คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุแห่งชาติ  ฉบับที่  2    
(พ.ศ. 2545-2549) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงกลาโหม  กระทรวง    
การคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ 
และสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ (ที่เห็นควรให้แก้ไขข้อความในร่างแผนแม่บท ฯ  โดยตัดข้อความที่  
อนุญาตให้หน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่มีอาวุธ ฯ  ไว้ในครอบครองออก  และให้เพิ่มกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์ และสิ่งที่
ใช้ในการสงคราม  พุทธศักราช  2495  และคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่  37  ลงวันที่  21
ตุลาคม 2519 ไว้ในแผนแม่บท ฯ กับให้ตัดคำว่า "ออร์กาโนฟอสเฟต" ออก เนื่องจาก UNEP ยังไม่เคยจัดให้   
มีสารเคมีกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตเป็นสารที่สลายตัวยากและคงทนในสิ่งแวดล้อม  รวมทั้งหน่วยงานผู้รับผิด    
ชอบในการดำเนินการตามแผนแม่บท ฯ  ลำดับที่ 59  "สมาคมผู้ผลิตสารเคมีเกษตรนานาชาติ GIFAP"  ให้ 
แก้ไขเป็น  "CropLife  International"  ตามชื่อในปัจจุบัน  และให้มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาระบบการ
จัดการและป้องกันอุบัติภัยจากเคมีวัตถุด้วย กับให้ผนวกแผนแม่บท ฯ ดังกล่าวไว้เป็นส่วนหนึ่งของแผนหลัก 
การป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ  นอกจากนี้  ควรเพิ่มมาตรการในส่วนต่าง ๆ  ได้แก่  การทบทวนปรับปรุงกฎ
หมายที่เกี่ยวข้องกับเคมีวัตถุให้เหลือน้อยที่สุดการประสานความร่วมมือในลักษณะเครือข่ายทั้งองค์กรภาค  
รัฐ เอกชน  และประชาชน  โดยเฉพาะภาคประชาชนให้มีส่วนร่วมทั้งในส่วนที่เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารระดับ
พื้นที่ชุมชนการเฝ้าระวัง การป้องกันอุบัติภัยเคมีวัตถุ  ความรู้ในการจัดการของเสียเคมีวัตถุต่าง ๆ  การติด 
ตามประเมินผลการดำเนินงาน และการมีส่วนร่วมของภาคเกษตรที่ชัดเจน  ตลอดจนงบประมาณค่าใช้จ่าย
ตามแผนงานให้มีการประมาณการงบประมาณค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและประหยัด) ไปพิจารณาดำเนินการ
ด้วย  และให้นำผลการปรับปรุงรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่ง