รับทราบการสรรหาคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้ารับการพิจารณารับรางวัลพิเศษ 
อาเซียน     เพื่อมอบให้แก่บุคคลที่มีสัญชาติจากประเทศสมาชิกอาเซียนและองค์กรที่จดทะเบียนในประเทศ 
สมาชิกอาเซียนที่มีผลงานดีเด่น และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือในภูมิภาค   โดยเน้นที่ 
การพัฒนาบุคลากร มีความสามารถในการแข่งขันทางเทคโนโลยี และการสร้างสมานฉันท์ในสังคมอาเซียน  
โดยมี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ  เป็นประธาน     และมีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นกรรมการและ
เลขานุการ จำนวน 8 คน และเจ้าหน้าที่กรมอาเซียนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ  ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ
เสนอ

          รับทราบรายงานเรื่องสรุปสถานการณ์ภัยแล้งปี 2541 ตามที่กระทรวงมหาดไทย รายงาน  ได้แก่ 
จังหวัดที่ประสบภัยแล้งแบ่งเป็น  ภาคเหนือ 16 จังหวัด  ภาคกลาง 12 จังหวัด   ภาคตะวันออก 7 จังหวัด  
และภาคใต้ 14 จังหวัด       ส่วนการช่วยเหลือได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง  
โดยแจกจ่ายน้ำสะอาดให้แก่ราษฎรที่ขาดแคลนสูบน้ำเข้าพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง สร้างทำนบ/ฝายชั่วคราว  
กั้นลำน้ำ    กับใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อดำเนินการช่วยเหลือ  และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยว  
ข้อง   เพื่อให้การช่วยเหลือในเรื่องของน้ำอุปโภคบริโภคแก่นักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการ 
ประถมศึกษาแห่งชาติ  โดยให้จังหวัดติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในเขตพื้นที่อย่างใกล้ชิดหากเกินขีดความ
สามารถของจังหวัดให้รายงานขอรับการช่วยเหลือไปยังกระทรวงมหาดไทย 

          เห็นชอบการตั้งชื่อสะพานในจังหวัดลำพูน จังหวัดนครนายก และจังหวัดชุมพร พร้อมให้ประดิษฐาน 
ตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี  กำกับป้ายชื่อสะพาน     และนำความกราบบังคมทูลพระ
กรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ดังนี้ 
          1. สะพาน คสล. ข้ามแม่น้ำกวง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ว่า  "สะพานเฉลิมพระเกียรติแม่น้ำ
กวง จังหวัดลำพูน"
          2. สะพาน คสล. ข้ามแม่น้ำนครนายก ตำบลบางสมบูรณ์   อำเภอองครักษ์   จังหวัดนครนายก ว่า   
"สะพานเฉลิมพระเกียรติ 1 แม่น้ำนครนายก จังหวัดนครนายก"    และที่ตำบลท่าทราย  อำเภอเมืองนคร  
นายก จังหวัดนครนายก ว่า "สะพานเฉลิมพระเกียรติ 2 แม่น้ำนครนายก จังหวัดนครนายก"   
          3. สะพาน คสล. ข้ามแม่น้ำท่าตะเภา ตำบลบางลึก  อำเภอเมืองชุมพร  จังหวัดชุมพร ว่า  "สะพาน 
เฉลิมพระเกียรติ แม่น้ำท่าตะเภา  จังหวัดชุมพร"

          รับทราบการอนุมัติให้ นายดาบตำรวจ ประหยัด ต๊ะวิกา ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวน   
ชายแดนที่ 32 ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับราชการต่อไป  ตั้งแต่วันที่ 
26 มีนาคม 2514 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบการอนุมัติให้ นายดาบตำรวจ อัยรัชน์ วิชานวน ผู้บังคับหมู่  งานป้องกันปราบปราม 
สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะ  
การปฏิบัติราชการ  คงอยู่รับราชการต่อไป  ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2521  ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบการอนุมัติให้ นายดาบตำรวจ มังกร ทิพย์สุวรรณ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจ   
ตระเวนชายแดนที่ 33 ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ  คงอยู่รับราชการต่อ  
ไป ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2515 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบการอนุมัติ นายดาบตำรวจ สุพรต ด้วงอินทร์ ผู้บังคับหมู่ แผนก 1 กองกำกับการ 1 
กองบังคับการสนับสนุนตำรวจตระเวนชายแดน  ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราช 
การ คงอยู่รับราชการต่อไป ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2510 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบการอนุมัติให้ นายดาบตำรวจ วันชัย บริบูรณ์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวน  
ชายแดนที่ 33 ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับราชการต่อไป  ตั้งแต่วัน 
ที่ 2 มีนาคม 2513 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบการอนุมัติให้ นายดาบตำรวจ จารึก สุขทรัพย์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวน  
ชายแดนที่ 33 ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับราชการต่อไป ตั้งแต่วันที่
1 สิงหาคม 2514 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          รับทราบการอนุมัติให้ จ่าสิบตำรวจ สุวรรณ รัตนารัตน์ ผู้บังคับหมู่  กองกำกับการตำรวจตระเวน 
ชายแดนที่ 11 ซึ่งได้รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับราชการต่อไป ตั้งแต่วันที่
16 กรกฎาคม 2529 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

          เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ที่ ศก.  /2541 เรื่อง ยกเลิกการลดและเพิ่มอัตราอากร 
ยกเว้นอากร ลดและเพิ่มอัตราอากรศุลกากร  (การกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน   
พืช)  โดยมีสาระสำคัญ เพื่อยกเว้นอากรน้ำมันปาล์มที่นำเข้าตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ (วันที่  
24 กุมภาพันธ์ 2541 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2541) ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ   และให้ดำเนินการ  
ต่อไปได้

         1. อนุมัติให้ยกเลิกคณะกรรมการกำกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจตามเงื่อนไขของกองทุนการเงิน 
ระหว่างประเทศ (กผฟ.)
         2. ให้คณะกรรมการปรับโครงสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (กปพ.)  เป็นผู้ 
รับผิดชอบดูแลการพิจารณาแผนงานโครงการและการจัดสรรการใช้เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างทาง
เศรษฐกิจ สำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับงานในความรับผิดชอบของหลายกระทรวง
         ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ

          อนุมัติให้ถอนเรื่อง โครงการทองช่วยไทย คืนไปได้  ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 
(นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล) เสนอ โดยให้นำไปหารือกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุง
โครงการดังกล่าวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

          เห็นชอบและอนุมัติเรื่อง การเสียสละโบนัสของกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ  และให้ดำเนินการ 
ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ ดังนี้  
          1. ขอความร่วมมือจากกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจกำกับดูแลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้   
เป็นไปตามนโยบายการปรับลดโบนัสของพนักงานประจำปี 2540 ด้วยความสมัครใจ
          2. ให้กรรมการของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งที่จ่ายโบนัสกรรมการจากกำไรสุทธิปี 2540  ลดโบนัสลงร้อย
ละ 20 เช่นเดียวกับเบี้ยประชุมกรรมการ
          3. สำหรับองค์การอิสระและหน่วยงานอื่นที่ไม่มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ    แต่อยู่ในความรับผิดชอบของ 
ส่วนราชการ รวมทั้งกิจการต่าง ๆ ที่รัฐวิสาหกิจเข้าไปถือหุ้นทั้งที่เกินกว่าร้อยละ 50 และน้อยกว่าร้อยละ 50   
เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ให้ขอ   
ความร่วมมือจากหน่วยงานดังกล่าว นำหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541 เกี่ยว 
กับการให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งปรับลดการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับอาชีพที่ขาดแคลนลงในอัตราร้อยละ   20  
ของอัตราที่ได้รับเดิม  ให้ลดเบี้ยประชุมกรรมการลงร้อยละ 20    และให้ระงับการจ่ายค่ารับรองที่จ่ายให้แก่
กรรมการทั้งที่จ่ายเป็นเงินหรือจ่ายในรูปแบบอื่น ๆ ไปปฏิบัติด้วย
          4. ในกรณีที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด

          1. เห็นชอบในหลักการการปรับปรุงสวัสดิการรักษาพยาบาลของรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นไปตาม  
หลักเกณฑ์เดียวกับข้าราชการ โดยให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมไปปรับปรุงประกาศคณะ
กรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง  หลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือ    
เจ็บป่วย    ค่าทำศพกรณีตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน     ค่าช่วยเหลือบุตรและค่าช่วยเหลือการ   
ศึกษาของบุตร ลงวันที่ 12 กันยายน 2534   และที่แก้ไขเพิ่มเติมพร้อมกับแก้ไขมติคณะกรรมการ ฯ   
ซึ่งได้เคยอนุมัติในเรื่องดังกล่าวให้กับรัฐวิสาหกิจหลายแห่งไปแล้ว     ให้สอดคล้องกับการปรับปรุง  
สวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 และ 31  
มีนาคม 2541 ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป
          2. ให้คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งควบคุมการใช้จ่ายสวัสดิการรักษาพยาบาลให้ 
เป็นไปโดยประหยัด      และให้ผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจเจรจากับพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เพื่อปรับลด
สวัสดิการรักษาพยาบาลทำนองเดียวกับของข้าราชการ 
          ทั้งนี้  มาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการระยะสั้นให้ใช้บังคับเป็นระยะเวลา 2 ปี  ตั้งแต่วันที่
1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้กระทรวงการคลังทราบด้วย

          อนุมัติให้กรุงเทพมหานครดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานพระราม 8 โดยใช้วิธีประกวดราคา   
ออกแบบรวมก่อสร้าง  (Turnkey Process)  โดยมีค่าออกแบบรวมก่อสร้างในวงเงิน 3,170 ล้านบาท   
ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ       ทั้งนี้   ให้มีสัดส่วนเงินอุดหนุนจากรัฐบาล : เงินรายได้กรุงเทพ 
มหานคร ร้อยละ 70 : 30 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          1. รับทราบรายงานภาวะความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน  อัตราแลกเปลี่ยน และดัชนีตลาด 
หลักทรัพย์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาวิตต์ โพธิวิหค)  
และรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม) 
รายงานเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในเขตกรุงเทพมหานครของการ   
ปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ป.ต.ท.) ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (นายศิริ การเจริญดี) 
รายงานเกี่ยวกับภาวะความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน        และรองเลขาธิการคณะกรรมการ 
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม)    ได้รายงานเกี่ยวกับดัชนีตลาด 
หลักทรัพย์ 
          2. ให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาแนวนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน
และอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และ
การผ่อนคลายความเดือดร้อนของธุรกิจ  เพื่อเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ
ภายใน 3 สัปดาห์ รวมทั้งให้รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการ ฯ  เกี่ยวกับการผลิต  การ
ลงทุน   ภาระหนี้สินของสถาบันการเงิน   การติดตามประเมินสถานภาพของอุตสากรรมขนาดใหญ่ 
ระดับของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา นโยบายการใช้อัตราดอกเบี้ย ความสมดุลของอัตราแลกเปลี่ยน 
และอัตราดอกเบี้ย นโยบายเพิ่มมาตรฐานของสถาบันการเงิน และการพิจารณาออกพันธบัตรระยะ 
ยาวอัตราดอกเบี้ยต่ำโดยกองทุนฟื้นฟู ฯ  ไปพิจารณาดำเนินการ      แล้วนำเสนอคณะกรรมการ ฯ  
ทราบและพิจารณาโดยด่วนต่อไป 
          ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ

          รับทราบตามที่ปลัดกระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าการขอรับเงินชดเชยภาษีวัตถุดิบเพื่อส่ง 
ออกกุ้งแช่แข็งของผู้ส่งออกกุ้งกุลาดำแช่แข็งว่า  คณะกรรมการพิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ 
ผลิตในราชอาณาจักรเสนอให้ปรับปรุงอัตราเงินชดเชยสินค้ากุ้งกุลาดำแช่แข็ง ให้ต่ำลงเหลือร้อยละ 2 - 4 
และขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง ส่วนการกำหนดราคาเฉลี่ยกุ้งกุลาดำส่งออก  
เพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินที่จะจ่ายชดเชย นั้น   ก็เพื่อไม่ให้รัฐต้องเสียค่าชดเชยจำนวนมาก  ตามมติ 
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ

          รับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  (นายชำนิ  ศักดิเศรษฐ์)  รายงานความ
ก้าวหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการโจรกรรมสินค้าระหว่างการขนถ่ายสินค้าจากเรือเล็กเพื่อนำ 
ขึ้นเรือใหญ่ ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการโจรกรรม  สินค้าขน  
ส่งทางน้ำ  กรมตำรวจ (ศปน.ตร.)  การจัดตั้งจุดตรวจทางน้ำ  การจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำบนเรือ  
ใหญ่  การจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับท่าเรือ  คลังสินค้า  และประวัติเรือ  และการเข้มงวดในการป้องกันปราบ
ปราม กับให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์รับไปเร่งรัดการเจรจรเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินพิเศษให้แก่ ศปน. 
ตร. ต่อไป ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ

          1. เห็นชอบวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมาย 13 สาขา  ได้แก่
อาหารและอาหารสัตว์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ยานยนต์และชิ้นส่วน ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์  เซรามิกและ  
แก้ว  ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง  รองเท้าและเครื่องหนัง  ยาและเคมีภัณฑ์  อัญมณีและเครื่องประดับ  ไม้ 
และเครื่องเรือน   ผลิตภัณฑ์พลาสติก   ปิโตรเคมีและเหล็ก   และเหล็กกล้า     ตามที่คณะกรรมการพัฒนา    
อุตสาหกรรมแห่งชาติ เสนอ  และให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นแกนกลางประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จัดทำแผนปฏิบัติการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว    โดยให้รับความเห็นของคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบาย 
เศรษฐกิจ เกี่ยวกับการเผยแพร่วิสัยทัศน์   กลยุทธ์และแผนงานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม    การจัด
ลำดับความสำคัญของโครงการการแก้ไขปัญหาคอขวด (Bottle Neck) การจัดสรรทรัพยากร การประสาน
งานความสามารถในการแข่งขัน การส่งเสริมให้แรงงานสร้างงานด้วยตนเอง และการเตรียมความพร้อมให้ 
กับผู้ที่จะจบการศึกษาและออกมาเป็นแรงงานใหม่และการพัฒนาด้านแรงงาน
          2. เห็นชอบให้เพิ่มปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ   
การคลัง  กระทรวงการคลัง  เป็นกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ      พร้อมทั้งให้
หน่วยงานที่มีผู้แทนร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว พิจารณามอบหมายให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสิน
ใจและมีวิสัยทัศน์เป็นผู้แทนของหน่วยงาน และไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้แทนกันบ่อยครั้ง 
          3. ให้คณะกรรมการ ฯ     ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมเร่งจัดทำมาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อขจัด  
ปัญหาเฉพาะหน้าที่เป็นอุปสรรคต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย     และเพิ่มประสิทธิภาพการ 
ผลิตโดยเร่งด่วน   และให้นำเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาใน 3 สัปดาห์
         4. เห็นชอบในหลักการให้ปรับปรุงฐานะของคณะกรรมการ ฯ   ให้เป็นคณะกรรมการตามระเบียบ  
สำนักนายกรัฐมนตรี  และในโอกาสต่อไปหากมีความจำเป็นให้ปรับปรุงฐานะเป็นคณะกรรมการตามกฎ   
หมาย  ตามที่ประธานคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ เสนอ     โดยมอบให้กระทรวงอุตสาห 
กรรมรับไปดำเนินการต่อไป
          ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