ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
|---|---|---|---|
| 1 | ขออนุมัติเปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร | มท | 04/11/2546 |
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (คกก.4) ที่มี
มติเกี่ยวกับโครงการจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ โดยอนุมัติโครงการจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านบางกะปิ สำนักงานเขตบางกะปิ และโรงเรียนวิชูทิศ สำนักงานเขตดินแดง ในปีการศึกษา 2546 โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย สำหรับงบ ประมาณสำหรับดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และอนุมัติเป็นหลักการว่า หากโรงเรียนในสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เปิดทำการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและพร้อมที่จะเปิดทำการเรียน การสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเปิดทำการเรียนการสอนในระดับมัธยม ศึกษาตอนปลายได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี แต่ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด และดำเนินการตามประเด็นอภิปรายของ คกก.4 ดังนี้ กรณีโรงเรียน ในสังกัดกรุงเทพมหานครที่มีความพร้อมจะเปิดทำการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้เปิดทำการ เรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี นั้น จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ ความพร้อมของการขยายการจัดการศึกษาในทุกด้าน โดยเฉพาะคุณภาพการศึกษา เพื่อที่คณะกรรมการเขตพื้นที่ การศึกษาจะใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติ และให้มีการจัดทำแผนที่แสดงที่ตั้งสถานศึกษาและสภาพข้อมูลที่เกี่ยว ข้องในบริเวณใกล้เคียงอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในการพิจารณากรณีจะขอขยายการเรียนการสอนในโรงเรียนของ กรุงเทพมหานคร รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ โดยการขอขยายการจัดการศึกษาควรดำเนินการแบบ ค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรก็ตามในระยะยาวการจัดการศึกษาโดยภาครัฐควรต้องลดลง ในขณะที่ต้องส่งเสริมให้มี การจัดการศึกษาโดยภาคเอกชนเพิ่มขึ้น โดยให้พิจารณาว่า หากโอนภารกิจเกี่ยวกับการจัดการศึกษาให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเท่าใด ก็ควรปรับลดสัดส่วนระหว่างโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและโรงเรียน ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยอาจต้องโอนโรงเรียนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือยุบเลิกโรงเรียน เพื่อมิให้มีการขยายขอบเขตการให้การศึกษาจนเป็นการแข่งขันกับเอกชน โดยรัฐอาจพิจารณาสนับสนุนภาคเอก ชนในเรื่องปัจจัยอุดหนุนอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น จัดให้มีครูอาจารย์จากโรงเรียนของรัฐไปช่วยสอนเสริมในโรงเรียน เอกชนที่อยู่ใกล้เคียง หรือกำหนดสัดส่วนจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนในโรงเรียนของรัฐให้เหมาะสมกับการสอน ที่มีประสิทธิภาพไว้เป็นมาตรฐานและจะไม่เพิ่มจำนวนนักเรียนต่อห้องเกินกว่ามาตรฐานดังกล่าว รวมทั้งไม่ขยาย จำนวนห้องเรียนเพิ่มเติม เป็นต้น และให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์เพื่อคณะกรรมการเขต พื้นที่การศึกษาใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติตามประเด็นอภิปรายดังกล่าว แล้วแจ้งให้คณะกรรมการเขตพื้นที่ การศึกษาทราบโดยเร็วต่อไป |
|||
.....
