คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ
     มีมติดังนี้
     1) เห็นควรให้ความเห็นชอบแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้
ค่าสาธารณูปโภค ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมดังนี้
        (1) ข้อ 2 ของหนังสือสำนักงบประมาณให้แก้ไขจากความว่า"......และ
จัดสรรให้ส่วนราชการนำไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระให้เสร็จสิ้นภายใน
5 ปี....."เป็น".....และจัดสรรให้ส่วนราชการนำไปชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้าง
ชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี " ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอแก้ไข
        (2) ข้อ 4.3 ของหนังสือสำนักงบประมาณ ให้ปรับปรุงเป็นให้"8ค่าสาธารณูปโภค
ในระยะสองเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ (สิงหาคม - กันยายน) ซึ่งส่วนราชการชำระ
หนี้ไม่ทันภายในปีงบประมาณนั้นเนื่องจากยังไม่ได้รับแจ้งให้ชำระหนี้ (Cash Basis)
ทั้งนี้ เพื่อให้สะดวก คล่องตัวในการเบิกจ่าย และไม่ให้เป็นภาระแก่ส่วนราชการที่
จะต้องดำเนินการกันเงินเพื่อนำไปบิกจ่ายเหลื่อมปี
     2) เห็นควรให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังและให้ส่วนราชการ
ที่ยังมีหนี้ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าขนส่ง ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค้างชำระ การปิโตร -
เลียมแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์
บริษัท ขนส่ง จำกัด และองค์การเภสัชกรรม ปฏิบัติตามหนังสือของกระทรวงการคลัง
ที่ กค 0502/26138 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2534 ข้อ 2
     3) เห็นควรอนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการก่อหนี้ผูกพันเงินงบ-
ประมาณ และมาตรการเร่งรัดชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค ซึ่งแจ้งตามหนังสือสำนักเลขา-
ธิการคณะรัฐมนตรี รวม 16 ฉบับ ตามบัญชีท้ายหนังสือกระทรวงการคลัง
ที่ กค 0502/26138 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2534 รวมทั้งให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2533 แจ้งตามหนังสือของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ที่ นร 0202/ว.123 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2533 เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินของ
รัฐวิสาหกิจ เฉพาะข้อ 1 และให้ถือปฏิบัติตามแนวทางและมาตรการที่ปรับปรุงใหม่
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ในข้อ 1 และ 2 ข้างต้น
อนุมัติตามมติ คกก.กลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ

หลักการคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายสังคมและกฎหมายที่อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ
 สถาบันอุดมศึกษาเอกชน (ฉบับที่..) พ.ศ. ...ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัย เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 16 และ 6 ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ 
ต่อไป

อนุมัติร่างพระราชบัญญัติเรือไทย (ฉบับที่..)  พ.ศ. ....  ซึ่ง คณะกรรมการกลั่นกรองฯ
ฝ่ายสังคมและกฎหมายพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และแก้ไข้ใหม่ โดยตัดร่างมาตรา 10 ออก และได้แก้ไขร่างมาตรา 8 เป็นดังนี้ "มาตรา 8"ให้เพิ่มความ
ต่อไปนี้เป็นมาตรา 62 ทวิและมาตรา 62 ตรี ของหมวด 8 บทกำหนดโทษแห่ง พระราช-  
บัญญัติ เรือไทย พุทธศักราช 2481 "มาตรา 62 ทวิ บุคคลธรรมดา    ซึ่งมีสัญชาติไทย
นิติบุคคลซึ่งสามารถถือกรรมสิทธิ์เรือจดทะเบียนเป็นเรือไทยได้ตามมาตรา 7 ทวิ 
หรือ บรรษัทมหาชน จำกัด ซึ่งสามารถถือกรรมสิทธิ์เรือจดทะเบียนเป็นเรืองไทยได้ตาม
มาตรา 7 ทวิ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 7ตรี หรือมาตรา 7 จัตวาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี 
และปรับปรุงไม่เกินห้าแสนบาท"คนต่างด้าวซึ่งให้หรือยอมให้กระทำการฝ่าฝืนตามวรรค-   
หนึ่ง ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้ฝ่าฝืนดังกล่าว  "มาตรา 62 ตรี  ในกรณีที่นิติบุคคลทำ
ความผิดซึ่งต้องรับโทษตามมาตรา 7 ทวิหรือมาตรา 7จัตวา หุ้นส่วนผู้จัดการ  กรรมการ-
ผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิด
นั้น ๆ  ด้วยเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนี้
 "แล้วให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯฝ่ายสังคมและกฎหมาย และให้ส่ง 
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ให้เป็นไป
ตามมติ คณะกรรมการกลั่นกรองฯแล้วเสนอ สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไปได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายสังคมและกฎหมาย
      1. เห็นชอบในมาตรการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงิน
ให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินในหน่วยงานย่อยของส่วนราชการ ตามระเบียบการเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง
ของส่วนราชการ พศ. 2520 รวม 2 ข้อ 
      2. ในโอกาสต่อไป การเสนอมาตรการเกี่ยวกับเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติไม่เป็นตามระเบียบใด ขอให้
สำนักงาน ป.ป.ป. ได้ประสานงานกับส่วนราชการเจ้าของระเบียบนั้นก่อนจะมีมติคณะกรรมการ ป.ป.ป. และ
หากเป็นเรื่องที่มีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบให้ สำนักงาน
ป.ป.ป. แจ้งกำชับให้ส่วนราชการต่าง ๆ ถือปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยไม่จำเป็นต้องเสนอเป็นมาตรการ

อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายเศรษฐกิจให้บริษัทเงินทุนสากล จำกัด
ไม่ต้องปฎิบัติตามคำสัง กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจ
ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ( นายมีชัย ฤชุพันธ์ ) มีข้อสังเกตว่ากระ
ทรวงการคลังควรวางหลักเกณฑ์ทั่วไป เพื่อใช้กับรัฐวิสาหกิจทำนองนี้ และใช้บังคับทั่วไปโดย
ไม่ต้องมาขอยกเว้น เป็นรายๆไป

          เห็นชอบในหลักการมาตราการเร่งด่วน การจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลด้านป่าชายแลน
และปะการังและการจัดวางระบบการติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานตามมัติคณะกรรมการ
กลั่นกรองงานฝ่ายเศรษฐกิจทั้ง 2 ข้อ โดยให้แก้ไขระยะเวลาการเริ่มแผนปฎิบัติการ ฯ เป็นตั้งแต่ปี
งบประมาณ 2535 ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงานเสนอแก้ไขเพิ่มเติม
และให้กรมประมงเสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2535 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายใน
การดำเนินการต่อไป

         เห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ   ที่เห็นควร
ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2522 ในเรื่อง
นโยบายเกี่ยวกับการทำไม้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอ

                เห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายสังคม
และกฎหมายและให้เสนอร่างพระราชบัญญัติไปเพื่อสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติพิจารณาต่อไป เมื่อได้มีการประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้วให้
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการให้ "เครื่องหมายครุฑพ่าห์" และ  เครื่อง   
หมายตราตั้ง" ให้ชัดเจนและให้เผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปทราบด้วย
 เพื่อผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ใช้ให้ถูกต้อง  เหมาะสมและในโอกาสที่สมควร
 เช่น การใช้เครื่องหมายครุฑพ่าห์ เครื่องหมายตราตั้งในเอกสาร และ
เครื่องหมายต่าง ๆ ของบุคคล ห้างร้านหรือบริษัท จะสมควรหรือไม่
เพียงใดและควรใช้ในโอกาสใดเป็นต้น ตามที่ สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ

         อนุมัติ  ตามมติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรที่ให้องค์การตลาด  เพื่อเกษตรกร
ขยายระยะเวลาการส่งคืนเงินยืมค่าใช้จ่ายในการนำเข้าและการจำหน่ายปุ๋ยเคมีที่ได้รับความ
ช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น ตามโครงการเพิ่มผลผลิตอาหารประจำปี 2530/2531 จากวันที่
29 ธันวาคม 2533  ออกไปจนกว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจะตรวจสอบรับรองค่าใช้จ่าย
แล้วเสร็จ โดยไม่เสียเบี้ยปรับ และใช้หนังสือตรวจสอบรับรองค่าใช้จ่ายในการนำเข้าปุ๋ยเคมี
จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหักล้างเงินยืม ในกรณีที่มีเงินค่าใช้จ่ายตามโครงการคงเหลือ 
ให้นำส่งคืนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรก่อน  และให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเร่งดำเนิน   
การตรวจสอบรับรองค่าใช้จ่ายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรใช้เป็น
หลักฐานหักล้างเงินยืม และในกรณีที่มีเงินค่าใช้จ่ายตามโครงการคงเหลือ ก็ให้องค์การตลาด
เพื่อเกษตรกรเร่งนำส่งคืนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรโดยด่วนต่อไป

     อนุมัติหลักการตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทั้ง 2 ข้อ 
และให้กระทรวงคมนาคม  องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและกระทรวงการคลังรับไป-ดำเนินการ
ต่อไป โดยให้กระทรวงคมนาคม และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ รับไปพิจารณาความเป็นไปได้
ในการใช้  GASOHOL  ด้วย  คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่าขณะนี้ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่จะแปรสภาพ
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเพื่อให้ภาคเอกชนเข้ามารับผิดชอบในด้านการให้  บริการขนส่ง
มวลชนแทน ทั้งนี้ เพื่อมิให้เป็นภาระของรัฐบาลในระยะยาว จึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นเจ้าของเรื่องร่วมกับกระทรวงการคลังเสนอความเห็น
ในการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร  เพื่อลดขนาดของกิจการ  โดยการให้สัมปทานแก่เอกชน และ
แปรสภาพกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นขั้นตอน  แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
ภายใน 1 เดือน ตามที่ กระทรวงการคลัง  เสนอ

         อนุมัติ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ  ครั้งที่ 4/2534  เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 
2534   ซึ่งได้พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เรื่อง   แผน
ปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า  ฉบับที่ 7  (พ.ศ. 2535 - 2539)   ตามที่ คณะกรรมการ
นโยบายพลังงานแห่งชาติ เสนอ

          รับทราบโครงการที่พักอาศัยเพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดหลังอาคารสงเคราะห์ยมราช 
โดยใช้งบประมาณดำเนินการ  60  ล้านบาท   ให้การเคหะเจียดจ่ายเงินงบประมาณปี  2534
จำนวน  10%  ของโครงการเพื่อดำเนินการในเบื้องต้นในปีงบประมาณ  2534   สำหรับปีงบ  
ประมาณ 2535  สำนักงบประมาณจะดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้โดยให้การเคหะแห่งชาติ    
ประสานในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณและเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติดำเนินการจัดซื้อ
จัดจ้างโดยวิธีพิเศษ  ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจที่มี
มติอนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ขยายระยะเวลาผูกพันงบประมาณจนถึงปีงบประมาณ 2537 โดยไม่
เพิ่มวงเงินตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมติไว้แล้ว  สำหรับโครงการที่อนุมัติในปี 2533 และอีก 35 โครง
การที่คาดว่าจะให้ทุนสนับสนุนในปี 2534 - 2535 ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลัง
งาน เสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ ปีงบประมาณ 2535 - 2539 ตามที่กรมธนารักษ์
เสนอ อนุมัติให้สำนักงานงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณให้ดำเนินการตามโครงการพัฒนา
ที่ราชพัสดุ ระยะที่ 3 (ปีงบประมาณ 2535 - 2539) ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ 
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ

 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ
รับหลักการร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้มี
ผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ตามมติคณะกรรมการ
ฝ่ายเศรษฐกิจ

เห็นชอบในหลักการของโครงการฯ   ตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย
และอนุมัติให้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายความมั่นคง  และการ
ต่างประเทศ และ อนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายตามโครงการนี้   จากงบกลางรายการ
เงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในวงเงิน 165 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 -
ล้านบาท โดยให้กระทรวงมหาดไทย รับไปจัดทำรายละเอียดแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี 
อนุมัติการใช้จ่ายเงินงบประมาณดังกล่าวต่อไปได้ 

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายมีชัย ฤชุพันธ์) เสนอว่า กรณีที่
คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายต่าง ๆ มีมติ ให้ส่งร่างกฎหมายใดให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดำเนินการ  โดยไม่ตัองรอมติคณะรัฐมนตรี  เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติอย่างไร  ก็จะแจ้งให้สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการต่อไป 

          เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ที่ ศก./ 2534 เรื่อง ยกเลิกการลดและลดอัตราอากรศุลกากร 
ตามที่มติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ

อนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนด และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาตรวจพิจารณา  
เป็นการด่วน โดยให้แก้ไขเป็นพระราชบัญญัติ แล้วเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาโดยกรรมธิการ 
เต็มสภา โดยเห็นว่าการดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการเร่งรัดการ
เคมีภัณฑ์และควบคุมกากเคมีภัณฑ์บริเวณท่าเรือ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน
เสนอ อาจกระทำได้ไม่สมบูรณ์ สมควรดำเนินการโดยการออกกฎหมายบังคับใช้และอนุมัติหลักการให้มี
มาตรการในการขนถ่ายและรับมอบสินค้าอันตราย โดยให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ และให้กระทรวงคมนาคม
ส่งร่างกฎหมายในเรื่องนี้ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขใหม่ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาตรวจพิจารณาเป็น
การด่วน โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมให้มีผลบังคับในอาณาบริเวณของท่าเรือของทั้งรัฐและเอกชนทุกแห่ง รวมทั้งให้
เพิ่มบทกำหนดโทษสำหรับผู้ที่แจ้งข้อเท็จจริงด้วย แล้วให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาโดย
กรรมาธิการเต็มสภา และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 
26 มีนาคม 2534 โดยให้เชิญผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ-
การพลังงาน (สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ) ร่วมพิจารณาด้วย โดยมอบให้กระทรวง
อุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน กระทรวงคมนาคม กระทรวง-
มหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการ โดยให้นำร่างกฎหมายในเรื่องนี้ที่ 
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกากำลังดำเนินการยกร่าง มาประกอบการพิจารณา 

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายความมั่นคงและการต่างประเทศ
ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระ
ราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528   และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพิจารณาต่อ
ไป