวม และประสานกระทรวงการต่างประเทศในการหารือเชิงนโยบายการขับเคลื่อนร่วมในกรอบคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย (Thailand - Malaysia Committee on Joint Development Strategy for border areas : JDS) ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรี ซึ่งมีกำหนดการประชุมประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เพื่อให้ได้ข้อสรุปของแนวทางการพัฒนาที่ไทยผลักดัน เช่น การพัฒนาด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย ณ ด่านศุลกากรสะเดา - บูกิตกายูฮิตัม และสามารถเสนอต่อที่ประชุมประจำปี ครั้งที่ ๕ ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งมีกำหนดการประชุมประมาณกลางปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๔. เห็นชอบแนวทางการดำเนินการของไทยในแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT - GT) ใน ๓ กลุ่มโครงการ โดยให้ สศช. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยดำเนินการพัฒนาโดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของมาเลเซียและอินโดนีเซียเพื่อให้มีการบูรณาการในการพัฒนา โดยให้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) สนับสนุนด้านวิชาการ และในกรณีที่เหมาะสมพัฒนาเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอาจพิจารณารับการสนับสนุนทางการเงินจาก ADB และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโครงการโดยประสานกับ สศช. ทางด้านยุทธศาสตร์ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีบูรณาการเพื่อให้มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและชุมชนในพื้นที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ให้คณะทำงานที่กำกับดูแลการพัฒนาด่านชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบประเทศ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานคณะทำงาน และ สศช. เป็นฝ่ายเลขานุการ ซึ่งกำลังจะจัดตั้งขึ้นดำเนินการพิจารณาแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านด่านชายแดนเชื่อมโยงกับมาเลเซียและระบบโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีบูรณาการ ๕. เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานศุลกากร ๒๔ ชั่วโมง ณ ด่านพรมแดนทางบก มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน ๒๔ ชั่วโมง ณ ด่านพรมแดนทางบกให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตามที่ไทยได้สนับสนุนไว้ในกรอบ GMS และกรอบลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่ง และส่งเสริมกิจกรรมการผลิตระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอ และเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานด้านเทคนิคเพื่อจัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินงาน ๒๔ ชั่วโมง ณ ด่านพรมแดนทางบก โดยให้คณะทำงานดังกล่าวนำเสนอแนวทางการดำเนินงาน ๒๔ ชั่วโมง ณ ด่านพรมแดนทางบกต่อคณะทำงานกำกับดูแลการพัฒนาด่านชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการ กพบ. พิจารณาต่อไป
|
.....