ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | รายงานผลการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 13 (CITES CoP 13) | ทส | 02/11/2547 |
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ รับทราบรายงาน
ผลการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 13 (CITES CoP13) โดยผลการประชุมสรุปดังนี้ ในส่วนข้อเสนอของประเทศไทย ที่ประชุมเห็นชอบให้เลื่อน บัญชีโลมาอิระวดี (Orcaella brevirostris) จากบัญชี 2 (ยังคงอนุรักษ์บางส่วน แต่อนุญาตให้ซื้อ/ขายได้ โดย มีการควบคุม) ของอนุสัญญา เป็นบัญชี 1 (ห้ามซื้อห้ามขาย ให้อนุรักษ์และใช้ศึกษาทางวิชาการได้) ให้ถอด หยก (Euphorbia lacteal) ในบัญชี 2 ที่ได้จากการขยายพันธุ์เทียมออกจากบัญชีอนุสัญญา ให้ถอดโป๊ยเซียน (Euphorbia milii) ที่ได้จากการขยายพันธุ์เทียมออกจากบัญชีอนุสัญญา ให้กล้วยไม้ลูกผสม 4 สกุล คือ สกุล แวนด้า สกุลฟาแลนนอปซิส สกุลเดนโดรเบียม และสกุลซิมบิเดียม ยกออกจากบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา ฯ ให้เลื่อนกล้วยไม้ฟ้ามุ่ย (Vanda crerulea) จากบัญชี 1 เป็นบัญชี 2 นอกจากนี้ การประชุมได้พิจารณาข้อ เสนอของประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าหลายชนิด เช่น เต่านา ตะพาบน้ำ จระเข้แม่น้ำไนล์ ช้าง และแอฟริกา ฯลฯ ซึ่งบางชนิดมีผลกระทบกับการอนุรักษ์และการค้าชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่มีอยู่ ในประเทศไทย สำหรับการดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรีที่ได้ประกาศไว้ในการเปิดประชุม CITES CoP13 ได้แก่ การแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐมนตรีอาเซียน (ASEAN Statement) ในระหว่างการประชุม CITES CoP13 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2547 เพื่อแสดงเจตจำนงร่วมกันในความร่วมมือที่ครอบคลุมถึงประเด็น ต่าง ๆ อาทิเช่น ด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การติดตามตรวจสอบการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า การแลก เปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เป็นปัจจัยสำคัญของเครือข่าย เป็นต้น การจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมการป้องกันธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครนายก การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือเพื่อการอนุรักษ์ สัตว์ป่าและพืชป่าระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาคเอกชน และองค์กรพัฒนาเอก ชน และการประชุม CITES CoP14 ซึ่งจะจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2550 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเห็นชอบให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ ดำเนินการให้เป็นไปตามผลการประชุม ฯ และเพื่อสร้างเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายในการป้องกันและ ปราบปรามการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งดำเนิน การจัดทำแผนปฏิบัติการให้เป็นไปตามแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐมนตรีอาเซียน (ASEAN Statement on CITES) ในระหว่างการประชุม CITES CoP13 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2547 |
.....