ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 112 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 2221 - 2240 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2221 | ร่างกฎกระทรวงระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือ
(ฉบับที่ ... ) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงระบบความปลอดภัย
สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อกำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตสามารถใช้ผู้ควบคุมเรือที่ทำงานอยู่บนเรือประมงซึ่งผ่านการอบรมหลักสูตรการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากสถาบันหรือหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐแทนการใช้คนประจำเรือได้
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2222 | ร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต พ.ศ. .... | อว. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุนิวเคลียร์
ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาตมีไว้ในครอบครอง ใช้ นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณา
ดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าหากร่างกฎกระทรวงฯ
มีผลใช้บังคับ ขอให้มีการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
เพื่อความปลอดภัยต่อสาธารณะและประชาชนโดยรวม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติควรมีการเตรียมความพร้อมในการกำหนดแนวทางการตรวจสอบเชิงรุก
ณ สถานประกอบการที่ได้มีการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากความประมาทหรือการขาดความรู้เท่าทัน
อันจะนำไปสู่การเพิ่มระดับความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
ประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้อย่างเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2223 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | มท. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตะกั่วป่า
จังหวัดพังงา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลบางนายสี ตำบลตะกั่วป่า ตำบลโคกเคียน ตำบลบางม่วง ตำบลบางไทร
และตำบลตำตัว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งมีนโยบายและมาตรการเพื่ออนุรักษ์เมืองตะกั่วป่าซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
วัฒนธรรม และธรรมชาติ ส่งเสริมและพัฒนาให้ชุมชนเมืองเป็นศูนย์กลางการบริหาร
การปกครอง การศึกษา การคมนาคมและการขนส่ง ของอำเภอตะกั่วป่า
โดยได้มีการกำหนดแผนผังและการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตผังเมืองรวม จำแนกออกเป็น
๑๑ ประเภท
ซึ่งแต่ละประเภทจะกำหนดลักษณะกิจการที่ให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินแต่ละประเภทนั้น
ๆ รวมทั้งกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามแผนผังโครงการคมนาคมและขนส่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่แสดงในแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภทท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ
มีความคลาดเคลื่อน เพื่อความถูกต้องชัดเจนของแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่แสดงในแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภทท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ
ควรส่งข้อมูลให้กรมป่าไม้ตรวจสอบเพื่อใช้เป็นข้อมูลจัดทำแผนผังดังกล่าวต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าอำเภอตะกั่วป่า
จังหวัดพังงา ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม
มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ ดังนั้น เมื่อผังเมืองรวมเมืองฉบับนี้มีผลใช้บังคับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้การใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวางผังเมืองรวมเมืองต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2224 | ผลการพิจารณา ญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวม 11 ญัตติ | กษ. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณา ญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
รวม ๑๑ ญัตติ ซึ่งได้พิจารณารวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้ ๑. สินค้าข้าว มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปีการผลิต
๒๕๖๖/๖๗ เช่น โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี
และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
(คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร) ๒. สินค้ามันสำปะหลัง
มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังปี ๒๕๖๖/๖๗ เช่น โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง
โดยสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ผู้ประกอบการ ลานมัน โรงแป้ง
โรงงานเอทานอลที่กู้ยืมเงินจากธนาคาร เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการรับซื้อมันสำปะหลัง
โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรใช้เป็นเงินทุนในการรับซื้อหัวมันสำปะหลังสด
มันเส้นจากเกษตรกร และ/หรือสถาบันเกษตรกรที่มีสมาชิกประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก ๓. สินค้าอ้อย มีกระทรวงอุตสาหกรรม
(สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย)
เป็นหน่วยงานกำกับดูแลมาตรการและการแก้ไขปัญหาสินค้าอ้อยทั้งระบบ ๔. สินค้ายางพารา ได้จัดทำมาตรการระยะสั้น เช่น
ช่วยเหลือค่าครองชีพให้เกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
ระยะปานกลาง เช่น
ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการผลิตจากยางพาราขั้นต้นเป็นการแปรรูปขั้นกลาง
จัดหาช่องทางการจัดจำหน่ายให้เพิ่มมากขึ้น และระยะยาว เช่น
วิจัยและส่งเสริมการลงทุนแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา ๕.
