คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
๑.๒ ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ เพื่อจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการดังกล่าว
๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับเกลี่ยตำแหน่งและกำลังพลภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งจำนวนและระดับตำแหน่งที่มีอยู่เดิมให้สอดคล้องกับภารกิจและปริมาณงานที่จะต้องปฏิบัติ สำหรับอัตรากำลังที่จะปฏิบัติภารกิจในศูนย์ฝึกอบรม ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.
๓. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณที่เห็นควร (๑) พิจารณาถึงความคุ้มค่าและความซ้ำซ้อนของโครงสร้างหน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจด้านการฝึกอบรมในภาพรวม โดยมุ่งเน้นให้เกิดการบูรณาการภารกิจการฝึกอบรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีการใช้บุคลากร สถานที่ หรือทรัพยากรอื่น ๆ รวมทั้งควรบูรณาการการกำหนดยุทธศาสตร์ แผนพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม ตลอดจนการจัดการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย (๒) นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เช่น การจัดห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual Classroom) การสร้างศูนย์ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาหน่วยงานไปสู่รัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) และสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนอื่น และ (๓) จัดทำแผนการบริหารอัตรากำลังของหน่วยงานให้ชัดเจน และดำเนินการจัดสรรอัตรากำลังโดยปรับเกลี่ยตำแหน่งและกำลังพลภายใน ทั้งจำนวนและระดับตำแหน่งให้สอดคล้องกับภารกิจและปริมาณงานตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย