คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับกรณีบริษัทผู้รับเหมาช่วงและผู้ให้เช่าเครื่องมือแก่สำนักงานคิลลิงแฮมฯ
หลีกเลี่ยงภาษีอากรว่า   1. กรณีผู้รับเหมาทำสัญญาไทยตรงกับรัฐบาลสหรัฐ ฯ อันได้แก่กรณีสำนักงาน
คิลลิงแฮมแซคคีไกเซอร์นั้น    ตามบันทึกความตกลงเกี่ยวกับการปฏิบัติการให้เป็นไปตามโครงการก่อ
สร้างภายใต้ความช่วยเหลือทางทหารระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐ ฯ พ.ศ. 2499 มีบทบัญญัติ
ในเรื่องการยกเว้นภาษีอากรไว้กว้าง ฯ ไม่ชัดแจ้ง คือ กำหนดให้ได้รับยกเว้น "Professional Tax"   ซึ่ง
อาจจะแปลความอย่างแคบว่า หมายถึงภาษีที่เกี่ยวกับวิชาโดยเฉพาะ เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประ
กอบวิชาหรืออาจจะตีความหมายของคำนี้อย่างกว้างให้รวมถึงภาษีอากรที่เกี่ยวกับเงินที่ได้จากการ
ประกอบอาชีพได้ด้วย  สำหรับเรื่องที่กำลังพิจารณานี้เงินที่สำนักงานคิลลิงแฮม ฯ ได้รับเป็นเงินช่วยเหลือ
ทางทหารของรัฐบาลสหรัฐ ฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ใช้ไปในกิจการการช่วยเหลือทางทหารให้มากที่สุด
เท่าที่จะมากได้  ดังนั้น  "หากรัฐบาลมีนโยบายที่จะยกเว้นภาษีอากร ให้ในกรณีเช่นสำนักงานคิลลิงแฮม ฯ         
นี้ กระทรวงการคลังก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด  ทั้งนี้ โดยตีความข้อตกลงที่อ้างถึงข้างต้น ให้คลุมถึงภาษี
การค้าและภาษีเงินได้ของสำนักงานด้วย  2.  กรณีของผู้รับเหมาช่วง (Sub 3 Contraetor)   เนื่องจาก
บริษัทมิได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับรัฐบาลสหรัฐ ฯ ฉะนั้น การตีความดังกล่าวจึงไม่คลุมถึง 3. กรณีของ
บริษัทหรือเอกชนผู้ให้เช่าเครื่องมือแก่สำนักงานคิลลิงแฮมฯ นั้น นอกจากจะไม่ได้เป็นคู่สัญญาโดยตรง
กับรัฐบาลสหรัฐ ฯ แล้ว ยังเป็นบริษัทหรือเอกชนประกอบกิจการอยู่ในประเทศไทยด้วย ฉะนั้น จึงไม่อยู่
ในข่ายที่จะได้รับยกเว้นภาษีอากร เช่นเดียวกับผู้รับเหมาช่วงซึ่งทั้งสองกรณีนี้ทางกรมสรรพากรได้ดำเนิน
การจัดเก็บภาษี