สินค้าปาล์มน้ำมันได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน โดยกำหนด “ห้ามมิให้ผู้ประกอบการจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน
(ลานเท) กระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อให้ผลปาล์มน้ำมันร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะโดยใช้
ตะแกรง รางเทสำหรับลำเลียงทะลายปาล์มน้ำมันที่เป็นตะแกรง
อุปกรณ์หรือสิ่งอื่นใดสำหรับแยกผลปาล์มน้ำมันร่วง” อันเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิต
และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
และจัดทำโครงสร้างราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพื่อให้ราคาซื้อขายจะไม่ผันผวน
ทำให้เกษตรกรได้รับรายได้ที่เป็นธรรม ๖. สินค้าผลไม้ ได้มีแนวทางการบริหารจัดการ
แบ่งเป็น ระยะสั้น เช่น จัดตั้งศูนย์รวบรวม/กระจาย
ระดับพื้นที่เพื่อเร่งกระจายผลผลิต พัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด
ระยะปานกลาง เช่น จัดทำแผนบริหารจัดการ
เพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตกระจุกตัว ส่งเสริมและสนับสนุนการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
ระยะยาว เช่น ส่งเสริมการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ส่งเสริมให้ไทยเป็นแหล่งผลิตตลาดผลไม้เมืองร้อนที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ๗. สินค้าปศุสัตว์ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าปศุสัตว์
เช่น ใช้กลไกกำกับดูแลของคณะกรรมการรายชนิดสัตว์ เช่น สินค้าสุกร
ขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการนโยบายสุกรและผลิตภัณฑ์ สินค้าโคกระบือ ขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการนโยบายพัฒนาโคเนื้อ - กระบือ ประกาศชะลอการนำเข้าหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งโคกระบือหรือซากโคซากกระบือและผลักดันการเปิดตลาดส่งออกโคและกระบือมีชีวิต
รวมทั้งซากโคและซากกระบือ ไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ๘. สินค้ากุ้ง ได้มีมาตรการที่เกี่ยวข้อง เช่น
โครงการลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมกุ้งทะเลอย่างยั่งยืนโครงการส่งเสริมการใช้ระบบ
Solar Cell เพื่อลดต้นทุนการผลิต
กรมประมงได้ดำเนินการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.๑ (แบบผง) และ ปม.๒ (แบบน้ำ)
เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกร เพื่อช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลง
และได้ดำเนินการควบคุมการนำเข้ากุ้งทะเลจากต่างประเทศก่อนอนุญาตให้นำเข้ามาในราชอาณาจักร
ภายใต้พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2225 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 60 ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. .... | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๖o ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคายี่สิบบาท
เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2226 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | สผ. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ สภาผู้แทนราษฎร
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2227 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 4 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ดศ. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ ๔
และการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ ๑ - ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ณ
สาธารณรัฐสิงคโปร์ สรุปได้ ดังนี้ ๑)
การรับรองปฏิญญาสิงคโปร์และการกล่าวถ้อยแถลงข่าวร่วมสำหรับการประชุม ADGMIN ครั้งที่ ๔
และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยได้ปรับเพิ่มถ้อยคำ (เช่น “removal” หรือ “การรื้อถอน” สายเคเบิลใต้น้ำ)/ปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหา (เช่น
การตระหนักถึงความสำคัญของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างประเทศประเภทบริการข้ามแดนอัตโนมัติในอาเซียน/การตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงข่าย
5G ในอาเซียน) ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
โดยยังคงไว้ซึ่งสาระสำคัญตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๓๐ มกราคม ๒๕๖๗)
เห็นชอบไว้แล้ว ๒) ผลการประชุม ADGMIN กับคู่เจรจา
(จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย สหรัฐอเมริกา และ ITU) เช่น
การรับรองแผนการดำเนินการด้านดิจิทัลระหว่างอาเซียนและคู่เจรจา การรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรม/โครงการความร่วมมือ
สำหรับปี ๒๕๖๖ ๓) ผลการหารือทวิภาคี (จีน สิงคโปร์ สปป.ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย) เช่น
หารือเกี่ยวกับการจัดการปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ (สิงคโปร์) หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
เมืองอัจฉริยะ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (จีน)
การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาคลื่นความถี่บริเวณชายแดนและการป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์
(สปป.ลาว) ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2228 | รายงานกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (เรื่อง ความเดือดร้อนจากการดำเนินโครงการเขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนยโสธร-พนมไพร และเขื่อนธาตุน้อย) | กษ. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินการ
กรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน ตามหมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ (เรื่อง
ความเดือดร้อนจากการดำเนินโครงการเขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนยโสธร - พนมไพร
และเขื่อนธาตุน้อย) โดยให้กรมชลประทานและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการประชุมและพิจารณารับรองรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบ
เพื่อเสนอของบประมาณภายในปี ๒๕๖๗ พิจารณาศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคมภายหลังจากการสร้างเขื่อนในลำน้ำชีทั้งระบบ
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในด้านบริหารจัดการน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นไปโดยรวดเร็ว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทานเร่งรัดดำเนินการจ่ายค่าทดแทนให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการฯ
อย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชน
และกรณีให้กรมชลประทานพิจารณาศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคมภายหลังจากการสร้างเขื่อนในลำน้ำชีทั้งระบบ
ควรให้กรมชลประทานเร่งรัดดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานโดยเร่งด่วน
เพื่อดำเนินการคำนวณพื้นที่น้ำท่วมในแต่ละปีของที่ดิน และดำเนินการในส่วนของผู้ยื่นคำร้องใหม่อย่างต่อเนื่อง กระทรวงมหาดไทย เห็นควรเร่งรัดการศึกษาและแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างอาคารและองค์ประกอบเขื่อน
การแก้ปัญหาผลกระทบจากคันกั้นน้ำและโครงการสูบน้ำขนาดใหญ่
และกำหนดมาตรการฟื้นฟูระบบนิเวศ
โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ
เพื่อให้การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นไปอย่างรวดเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2229 | ร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีต้องมีศักยภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัยของวัสดุกัมมันตรังสีที่ขออนุญาต
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2230 | ร่างกฎกระทรวงการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ พ.ศ. .... | อว. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์
ที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาต ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2231 | ขอความเห็นชอบการต่อสัญญาจ้างผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข) | คค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการต่อสัญญาจ้างของนายสุรเชษฐ์
เหล่าพูลสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยต่อไป โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเงินเดือน
๕๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษประจำปีและสิทธิประโยชน์อื่น
ที่ผู้รับจ้างจะได้รับตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบแล้วในข้อ ๔
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไปแต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2232 | ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... | นร.07 | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2233 | ร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet
ลงวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๖ ตามนัยข้อ ๓.๗
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงนามในร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา
๑๑ (๖) และ (๙) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีการแก้ไข ดังนี้ ๑. แก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการนโยบายฯ
ให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน เช่น จากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (รองประธานกรรมการคนที่
๒) เป็น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการการคลัง (รองประธานกรรมการคนที่
๒) ๒. ยกเลิกความในข้อ ๒.๒ ของคำสั่ง นร. ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ ที่ระบุว่า
“กำกับ ดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินโครงการ ให้เป็นไปตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบ”
เป็น “กำกับ ดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินโครงการในภาพรวม
รวมทั้งการกระทำที่เข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ให้เป็นไปตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบ” ๓. ยกเลิกความในวรรคท้ายของคำสั่ง นร. ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖
เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ ที่ระบุว่า
“สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายของคณะกรรมการนโยบายฯ
ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือตามระเบียบทางราชการ
แล้วแต่กรณี โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ส่วนการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายของคณะอนุกรรมการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ
พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือตามระเบียบทางราชการแล้วแต่กรณี
โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง” ๔. เพิ่มความข้อ ๓ ของคำสั่ง นร. ที่ ๒๖๒/๒๕๖๖ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายฯ “๓.
สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายของกรรมการนโยบายฯ และคณะอนุกรรมการ
ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หรือตามระเบียบทางราชการ แล้วแต่กรณี ดังนี้ ๓.๑ คณะกรรมการ
ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ๓.๒
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital wallet และคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๓.๓ คณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2234 | ร่างกฎกระทรวงความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในการขนส่ง พ.ศ. .... | อว. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในการขนส่ง
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไขเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี
ในการขนส่งวัสดุกัมมันตรังสี วัสดุนิวเคลียร์ กากกัมมันตรังสี
เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2235 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ | กห. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ
ระหว่างวันที่ ๔ - ๖ มีนาคม ๒๕๖๗ ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญ เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนว่าด้วยผลสำเร็จของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน
ทั้งนี้ เอกสารมีสาระสำคัญไม่แตกต่างจากฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่
๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ รวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มีการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย
ในประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหาร และ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ
สปป.ลาว
ในประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงของภูมิภาคที่ส่งผลกระทบและจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาร่วมกัน
เช่น ปัญหาหมอกควัน ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2236 | การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... | นร.07 | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้กำหนดจำนวนกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ พ.ศ. .... จำนวน ๓๒ คน
เพื่อให้การร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
พ.ศ. .... แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด โดยกำหนดสัดส่วนของคณะกรรมาธิการฯ
ที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อ จำนวน ๘ ท่าน และคณะกรรมาธิการฯ ในสัดส่วนพรรคการเมือง
จำนวน ๒๔ ท่าน แบ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล จำนวน ๑๖ ท่าน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน
จำนวน ๘ ท่าน ซึ่งจะมีการคัดเลือกตามกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นางมนพร เจริญศรี)
ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณประสานในรายละเอียดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2237 | การปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคล ในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู | ศธ. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รายการเงินอุดหนุนรายบุคคล ในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู
สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
เห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือโอนเงินจัดสรร
หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๒ ในโอกาสแรกก่อน โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า
ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับการอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก
กรณีโรงเรียนเอกชนที่มีนักเรียนไม่เกิน ๒๐๐ คน เป็นเวลา ๔ ปี (เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗
ถึงเดือนกันยายน ๒๕๗๐) เห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการศึกษาจากการที่เคยได้รับความช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็กตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๐ ว่ามีการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
เพื่อให้คณะรัฐมนตรีรับทราบก่อนเสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวอีกครั้ง
นอกจากนี้การกำหนดขนาดโรงเรียน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก
ควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้การจัดกลุ่มขนาดโรงเรียนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นว่าการขอปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู
จะต้องเป็นไปตามแนวทางการปรับอัตราเงินเดือนที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ สำนักงาน กพ. เห็นควรพิจารณาให้สอดคล้องกับทิศทางการบริหารจัดการด้านการศึกษาของประเทศในภาพรวม
เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เห็นว่าอัตราเงินเดือนที่ใช้สำหรับคำนวณเงินอุดหนุนรายบุคคล
ในส่วนของเงินสมทบเงินเดือนครูใช้ฐานเงินเดือนอัตราแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนสามัญ
(๑๖,๕๐๐ บาท และ ๑๘,๑๕๐ บาท ตามลำดับ) ซึ่งต่ำกว่าฐานเงินเดือนอัตราแรกบรรจุของข้าราชการครู
(๑๖,๕๖๐ บาท และ ๑๘,๒๒๐ บาท ตามลำดับ)
และเนื่องจากจำนวนนักเรียนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง กระทรวงศึกษาธิการจึงอาจพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนขนาดเล็ก
โดยคำนึงถึงคุณภาพ ศักยภาพ
ร่วมกับความจำเป็นหรือความสอดคล้องตามแผนที่การบริหารจัดการโรงเรียน (School
Mapping) |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2238 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธนรัช จงสุทธานามณี) | กค. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายธนรัช
จงสุทธานามณี เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2239 | นายกรัฐมนตรีลากิจในวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 | นร. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นางสาวสาวิตรี
ชำนาญกิจ) ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีจะลากิจในวันอังคารที่
๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. เป็นต้นไป
ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดทำหนังสือเวียนแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบแล้ว
ทั้งนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔๑
กำหนดให้การลาทุกประเภทของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2240 | ร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี
วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการโอนใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี
วัสดุนิวเคลียร์ สถานประกอบการทางนิวเคลียร์
และสถานที่ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าการโอนใบอนุญาตควรปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงฯ
อย่างเคร่งครัด หากร่างกฎกระทรวงฯ มีผลบังคับใช้
ซึ่งจะทำให้ผู้รับโอนใบอนุญาตเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการดำเนินการและเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
และจะสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |