รับทราบร่างพระราชกฤษฎีกาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   และ  
คณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย    ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี   
เสนอ   และเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ  
จังหวัดเพชรบุรี  และตำบลหินเหล็กไฟ  อำเภอหัวหิน  จังหวัดประจวบคีรีขันธุ์   ให้เป็นเขตปฏิรูป  
ที่ดิน  พ.ศ. ....  และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย หรือดำเนินการต่อไปได้ แล้วแต่กรณี

          รับทราบร่างพระราชกฤษฎีกาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  และคณะ 
รัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ   และ  
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลกะลุวอ  อำเภอเมืองนราธิวาส    และ  
ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... และให้นำขึ้นทูเกล้า ฯ 
หรือดำเนินการต่อไปได้ แล้วแต่กรณี 

          รับทราบร่างพระราชกฤษฎีกาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และคณะ 
รัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ  และ  
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลสุไหงปาดี  อำเภอสุไหงปาดี  จังหวัด  
นราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ....  และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย  หรือดำเนินการต่อไปได้ 
แล้วแต่กรณี

          รับทราบร่างพระราชกฤษฎีกาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และคณะ 
รัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ  และ  
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลแม่ดง  และตำบลโละจูด   อำเภอแว้ง 
จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย หรือดำเนินการต่อ 
ไปได้ แล้วแต่กรณี

          รับทราบการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเรื่องที่คณะรัฐมนตรีใหม่ควรรู้ ได้แก่
          1. การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่  (คณะที่ 53)  โดยแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี วันที่ 9 พฤศจิกายน
2540   แต่งตั้งรัฐฒนตรีอื่น ๆ  วันที่ 14 พฤศจิกายน 2540   ถวายสัตย์ปฏิญาณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 
2540 และเข้ารับหน้าที่ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2540 
          2. การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนเข้าบริหารราชการแผ่นดิน
          3. คู่มือคณะรัฐมนตรี อันได้แก่ สถานที่ประชุม วันเวลาประชุม การแต่งกายเข้าประชุม  ชุดสากล
ผู้ได้รับอนุญาตให้อยู่ในห้องประชุม ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวม 9 คน การบริการและอำนวยความสะดวก 
ข้อควรระวังตามมติคณะรัฐมนตรีและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี  วาระการประชุม  ขั้นตอนการเสนอ 
เรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี การติดตามมติคณะรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องพึงรู้สำหรับรัฐมนตรีใหม่ 
และสิทธิประโยชน์ของรัฐมนตรี
          4. แนวทางการจัดทำนโยบาย อันได้แก่  นโยบายการเมือง  การปกครอง  การบริหารราชการ
ความมั่นคง และการต่างประเทศ และนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม          
          ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ

          รับทราบการดำเนินการร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีชุดก่อน และอยู่ระหว่าง 
การพิจารณาในวาระที่ 1 ของสภาผู้แทนราษฎร  จำนวน 56 ฉบับ  โดยให้ดำเนินการต่อไปได้   เว้น 
แต่เมื่อถึงวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติใดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว  รัฐมนตรีไม่ชี้แจงใน
ที่ประชุม ร่างพระราชบัญญัตินั้นเป็นอันตกไป ทั้งนี้ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.
2540  ข้อ 50   หรือคณะรัฐมนตรีขอถอนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจากสภาผู้แทนราษฎร  และที่
ประชุมสภาผู้แทนราษฎรยินยอม  ทั้งนี้ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2540  ข้อ  
47      และหากไม่มีรัฐมนตรีท่านใดทักท้วง   ถือว่าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ดำเนินการร่างพระราช 
บัญญัติทั้ง 56 ฉบับ ในสภาผู้แทนราษฎรต่อไปได้  หากในภายหน้ากระทรวง  ทบวงใด  ไม่ประสงค์
จะดำเนินการร่างพระราชบัญญัติฉบับใด ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  
ทราบเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ  และขอถอนร่างพระราชบัญญัติจากสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ

          เห็นชอบแนวทางการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยในระยะแรกอาจดำเนินการได้ดังนี้
          1. วันเวลาประชุม ควรเป็นวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป
          2. สถานที่ประชุมชั้น 5 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เว้นแต่ในบางกรณีอาจเรียกประชุม
ณ สถานที่อื่นได้ตามจำเป็น
          3. ผู้เข้าประชุม คณะรัฐมนตรี  ส่วนผู้เข้าประชุมให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตจากนายกรัฐ
มนตรี และเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี   
          4. วาระการประชุม ได้แก่ วาระประธานแจ้งเพื่อทราบ  วาระสภา  และวาระเพื่อทราบตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2520
          5. คณะกรรมการรัฐมนตรี ให้มีคณะกรรมการรัฐมนตรีขึ้น 2 ชุด ในรูปของคณะกรรมการ
กลั่นกรองเรื่องเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี โดยให้การเสนอเรื่องเกือบทุกเรื่องต้องผ่านการกลั่นกรอง
ของคณะกรรมการชุดใดชุดหนึ่งแล้ว ได้แก่  คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ  และคณะกรรม 
การรัฐมนตรีฝ่ายสังคม โดยมี นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย  เป็นประ
ธาน   
          6. การเสนอเรื่องต่อที่ประชุม ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้สรุปและเสนอเรื่องต่อที่
ประชุม เมื่อมีข้อซักถามหรืออภิปรายจึงให้รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องชี้แจง 
          7. การบรรยายสรุป ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีขอนโยบายจากนายกรัฐมนตรีและ  
รองนายกรัฐมนตรีก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งว่าควรจัดให้ผู้ใดบรรยายสรุปเรื่องใด 
ในวันใด
          8. การตรวจร่างมติคณะรัฐมนตรี  มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง
เป็นผู้ตรวจร่างมติคณะรัฐมนตรี
          9. การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ควรเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกโดยเร็ว  โดย
มีวาระประชุมเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีควรทราบ และพิจารณาแนวทางการประชุมคณะรัฐมนตรี
และแนวทางการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตลอดจนการมอบหมายหรือแต่งตั้งบุคคลให้ดำรง
ตำแหน่งต่าง ๆ ในทางการเมือง 
          ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ

          เห็นชอบให้คงถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการมอบอำนาจของคณะรัฐมนตรี
รวม 14 เรื่อง ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรี  (13 กรกฎาคม 2520, 13 ธันวาคม 2520, 2 มกราคม
2522,  22 พฤศจิกายน 2526,  25 กันยายน 2527, 10  พฤษภาคม  2531,  26  มิถุนายน
2533, 14 สิงหาคม 2533, 18 ธันวาคม 2533,  23 กรกฎาคม 2534,  17 ธันวาคม 2534,
29 มิถุนายน 2535,  22 ธันวาคม 2535  และ 10 กันยายน 2539)  ตามที่สำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี เสนอ และให้กระทรวง ทบวง ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป

          เห็นชอบให้คงถือปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของคณะรัฐมนตรี  เกี่ยวกับการรักษาความลับ 
ของทางราชการ,  การนำเอกสารลับของทางราชการไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์,  การนำเอกสาร 
ระเบียบวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์, การรักษาความลับในการตัดสิน 
ใจของคณะรัฐมนตรี, การให้สัมภาษณ์ และการกำหนดขนาดกำลังคนภาครัฐ  ตามที่สำนักเลขาธิ 
การคณะรัฐมนตรี เสนอ

          เห็นชอบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการร่างคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีเพื่อแถลง  
ต่อรัฐสภา  และการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาร่างนโยบาย ฯ   ตามที่สำนักเลขาธิการ  
คณะรัฐมนตรี เสนอ โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) เป็นประธาน  และให้เร่ง 
รัดดำเนินการต่อไป      และให้มีการเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบาย  
ของคณะรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2540   และปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่ง 
รัฐสภา ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2540    โดยให้มีการถ่ายทอดการประชุมทางวิทยุ
กระจายเสียงแห่งประเทศไทย และทางวิทยุโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์และองค์การสื่อ
สารมวลชนแห่งประเทศไทยด้วย

          เห็นชอบให้ส่วนราชการต่าง ๆ ถือปฏิบัติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติของ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2530 และ
วันที่ 6 กันยายน 2531 ต่อไปตามเดิม

          อนุมัติให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมแต่งตั้งไว้ รวม 443 คณะ คงปฏิบัติ
หน้าที่ต่อไป ถ้ากระทรวง ทบวงใด ประสงค์จะยกเลิกคณะกรรมการใด ให้แจ้งมายังสำนักเลขาธิ 
การคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป    ทั้งนี้  ไม่รวมถึงคณะกรรมการที่คณะ
รัฐมนตรีแต่งตั้งไว้ตามระเบียบ ฯ  หรือตามกฎหมายหนึ่งกฎหมายใด  หรือคณะกรรมการที่ได้มี
พระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งไว้ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ

          ให้รัฐมนตรีทุกท่านถือปฏิบัติเกี่ยวกับการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

          มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) เป็นผู้ตรวจพิจารณา 
ร่างมติคณะรัฐมนตรีในวาระประธานแจ้งเพื่อทราบ  วาระสภาผู้แทนราษฎร  วาระที่มีการบรรยาย
สรุป วาระที่เป็นเรื่องเพื่อทราบและเรื่องเพื่อพิจารณา

          รับทราบการขออนุมัติคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี  ที่ 365/2540   ลงวันที่ 15 พฤศจืกายน 
2540 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยแต่งตั้งให้ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เป็นเลขาธิการนายก 
รัฐมนตรี และ นายอรรคพล  สรสุชาติ  เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 15 
พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอ

          รับทราบแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี   โดยให้รัฐมนตรีทุกท่านร่วมกัน
ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางการปฏิบัติตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณและพระบรมราโชวาท     โดย  
ให้ยึดมั่นและปฏิบัติตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญ, การผลัดเวรเฝ้า ฯ  เพื่อให้รัฐ   
มนตรีทุกท่านได้มีโอกาสหมุนเวียนกันไปเฝ้า ฯ  ในงานพระราชพิธี  รัฐพิธี    และงานต่าง ๆ, 
การประชุมสภา ฯ โดยให้ไปประชุมโดยพร้อมเพรียงกันและไม่สมควรขาดประชุม, การประชุม
คณะรัฐมนตรี  ให้รัฐมนตรีทุกท่านได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ  ในที่ประชุมคณะรัฐมน 
ตรีได้อย่างเต็มที่   และเมื่อได้พิจารณามีมติเป็นประการใดแล้วให้ถือเป็นข้อยุติร่วมกัน,  ความ  
ซื่อสัตย์สุจริตและการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างแก่สังคม  โดยให้รัฐมนตรีทุกท่านได้ทำตนเป็น 
แบบอย่างที่ดี เช่น  ในส่วนที่เกี่ยวกับค่านิยมในการประหยัดและทำงานหนัก, การใช้หลักคุณ
ธรรมในการปฏิบัติงาน และความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ

          ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณากำหนดกรอบเวลาในการขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
เสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในแต่ละเรื่องให้ชัดเจน    ตามความเร่งด่วน
ของรัฐบาล  และให้ส่วนราชการ  หน่วยงานและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเป็นไปตาม
กำหนดเวลาอย่างเคร่งครัดด้วย

          เห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 069 เรื่อง การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของกระทรวง 
กลาโหม ของ นายจุติ ไกรฤกษ์  ตามที่กระทรวงกลาโหม  เสนอ  และมอบให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกลาโหมตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

          รับทราบตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ  (คปร.)  
เกี่ยวกับการขอยกเว้นการยุบเลิกอัตราจากผลการเกษียณอายุปีงบประมาณ พ.ศ. 2540  และ
การขอกำหนดอัตราเงินเดือนเพิ่มใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ของส่วนราชการต่าง ๆ ตาม 
มาตรการกำหนดขนาดกำลังคนภาครัฐ