ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การเตรียมการรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติของประเทศไทย | นร. | 01/04/2568 | |||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์แผ่นดินไหวในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ภาคเหนือและกรุงเทพมหานครรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนเป็นอย่างมาก
รวมทั้งได้เกิดเหตุการณ์อาคารสูงของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในเขตจตุจักรพังถล่มลงมา
ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน
และต่างประเทศได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน และระดมสรรพกำลังที่มีในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ
ของประเทศที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต จึงขอมอบหมายดำเนินการ ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงมหาดไทย
(กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เร่งดำเนินการจัดทำแผนและมาตรการการป้องกันภัยพิบัติต่าง
ๆ โดยให้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบและขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ (Flowchart) ของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวสามารถดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน
แล้วให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วภายใน ๑ เดือน ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย
(กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
เร่งประสานการดำเนินงานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กรมอุตุนิยมวิทยา)
และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเพื่อให้สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง
ชัดเจน ถูกต้อง และรวดเร็วมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
โดยขอให้ใช้ระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน “Virtual
Cell Broadcast” บนอุปกรณ์โทรศัพท์ทุกรูปแบบได้ไปพลางก่อนในระหว่างการรอระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน
“Cell Broadcast Service” ที่กำหนดจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ เพื่อให้การเตือนภัยต่อสาธารณชนทั้งที่เป็นภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว
อุทกภัย ดินโคลนถล่ม และอุบัติภัยอื่น ๆ เช่น ไฟไหม้ อุบัติเหตุทางการจราจรและขนส่ง
รวมตลอดถึงภัยจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cyber Crime) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเท่าทันสถานการณ์มากยิ่งขึ้น ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมโยธาธิการและผังเมือง)
เร่งกำหนดมาตรการและแนวปฏิบัติในการติดตาม
ตรวจสอบสภาพความมั่นคงของโครงสร้างอาคารสูงทุกอาคารให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย
รวมทั้งออกใบรับรอง (Certificate) ที่ประชาชนสามารถรับรู้และตรวจสอบได้
เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้งานต่อไป รวมทั้งให้ประสานงานกับกระทรวงอุตสาหกรรม
กรุงเทพมหานคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากำหนดมาตรฐานและข้อกำหนดในการออกแบบก่อสร้างอาคารให้มีความมั่นคง
แข็งแรง ปลอดภัย สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ๔.
ให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่าง
ๆ ที่มีความพร้อมด้านการเตือนภัยภัยพิบัติและมีแนวปฏิบัติที่ดี เช่น ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศนิวซีแลนด์ มาร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย
เพื่อให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยด่วน ๕.
ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการเตรียมการรับมือด้านการให้บริการทางการแพทย์ กรณีเกิดอุบัติภัยต่าง ๆ ให้เหมาะสม เพียงพอ
และเท่าทันสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการจัดแพทย์ฉุกเฉิน
เตียงสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งการจัดจิตแพทย์เพื่อให้การดูแลฟื้นฟูจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยต่าง
ๆ ดังกล่าวด้วย ๖.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการเกิดอุบัติภัย
รวมทั้งการแจ้งเตือนและแผนรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ
ให้แก่นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทยให้ถูกต้อง ชัดเจน
และรวดเร็วด้วย ๗. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งระดมนักวิชาการทางด้านธรณีวิทยา
เพื่อรวบรวมข้อมูลและจัดทำข้อเสนอแนะในมาตรการรับมือและป้องกันภัยพิบัติที่ถูกต้องและรัดกุม
รวมถึงการตรวจสอบระบบอุปกรณ์เตือนภัยพิบัติต่าง ๆ
ที่มีอยู่ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอด้วย ๘. ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำหลักสูตร/คู่มือการรับมือกับภัยธรรมชาติและอุบัติภัยต่าง
ๆ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนและเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับนักเรียน/นักศึกษาทุกระดับชั้นต่อไป ๙.
ให้กระทรวงคมนาคมเร่งตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขเส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ
ให้มีความพร้อมใช้งาน เพื่อสามารถให้บริการประชาชนได้ตามปกติโดยเร็ว
รวมถึงให้ตรวจสอบงานก่อสร้างขนาดใหญ่ในความรับผิดชอบให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย
และสามารถรองรับภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย ๑๐. ให้สำนักนายกรัฐมนตรี
(สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) เร่งประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย
(กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมมาตรการในการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ให้ถูกต้อง
ครบถ้วน แล้วดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปโดยด่วน ๑๑. ให้สำนักนายกรัฐมนตรี
(กรมประชาสัมพันธ์) เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและทั่วถึง
โดยให้เผยแพร่ต่อไปยังช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ให้รวดเร็วและครบถ้วน ทั้งทางโทรทัศน์
วิทยุ แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Facebook หรือ LINE Application รวมทั้งให้ประสานขอความร่วมมือจากภาคเอกชนที่มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วน
ตามแต่กรณีด้วย ๑๒. ให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
ซึ่งแต่งตั้งโดยรองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการก่อสร้างอาคารของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้แล้วเสร็จภายใน
๗ วัน โดยหากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
|