อนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมิใช่ข้าราชการในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีแห่งชาติ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งลาออก จำนวน 2 คน ดังนี้ 
          1. นายโอฬาร ไชยประวัติ     เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิใช่ข้าราชการ แทน นายสมภพ
อมาตยกุล
          2. นายมารวย ผดุงสิทธิ์       เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิใช่ข้าราชการต่อไปอีกครั้งหนึ่ง
          ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะ 
รัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          อนุมัติแต่งตั้ง นายระเด่น หัสดี ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการควบคุมโรค 10 ชช. ด้านวิจัย   
กลุ่มงานที่ปรึกษาทางวิชาการ กรมควบคุมโรคติดต่อ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2540   ซึ่งเป็นวันที่ 
รักษาการในตำแหน่ง ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ

          อนุมัติแต่งตั้ง นายสมโภช มนเทียรอาสน์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม 
กลุ่มงานที่ปรึกษาระดับกระทรวง   สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข    ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 
2540 ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ

          รับทราบคำสั่ง ที่ 375 - 376/2540 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2540 แต่งตั้งข้าราชการ
การเมือง จำนวน 4 ราย ดังนี้
          1. นายไชยยศ จิรเมธากร     เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 
(คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์) ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป 
          2. นายอลงกรณ์ พลบุตร      เป็นประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
          3. นางสาวพอดู สุวรรณทัต   เป็นประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 
ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
          4. นางบุรณัชย์ สมุทรักษ์      เป็นประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
          ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอ

          เห็นชอบการกำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจ ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ดังนี้
          1. เห็นควรสนับสนุนการกำหนดตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จำนวน      
1 ตำแหน่ง โดยการตัดโดนและปรับระดับตำแหน่ง  รองสารวัตรงาน 5  กองกำกับการ 4  กองบังคับ  
การอำนวยการ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ มากำหนดเป็นตำแหน่งดังกล่าว 
          2. เห็นควรให้ความเห็นชอบการกำหนดตำแหน่ง ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ (ทำหน้าที่ที่ปรึกษา  
กองบัญชาการทหารสูงสุด) ส่วนการขอกำหนดตำแหน่ง รองผู้บัญชาการเพิ่มขึ้น 1 ตำแหน่ง เพื่อทำ  
หน้าที่ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ นั้น เนื่องจากขณะนี้มีตำแหน่งผู้บัญชาการทำหน้าที่  
ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ   กองบัญชาการทหารสูงสุดอยู่แล้ว  1  ตำแหน่ง       และ  
เมื่อกำหนดตำแหน่งผู้ช่วยอธิบดีให้ไปทำหน้าที่ที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุดเ  พิ่มขึ้นอีก 1 
ตำแหน่ง น่าจะเป็นการเพียงพอกับภาระหน้าที่แล้ว   จึงเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องกำหนดตำแหน่งเพิ่ม 
ขึ้นทั้งนี้ หากกรมตำรวจประสงค์จะแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บัญชาการไปทำหน้าที่ดังกล่าว  
ก็เห็นควรให้ใช้วิธีปรับตำแหน่งผู้บัญชาการที่มีอยู่เดิมเป็นตำแหน่งรองผู้บัญชาการได้ 
          3. ในการกำหนดตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ  และผู้ช่วยอธิบดีกรม  
ตำรวจ เพิ่มอีกจำนวน 2 ตำแหน่งดังกล่าว จะมีผลกระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้อง   
กับเงินประจำตำแหน่งเพิ่มขึ้นอีก 426,000 บาทต่อปี ซึ่งกรมตำรวจควรจะได้ประเมินผลความคุ้มค่า
ในการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้ว่า  ได้ก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่องาน 
ของกรมตำรวจโดยรวมอย่างใดต่อไป

          เห็นชอบและอนุมัติการลดการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง และให้ดำเนินการต่อไปได้   ตามที่รัฐมนตรี   
ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์  โพธิวิหค)  เสนอ      โดยในการติดตามภาวะการค้าน้ำมันใน   
ตลาดโลกให้กรมทรัพยากรธรณีและการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยร่วมเป็นหน่วยงานติดตามด้วย  ส่วน  
การจัดทำแผนปฏิบัติการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงร่วมกับผู้ค้าน้ำมัน  เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับกรณี  
ที่อาจเกิดภาวะไม่ปกติในการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงให้กรมทรัพยากรธรณีเข้าร่วมดำเนินการด้วย     และ  
มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายสาวิตต์  โพธิวิหค)    รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี  
เกี่ยวกับการที่ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศเป็นมูลค่าสูงถึงประมาณ   
ปีละ 200,000 ล้านบาท   และประเทศผู้ค้าน้ำมันบางประเทศต้องการนำเข้าสินค้าเกษตร    และสินค้า   
อื่น ๆ ที่ประเทศไทยมีอยู่เช่นกัน  ดังนั้น  จึงสมควรพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงแลก   
เปลี่ยนสินค้าของไทยกับน้ำมัน หรือดำเนินการในลักษณะของการค้าต่างตอบแทน โดยให้ประสานงาน  
กับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย  และในปัจจุบันได้มี 
การนำสารหลายชนิดเข้ามาผสมกับน้ำมัน       ซึ่งนอกจากจะเป็นการสูญเสียเงินตราในการนำเข้าแล้ว  
อาจทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นด้วย      จึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติรับไป   
พิจารณาว่า   สารต่าง ๆ   ที่นำมาผสมในน้ำมันมีความจำเป็นเพียงใด     และจะสามารถลดสารผสมใน 
น้ำมันบางชนิดลง เพื่อลดการนำเข้าและราคาขายปลีกของน้ำมันได้เพียงใด หรือไม่

      กระทรวงการคลังได้รายงานผลการดำเนินการกู้เงินจากธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเซีย
รวม 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ว่าในวงเงินจำนวนนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชียจะให้กู้ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ
แบ่งเป็น2 ส่วนคือ เงินกู้เพื่อโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ 
จำนวนส่วนละ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสำหรับเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่กำหนดจะใช้ใน
2 โครงการคือ 
1.  โครงการปฏิรูปตลาดการเงิน และ 
2.  โครงการปฏิรูปภาคสังคม โครงการละ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในชั้นแรก กระทรวงการคลัง
จะกู้เงินสำหรับโครงการปฏิรูปตลาดการเงินก่อน เพราะจำเป็นจะต้องเบิกเงินโดยด่วน จึงเสนอของให้ 
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการกู้เงินดังกล่าว
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้งลงมติเห็นชอบในหลักการและอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ คือ  1.  เห็นชอบตามที่ธนาคารฃน กำหนดให้คณะรัฐมนตรีมีมติรับหลักการในเรื่องต่าง ๆ ที่ปรากฎในกรอบ
มาตรการด้านนโยบาย (Policy Matrix) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
2.  มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแสดงเจตจำนงนโยบาย
เพื่อการพัฒนา (Delelo[ment Policy Letter)  เพื่อจักได้จัดส่งให้ธนาคารพัฒนาเอเซียต่อไป
3.  อนุมัติเงื่อนไขตามร่างสัญญากู้เงินที่กระทรวงการคลังเสนอ
4.  อนุมัติให้กระทรวงการคลังในนามราชอาณาจักรไทยกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเซียในวงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนาม ทั้งนี้ ให้นับรวม
วงเงินกู้ดังกล่าวไว้ในแผนการก่อหนี้ฯ ประจำปีงบประมาณ 2541 ด้วย
5.  ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดเตรียมทำความเห็นทางกฎหมายโดยด่วนต่อไป 
ทั้งนี้ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีรวม 2 ข้อ ไปดำเนินการ คือ
1.  ให้กระทรวงการคลังปรับข้อความในเอกสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้สอดคล้องกัน
2.  สำหรับเงินกู้งวดต่อๆ ไป ที่จะเกี่ยวข้องกับกระทรวง ทบวง อื่น ๆ ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามมติ
คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2541 เรื่องเงินกู้จากธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเซีย ที่กำหนดให้กระทรวงการคลัง
รับไปจัดทำรายละเอียดและให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นกำกับดูแล แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 

          รับทราบสรุปผลการพิจารณาแผนการแก้ไขฟื้นฟูฐานะกิจการของสถาบันการเงิน 
58 แห่ง ดังนี้
          1. หลักเกณฑ์การประเมินผลการพิจารณา
          2. มาตรการรองรับและการจัดการฟื้นฟูสินทรัพย์
          3. การดำเนินการต่อไปเพื่อสร้างความมั่นคงในระบบสถาบันการเงิน
          ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ

          เห็นชอบคำสั่ง ที่ 363/2540 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2540 แต่งตั้ง นางผาสุขนิตย์  
ปิณฑะรุจิ  เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง    
(นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล) ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป   ตามที่กระทรวง 
การคลัง เสนอ  

          เห็นชอบคำสั่ง ที่ 462/2540 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2540 แต่งตั้งร้อยโท สมศักดิ์ ยมะสมิต  
เป็นข้าราชการการเมือง   ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  (นายไพฑูรย์ 
แก้วทอง) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ

          อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง  
จำนวน 14 คน โดยมี นายอภัย จันทนจุลกะ   รองปลัดกระทรวงมหาดไทย  เป็นประธานกรรม 
การ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี   (นายศุภชัย  พานิชภักดิ์)   ปฏิบัติหน้าที่ 
ประธานกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ตามนัยมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการ
นโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. 2535  ประกอบกับมาตรา 38 (1)   แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2540  เป็นต้นไป  ตามที่สำนัก
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  เสนอ

          อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  
โดยมี นายปริญญา นาคฉัตรีย์  เป็นประธานกรรมการและกรรมการอื่นอีก 13 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่
วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

          อนุมัติร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่   
ตำบลบัวชุม ตำบลลำนารายณ์  ตำบาลท่ามะนาว  ตำบลท่าดินดำ  ตำบลชัยบาดาล  ตำบลม่วงค่อม    
ตำบลมะกอกหวาน  อำเภอชัยบาดาล  ตำบลท่าหลวง  ตำบลแก่งผักกูด  อำเภอท่าหลวง  ตำบลโคก   
สลุง ตำบลมะนาวหวาน ตำบลน้ำสุด ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม  จังหวัดลพบุรี  และตำบลวัง    
ม่วง  ตำบลคำพราน  อำเภอวังม่วง  จังหวัดสระบุรี   เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน     ตามที่ 
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ

          เห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 003 เรื่อง หญิงสาวชาวติมอร์ตะวันออกถูกทารุณโดยทหาร
ชาวอินโดนีเซีย ของนายอดิศร เพียงเกษ  ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ  เสนอ    และมอบให้ 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

          อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ  และกรรมการอื่นในคณะกรรมการ 
องค์การคลังสินค้าใหม่ จำนวน 10 ราย โดยมี นายโอฬาร วีรวรรณ เป็นประธานกรรมการ  ตามที่
กระทรวงพาณิชย์ เสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 381/2540 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2540 แต่งตั้งข้าราชการ
การเมือง  จำนวน 3 ราย ดังนี้
          1. นายสมชาย สหชัยรุ่งเรือง     เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 
          2. นายสาคร พรหมภักดี          เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 
          3. นายปาน พึ่งสุจริต              เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   
          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2540 เป็นต้นไป
          ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ

          เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
จำนวน 9 ราย ดังนี้
          1. นายกิตติศักดิ์ ปรกติ
          2. นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ
          3. นายชูชัย ศุภวงศ์
          4. นางบัญญัติ ทัศนียเวช
          5. รองศาสตราจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตร
          6. ศาสตราจารย์ไพรัช ธัชยพงษ์
          7. นายมาร์ค ตามไท
          8. นายเรือง สุขสวัสดิ์
          9. รองศาสตราจารย์อุบลรัตน์  ศิริยุวศักดิ์
          ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ     

           คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2540 เห็นชอบและอนุมัติให้สำนักงบประมาณ
จัดหางบอุดหนุนแก่ ปรส. ในวงเงิน 500 ล้านบาท โดยในขั้นแรกให้จัดสรรจากเงินงบกลาง
ในปีงบประมาณ 2540 จำนวน 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือให้จัดสรรตามความจำเป็นภายใน 
5 ปี แต่ขณะนี้ ปรส. ได้รับจัดสรรเพียง 50 ล้านบาท  ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
          1.  กระทรวงการคลังใช้เงินคงคลังเพื่อการจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่ ปรส. ในส่วนที่เหลือ 
จำนวน 450 ล้านบาท แล้วให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณประจำปีต่อไป 
          2  อนุมัติให้ ปรส.  ไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง   กฎ   ระเบียบ 
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจทั่วไป ยกเว้น  
              2.1 มติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสแก่พนักงานและลูกจ้างประจำ 
ของรัฐวิสาหกิจ
              2.2 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี  ว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการ 
หรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504   
              2.3 ระเบียบกระทรวงการคลัง  ว่าด้วยการตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2528          
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ

          1. เห็นชอบกรอบนโยบายมาตรการบรรเทาปัญหาการว่างงาน ทั้ง 6 มาตรการ ได้แก่
              1.1 มาตรการประหยัด หรือไทยช่วยไทย
              1.2 การจ้างงานในชนบท
              1.3 การแก้ไขแรงงานต่าวด้าว สภาพการณ์ที่มีแรงงานต่างชาติ (พม่า กัมพูชา ลาว)
              1.4 การส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ
              1.5 ส่งเสริมการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม
              1.6 โครงการ "เกษตรทฤษฎีใหม่" ตามแนวพระราชดำริ
          ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เสนอ โดยให้แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
              1.1 การจ้างงานในชนบท (มาตรการในข้อ 1.2)  ให้แก้ไขจากเดิมเป็น  "...ให้ทุกระทรวง  ทบวง  กรม   
พยายามใช้งบประมาณ โครงการต่าง ๆ ที่อยู่จ้างแรงงานทดแทนเครื่องจักร..." 
              1.2 การแก้ไขแรงงานต่างด้าว (มาตรการในข้อ 1.3)  ให้แก้ไขจากเดิมเป็น  "...ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้อง 
จัดให้มีคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาแรงงานต่างชาติที่เข้าเมืองโดยไม่ถูกต้องตาม
กฎหมาย     โดยเฉพาะการประสานกับประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อรับแรงงานดังกล่าวกลับไป" 
              1.3 โครงการ "เกษตรทฤษฎีใหม่" ตามแนวพระราชดำริ ให้ตัดข้อความในข้อ 1.6.3 ทั้งหมดออก
          2. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานแห่งชาติ     ยกเว้นกรณี  นายอำพล 
เสนาณรงค์ องคมนตรีที่ปรึกษาให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการ ฯ ที่จะพิจารณามีมติเรียนเชิญเป็นที่ปรึกษา  
โดยตรง  และให้เพิ่มรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม   รัฐมนตรีว่าการกระทรวง  
ยุติธรรม   ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม   และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ 
ด้วย และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อรับผิดชอบมาตรการเฉพาะในแต่ละมาตรการรวม 7 คณะ   โดยการแก้ไข
แรงงานต่างด้าว ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ  ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม และผู้แทนกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ เป็นอนุกรรมการ และโครงการ "เกษตรทฤษฎีใหม่" ตามแนวพระราชดำริ  ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงวิทยา  
ศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่แวดล้อม เป็นอนุกรรมการด้วย สำหรับในระดับภูมิภาคและระดับอำเภอ ให้ผู้ว่าราชการ 
จังหวัดและนายอำเภอเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ  กับอนุมัติหลักการให้เพิ่มเติมงบช่วยเหลือผู้ว่างงานโดยเงินกู้ 
จากธนาคารโลก และสถาบันการเงินต่างประเทศ  ตามที่คณะกรรมการนโยบายบรรเทาปัญหาการว่างงานแห่ง 
ชาติเสนอเป็นระยะ ๆ  ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เสนอ
          3. ให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม   รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
             3.1 สมควรเพิ่มเติมมาตรการที่มีลักษณะเป็นการพัฒนาฝีมือแรงงานด้วยหรือไม่
             3.2 สมควรเพิ่มเติมมาตรการสนับสนุนให้ผู้ว่างงานประกอบอาชีพอิสระด้วย หรือไม่
             3.3 ปัจจุบันที่ดินเพื่อการเกษตรที่เจ้าของปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าอยู่เป็นจำนวนมาก  จะมี
วิธีการดำเนินการให้มีการนำมาใช้ประโยชน์หรือก่อให้เกิดการจ้างงานได้เพียงใด หรือไม่
         4. ให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมประสานการปฏิบัติการตามแนวทางช่วยเหลือประชาชน
ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยกับกระทรวงมหาดไทยด้วย