ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียและกลุ่มอัล ชาบับ (Al-Shabaab) | กต. | 24/06/2568 |
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
(United Nations Security Council :
UNSC) ที่ ๒๗๗๖ฯ (ค.ศ. ๒๐๒๕)
เพิ่มเติมจากข้อมติ UNSC เกี่ยวกับสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียและกลุ่มอัล
ชาบับ (Al - Shabaab) ที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
ซึ่งมีเนื้อหาโดยรวม
ข้อมติดังกล่าวต่ออายุมาตรการลงโทษต่อกลุ่มอัล ชาบับ ตามข้อมติฯ ที่ ๒๗๑๓ (ค.ศ.
๒๐๒๓) จนถึงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๘
โดยพันธกรณีต่อรัฐสมาชิกสหประชาชาติยังคงเดิมในเรื่อง (๑) มาตรการห้ามค้าอาวุธต่อกลุ่มอัล ชาบับ (๒)
การห้ามนำเข้าและส่งออกถ่านไม้จากสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลีย (๓) มาตรการห้ามนำเข้าและส่งออกส่วนประกอบของระเบิดแสวงเครื่อง
และ (๔)
การอนุญาตให้รัฐสมาชิกดำเนินมาตรการสกัดกั้นทางทะเลเพื่อบังคับใช้มาตรการลงโทษต่อกลุ่มอัล
ชาบับ ที่เกี่ยวข้อง ๒. มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๒
หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงมหาดไทย สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินถือปฏิบัติ และปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการลงโทษต่อสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียและกลุ่มอัล
ชาบับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแจ้งผลให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ
เพื่อประโยชน์ในการรายงานสหประชาชาติต่อไป ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เห็นควรให้หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องติดตามและเฝ้าระวังบุคคลและองค์กรที่ถูกมาตรการลงโทษ
รวมทั้งประเมินสถานการณ์และการดำเนินการของกลุ่มอัล ชาบับ ต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานตามข้อมติ UNSC ที่ ๒๗๗๖ฯ
ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ |