คณะกรรมการวินิจฉัยเรื่องการดำเนินการทางวินัยการพิจารณาอุทธรณ์ของข้าราชการ      
ประเภทต่างๆ ในกรณี (พันตำรวจโท ชุมพลฯ ) ผู้อุทธรณ์กับพวกไปที่บ้านนายเหมือนฯ ขณะมีการ     
เล่นการพนัน ซึ่งคำให้การของนายเหมือนฯ ไม่น่าเชื่อถือ จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง ดังนั้น พยาน     
หลักฐานจึงไม่พอฟังว่าผู้อุทธรณ์มีเจตนาทุจริต โทษที่ลงจึงไม่รุนแรง และ กรณีนายวิชัย  ศรีปัญญา     
ซึ่งเดิมรับราชการตำแหน่งช่างตรวจสภาพรถ 1 สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 ได้อุทธรณ์คำสั่งใน       
การที่ถูกอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยมีมติ อ.ก.พ. กรมสั่งปลดออกจากราชการ ฐานทุจริต        
ต่อหน้าที่ราชการจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการ    
อย่างร้ายแรง และประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง กรณีไม่ตรวจสอบรถยนต์เป็นเหตุให้มีการโอนทางทะเบียน       
โดยไม่ถูกต้อง โดย ก.พ.พิจารณาเห็นว่า การกระทำของ นายวิชัย  ศรีปัญญา เป็นเพียงการกระทำผิด     
ทางวินัยไม่ร้ายแรงควรได้รับโทษลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น มติคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเป็นเอกฉันท์    
และเห็นชอบ จึงสั่งลดโทษ "ปลดออกจากราชการ " เป็นลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้นและสั่งให้กลับเข้ารับราชการ   
และนายติชัย  พรหมเขียงทอง (นัยศรี  พสุธาน์) ข้าราชการครูตำแหน่งอาจารย์ 1 วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต    
กรณีกระทำการเรียกรับเงินจากนักศึกษาที่สอบตกรายวิชากลศาสตร์ ชั้น ปวส. เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ มส.                
ให้ผ่านการทดสอบ และใช้วัสดุฝึกงานของทางราชการไปรับทำผลงาน รับจ้างหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเอง      
คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วมีมติ โดยกรรมการฝ่ายข้างมาก (5 เสียง) เห็นว่าการที่นายติชัย  พรหมเขียงทอง       
ได้เรียกรับเงินจากนักศึกษาถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงมีมติ               
เห็นควรลงโทษปลดออกจากราชการ โดยกรรมการฝ่ายข้างน้อย (1 เสียง) ตามมติ ก.ค.