ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 1 | กค. | 13/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติและรับทราบตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ครั้งที่ ๑ ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ ปรับเพิ่มสุทธิ
๕๖๐,๒๗๖.๑๐ ล้านบาท (จากเดิม ๑๙๔,๔๓๔.๕๓ ล้านบาท เป็น ๗๕๔,๗๑๐.๖๓ ล้านบาท)
แผนการบริหารหนี้เดิม ปรับเพิ่ม ๓๘๗,๗๕๘.๕๒ ล้านบาท (จากเดิม ๑,๖๒๑,๑๓๕.๒๒ ล้านบาท
เป็น ๒,๐๐๘,๘๙๓.๗๔ ล้านบาท) และแผนการชำระหนี้ ปรับเพิ่ม ๙,๐๗๕.๐๗ ล้านบาท (จากเดิม
๓๙๐,๕๓๘.๖๓ ล้านบาท เป็น ๓๙๙,๖๑๓.๗๐ ล้านบาท) ๑.๒ อนุมัติการบรรจุโครงการพัฒนา โครงการ
และรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
ครั้งที่ ๑ จำนวน ๕๖ โครงการ/รายการ ๑.๓ อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๑ แห่ง คือ
การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ที่มีสัดส่วนความสามารถในการหารายได้เทียบกับภาระหนี้ของกิจการ
(Debt Service Coverage Ratio : DSCR) ต่ำกว่า ๑ เท่า สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ โดยให้ กคช. รับความเห็นของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
เช่น (๑) กคช.มีความสามารถในการชำระหนี้ต่ำกว่าเกณฑ์
เนื่องจากมีภาระหนี้ที่ครบกำหนดในแต่ละปีที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ในวงเงินค่อนข้างสูง
(๒) กคช. ควรบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้สมดุล (๓) กคช.
ควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในการปรับโครงสร้างหนี้ที่ครบกำหนดในแต่ละปี
และ (๔) กคช. ควรเร่งรัดการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ลงทุนไปแล้วในอดีต
แต่ปัจจุบันทรัพย์สินนั้นไม่สามารถทำให้เกิดกำไรได้ ไปดำเนินการด้วย
รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ปรับปรุงครั้งที่ ๑
เร่งรัดดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าวด้วย ๑.๔ รับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง
๕ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๖๗-๒๕๗๑)
และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ
เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป ๒.
อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ
การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา ๗
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง
กู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕
รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา
และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
ภายใต้กรอบวงเงินของการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗
ครั้งที่ ๑ และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน
การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๓. ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพลังงาน
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควร (๑) กำกับ ติดตาม
และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
(๒)
การกู้เงินควรพิจารณาให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละช่วงเวลา
และจะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและและการเงินโลกที่ยังมีแนวโน้มของความผันผวนอยู่ในเกณฑ์สูง
รวมทั้งแรงกดดันทางการคลังที่เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของภาระหนี้สาธารณะและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของภาระดอกเบี้ย
ซึ่งจะต้องบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมิให้กระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
ตลอดจนเป็นข้อจำกัดต่อกรอบงบประมาณ และ (๓)
รัฐบาลควรให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้และดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในโอกาสที่เหมาะสม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|