ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ความคืบหน้าในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและนโยบายของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการตรวจลงตรา | กต | 07/06/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบมติที่ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เรื่อง ทบทวนรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่คนชาติได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราและสิทธิขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๘ และเรื่อง การพิจารณากำหนดสิทธิการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๙ โดยที่ประชุมมีมติให้ปรับปรุงบัญชีรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิขอรับ/ผ่อนผันการตรวจลงตราซ้ำซ้อนกัน โดยหากได้รับสิทธิขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) สิทธิผ่อนผันให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ไม่เกิน ๓๐ วัน (ผ.๓๐) ให้ยึดสิทธิ ผ.๓๐ เป็นหลัก และหากได้รับสิทธิ VoA ผ.๓๐ และสิทธิตามความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราซ้ำซ้อนกัน ให้ยึดสิทธิตามความตกลงฯ เป็นหลัก และมีแนวทางในการพิจารณาให้สิทธิ/ถอนสิทธิการตรวจลงตราแก่ประเทศต่าง ๆ โดยนำปัจจัยสำคัญอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคง ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ปริมาณนักท่องเที่ยว และผลประโยชน์ของไทยในมิติอื่น ๆ (การสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศ) มาใช้เป็นปัจจัยในการพิจารณาร่วมกับหลักประติบัติต่างตอบแทน ๑.๒ เห็นชอบให้คนชาติของสาธารณรัฐฟิจิและคนชาติของรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีสามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) ได้ ๑.๓ รับทราบความคืบหน้าของการจัดทำระบบการยื่นคำร้องขอรับการตรวจลงตราผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Electronic Visa) โดยกระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและรอการแจ้งผลในประเด็นข้อกฎหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณกลางปี ๒๕๖๐ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้หน่วยงานในระดับปฏิบัติมีระบบข้อมูลที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกันเพื่อไม่ให้สิทธิตามความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรา กระทบต่อความเสี่ยงด้านความมั่นคง และไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |