ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การจัดทำรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ | กต | 21/12/2553 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำและนำเสนอรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council-HRC) ภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) ในการประชุมคณะทำงาน UPR (Working Group on UPR) สมัยที่ ๑๒ ระหว่างวันที่ ๓ - ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ ณ นครเจนีวา รวมทั้งประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนของไทยที่อยู่ในความสนใจของประชาคมระหว่างประเทศ และอาจถูกซักถามโดยสมาชิก HRC รวม ๑๕ ประเด็น ได้แก่ (๑) ความคืบหน้าในการสอบสวนกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ (๒) กรณีการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ โดยเฉพาะคดีของนายสมชาย นีละไพจิตร (๓) กรณีการซ้อมทรมาน โดยเฉพาะคดีของนายยะผา กาเซ็ง (๔) กรณีปัญหาความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดต่อครูและเด็กนักเรียน (๕) กรณีการเสียชีวิตของชาวมุสลิมในเหตุการณ์ยิงมัสยิดอัลฟูรกัน และกรณีกรือเซะ/ตากใบ (๖) โทษประหารชีวิต (๗) การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยบังคับ (๘) การศึกษาความเป็นไปได้ที่ไทยจะเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและครอบครัว (๙) การถอนข้อสงวนต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนฉบับต่าง ๆ (๑๐) การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะฉบับที่ ๘๗ และ ๙๘ (๑๑) การปฏิบัติต่อแรงงานต่างด้าว (๑๒) กรณีฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติด (๑๓) เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพในการชุมนุม (๑๔) การประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ (๑๕) การปฏิบัติต่อผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่าและผู้ลักลอบเข้าเมือง ๑.๒ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศในการจัดทำข้อมูลและแต่งตั้งผู้แทนระดับสูงร่วมในคณะผู้แทนไทยเดินทางไปนครเจนีวา โดยใช้งบประมาณของต้นสังกัดเพื่อสนับสนุนการนำเสนอรายงานดังกล่าวอย่างเต็มที่ ๑.๓ ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานสถานะล่าสุด รวมทั้งประเด็นปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ๑๕ ประเด็น โดยเฉพาะการเร่งรัดคดีความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวเพื่อมิให้ผู้กระทำผิดลอยนวลรอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ให้เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีทราบและพิจารณาภายในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๔ รวมทั้งให้จัดส่งข้อมูลให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อใช้ประกอบการจัดทำรายงานฯ อีกทางหนึ่ง เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขภาพลักษณ์เชิงลบด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญของไทย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงแรงงาน และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นควรสนับสนุนประเทศไทยในการแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์และผลักดันประเด็นสำคัญด้านสิทธิมนุษยชนในเวทีระหว่างประเทศต่อไป และในการจัดทำรายงานในส่วนของภาครัฐควรประสานข้อมูลกับภาคประชาสังคมอย่างใกล้ชิดเพื่อมิให้เนื้อหามีความแตกต่างกันมากเกินไป เนื่องจากองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรพัฒนาเอกชนจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภาครัฐในการนำข้อเสนอแนะจากกระบวนการภายใต้กลไก UPR ไปปฏิบัติควบคู่กับข้อเสนอแนะจากกลไกสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
.....