ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา เชียงราย น่าน และแพร่) เมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 และวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 | นร.11 สศช | 19/03/2567 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
๒ (พะเยา เชียงราย น่าน และแพร่) เมื่อวันพุธที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๗ และวันจันทร์ที่ ๑๘
มีนาคม ๒๕๖๗ ๑.๒
เห็นชอบในหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัดและจังหวัด จำนวน ๙ โครงการ กรอบวงเงิน
๑๕๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท
โดยให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัดขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และให้สำนักงบประมาณพิจารณาความเหมาะสมของวงเงินโครงการ สำหรับโครงการเชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ
(Chiang Rai Wellness City) วงเงิน
๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองเก่าแพร่ วงเงิน
๔๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรับไปหารือกับสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม
และนำเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในโอกาสแรก
รวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดนำโครงการมาบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดต่อไป ๑.๓ เห็นชอบในหลักการของโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน
(กรอ.กลุ่มจังหวัด) จำนวน ๔ โครงการ กรอบวงเงิน ๑๔๕,๘๘๐,๐๐๐ บาท
โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งจัดทำข้อเสนอโครงการ
โดยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบ
สำหรับ ๔ โครงการที่อยู่ในคำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ได้แก่
(๑) โครงการปรับปรุงซ่อมแซมผิวถนน สาย บ้านฝั่งหมิ่น บ้านนาก้า อำเภอเวียงสา
จังหวัดน่าน วงเงิน ๙,๘๕๘,๐๐๐ บาท (๒) โครงการปรับปรุงซ่อมแซมผิวถนน สาย บ้านเด่น
บ้านห้วยลี่ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน วงเงิน ๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท (๓)
โครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนน สาย บ้านนาก้อ-บ้านสบกอน ๒ อำเภอปัว อำเภอเชียงแสน
จังหวัดน่าน วงเงิน ๙,๙๐๒,๐๐๐ บาท และ (๔) โครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนน สาย บ้านตอน
บ้านป่าต้าง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน วงเงิน ๖,๑๑๒,๐๐๐ บาท วงเงินรวม ๓๔,๘๗๒,๐๐๐
บาท ขอให้พิจารณาเป็นโครงการที่มีลำดับความสำคัญสูง รวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดนำโครงการบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดต่อไป ๑.๔ มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน
(กรอ.กลุ่มจังหวัด) ในส่วนที่เหลือจำนวน ๗๔ โครงการ
เพื่อบรรจุไว้ในแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ๑.๕
มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน
(กรอ.กลุ่มจังหวัด) ในส่วนที่เหลือจำนวน ๗๔ โครงการ
เพื่อบรรจุไว้ในแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ๑.๕
มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอ โดยขอให้เร่งรัดผลักดันโครงการที่สำคัญเพื่อยกระดับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน
๒ (พะเยา เชียงราย แพร่ และน่าน) ให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง
ส่งเสริมการค้า
การลงทุนเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่
ประกอบด้วย (๑) ด้านการค้า การลงทุน เศรษฐกิจชายแดน จำนวน ๒ เรื่อง (๒)
ด้านคุณภาพชีวิต จำนวน ๒ เรื่อง และ (๓) ด้านอื่น ๆ จำนวน ๒ เรื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ๑.๖
มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามข้อ ๑.๒-๑.๕
และรายงานผลการดำเนินการให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ๒.
ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) เร่งประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
เกี่ยวกับการขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำ
เพื่อให้สามารถปรับปรุงและขยายสายทางตั้งแต่บริเวณสามแยกอนามัยถึงแนวเขตพรมแดนไทย
เป็นขนาด ๔ ช่องทางจราจร ระยะทาง ๒ กิโลเมตร
เพื่อรองรับการเชื่อมโยงระหว่างจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|