รับทราบรายงานผลการสำรวจการทำงานของลูกจ้างเอกชนในสาขาเกษตร พ.ศ. 2533 เรื่อง
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของลูกจ้างเอกชนในสาขาเกษตร พ.ศ. 2533 ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี
เสนอ

          กระทรวงการคลังเสนอว่า กรณีที่ว่ายังไม่เห็นสมควรให้ลูกจ้างประจำสิทธิเลือกรับบำนาญ
นั้นเนื่องจากขณะนี้รัฐบาลมีภาระในการจ่ายเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ ให้แก่ข้าราชการมากอยู่แล้วและ
จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงชั้นที่จะเป็นการหนักแก่การเงินของแผ่นดิน ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณา
หาทางลดภาระด้านนี้อยู่หากจะจ่ายเงินบำนาญให้แก่ลูกจ้างประจำจะเป็นภาระผูกพันที่รัฐจะต้อง
จ่ายเงินประเภทอื่น ๆ อันเป็นต่อเนื่องอีกหลายประการ เช่น เงิสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของลูก
จ้างประจำผู้รับบำนาญและบุคคลในครอบครัว เงินช่วยการศึกษาของบุตร บำเหน็จตกทอดจำนวน 
30 เท่าของเงินบำนาญที่ลูกจ้างประจำได้รับกรณีลูกจ้างประจำผู้รับบำนาญถึงแก่กรรม และหากเกิด
ภาวะค่าครองชีพสูงขึ้นอาจจะพิจารณาให้เงินช่วยค่าครองชีพลูกจ้างประจำผู้รับบำนาญด้วย 
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นว่าไม่ควรให้ลูกจ้างประจำมีสิทธิ
เลือกรับบำนาญ

          นายกรัฐมนตรีเสนอว่าปีงบประมาณ 2534 มีเงินงบประมาณเหลือพอที่จะนำไปใช้จ่าย
ในแผนงานโครงการต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาลประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ขอให้กระทรวง 
ทบวง ต่าง ๆรับไปพิจารณาแผนงานโครงการให้สอดคล้องกับนโยบายหลัก 4 ประการ ได้แก่
การช่วยเหลือเกษตรกรและการพัฒนาชนบทการพัฒนาเมืองและวิสาหกิจพื้นฐาน ทรัพยากร-
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม และโครงการควรมีลักษณะดังนี้ 1)เห็นประโยชน์
ค่อนข้างเร็ว และมีผลกระทบกับสังคมไทยโดยส่วนรวม 2)ไม่ไปกระตุ้นให้ภาวะเศรษฐกิจเป็นไป
ในทางลบ 3)ไม่ได้ช่วยคนในเมืองเท่านั้น ต้องช่วยคนในชนบทด้วย 4)เป็นรูปธรรมที่ประชาชน
ได้รับผลได้เป็นที่น่าพอใจ สำหรับโครงการที่ได้พิจารณาไว้มี 4 โครงการ 1.โครงการจัดน้ำอุปโภค
บริโภค 2.โครงการแก้ไขควันพิษในกรุงเทพมหานคร 3.โครงการที่จะส่งผลประโยชน์สู่ชาวชนบท
ด้านเงินทุนเพื่อการเกษตร 4 โครงการสิ่งแวดล้อมในเมืองใหญ่ เช่นการกำจัดขยะมูลฝอยในภูเก็ต
พัทยา และเชียงใหม่ เป็นต้น คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบให้ดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

  อนุมัติโครงการท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่สอง ณ บริเวณท้องที่
ตำบลบางโฉลง ตำบลราชาเทวะ และตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ   
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งประกอบด้วย 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ฯ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 
 (นายไพจิตร เอื้อทวีกุล) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (พลอากาศเอก สุเทพ 
เทพรักษ์) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มอบหมาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ
ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะ
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเลขาธิการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 
ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้แทนกองทัพอากาศ เป็นกรรมการ โดยมีผู้ว่าการการท่า
อากาศยานแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้แทนกรมการบินพาณิชย์ 
เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการให้คณะกรรมการ ฯ ชุดนี้มีหน้าที่กำกับดูแลโครงการการ
ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่สอง และประสานงานด้านสาธารณูปโภค การระบบขนส่ง
เชื่อมโยงกับสนามบิน การควบคุมปัญหามลภาวะในบริเวณโครงการและพื้นที่โดยรอบ รวมทั้ง
กำหนดรูปแบบของการบริหารงานและการดำเนินงานเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและให้คณะ   
กรรมการ ฯ มีอำนาจตั้งคณะอนุกรรมการ ฯ หรือคณะทำงาน ฯ เพื่อช่วยในการปฏิบัติงานตาม
ความจำเป็นและให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีว่าได้มีการกัน
พื้นที่บริเวณหนองงูเห่าที่จะก่อสร้างท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่สองไปใช้ใน
กิจการอื่นหรือไม่เพียงใด แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบในการประชุมครั้งต่อไป

           รับทราบคำสั่ง นายกรัฐมนตรีที่ 4/2534  เรื่อง กำหนด 
มาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง
และคำสั่ง นายกรัฐมนตรี  เรื่องการมอบหมายให้ รัฐมนตรีประจำ  
สำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติการแทน นายกรัฐมนตรี   เพื่อปฏิบัติ
การตาม พระราชกำหนดแก้ไข และ  ป้องกันภาวะการขาดแคลน
น้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ 
เสนอ 

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความเคลื่อนไหวภาวะราคาขายปลีกสินค้าควบคุมที่สำคัญ
ในตลาดกรุงเทพมหานคร ว่าราคาโดยทั่วไปปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่มีการกักตุนหรือฉวยโอกาศ
ขึ้นราคาสินค้า ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

เห็นชอบร่างพระราชกฤษฏีกาการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร พ.ศ. ....
และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรี 
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2520 ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

กระทรวงการคลัง  เสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรวม 6 มาตรการ
โดยเห็นควรแบ่งการดำเนินการช่วยเหลือตามมาตรการออกเป็น 2 ระยะ คือ 
-มาตรการเฉพาะหน้าและมาตรการระยะยาวและคณะกรรมการกลั่นกรองฯฝ่ายเศรษฐกิจ
ได้ประชุมมีมติและมีข้อสังเกตรวม 3 ประการ คือ 
1.การช่วยเหลือเกษตรกรเป็นนโยบายสำคัญการแก้ปัญหาที่แล้วมาไม่มีการวางแผน
และกำหนดแนวทางเป็นระบบ
 2.การช่วยเหลือเกษตรกร ควรมีการติดตามและประเมินผลฯ 
3.การจัดตั้งกองทุนฯ หรือการช่วยเหลือระบบอื่นควรมีการวางแผน
คณะรัฐมนตรี มีมติ 
1.เห็นชอบในหลักการให้มีการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นระบบฯ
2.อนุมัติมาตรการเฉพาะหน้า โดยให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ผ่อนปรนการชำระหนี้เกษตรกรที่ประสบภัยจากภาวะฝนแล้ง และให้ สำนักงบประมาณ  
ตั้งงบประมาณชดเชยค่าดอกเบี้ยแก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทนฯ
3.ให้จัดตั้งคณะกรรมการวางระบบช่วยเหลือเกษตรกร โดยมีรัฐว่าการกระทรวงพาณิชย์ 
เป็นประธานกรรมการฯ ทั้ง
นี้ให้ คณะกรรมการ วางแผนการใช้เงินฯเสนอ คณะกรรมการกลั่นกรองฯฝ่ายเศรษฐกิจ
โดยรับข้อสังเกตของ คณะกรรมการกลั่นกรอง รวม 3 ข้อพิจารณา

    คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ นรม.รายงานต่อที่ประชุม ครม.  ว่ามีนโยบายที่จะพบปะกับ
กลุ่มบุคคลต่าง ๆ หลายคณะคือการร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชน การพบบุคคลที่เกี่ยวข้อง
กับปัญหาด้านสังคมซึ่งมาจากกรุงเทพและต่างจังหวัดและการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ
ภาวะเศรษฐกิจระดับผู้บริหารธุรกิจภาคเอกชน ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการยกร่างนโยบายรับทราบ

นายกรัฐมนตรี แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าได้ไปเยี่ยมราษฎรที่ประสบภาวะ
แห้งแล้งที่ อำเภอลานสัก และ อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี พบว่ามีปัญหา   
เฉพาะการขาดน้ำอุปโภคบริโภค และ น้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงสำหรับหมู่บ้านใน 
2 อำเภอดังกล่าว ยังไม่มีระบบน้ำประปา  ในขั้นนี้การแก้ไขปัญหาจะต้องมีโอ่ง ตุ่ม 
หรือภาชนะเก็บน้ำฝนให้เพียงพอขอให้กระทรวง ทบวง ที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา
เรื่องน้ำอุปโภคบริโภคในหมู่บ้านห่างไกลให้ทั่วถึงด้วย ควรจัดตั้งคณะทำงาน 
โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายเสนาะ อูนากุล) เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง-
อุตสาหกรรม และ ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงานและมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ- 
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเจ้าของเรื่อง เพื่อพิจารณาจัดทำแผนงานและโครงการ
ทั้งระบบเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี พิจารณาโดยด่วน คณะรัฐมนตรี รับทราบและเห็นชอบ
ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ

ขออนุมัติเงินงบกลาง จำนวน427.5 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย 
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเงินให้ทำความตกลงกับ สำนักงบประมาณ 

กระทรวงมหาดไทย  เสนอรายงานการแก้ไขปัญหาจากสภาวะฝนแล้ง
เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรในฤดูแล้งสรุปได้ว่าขณะนี้มีจังหวัด
ที่ประสบภาวะฝนแล้ง 28 จังหวัด ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค 334,130 ครอบครัว 
ซึ่ง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย  ที่
กระทรวงมหาดไทย จัดรถบรรทุกน้ำ แจกจ่ายน้ำ จัดเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือเกษตรกร  
คณะรัฐมนตรีมีมัติทราบ

กระทรวงมหาดไทยได้เสนอ คณะรัฐมนตรี ทราบเรื่องภาวะฝนแล้ง
ในหลายจังหวัดทำให้เกิดขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค และเกษตรกรรม  
 เกรงว่า งบประมาณที่ได้รับจะไม่พอเพียง จึงขอใช้เงินจำนวน427ล้านบาท ที่   
เหลือจากการช่วยเหลือแรงงานไทยในตะวันออกกลาง   ซึ่งสำนักงบประมาณ
เสนอให้กรมแรงงานส่งเงินจำนวนดังกล่าวคืน เพื่อสำนักงบประมาณจัดไว้เป็น  
เงินงบกลาง นายกรัฐมนตรี ให้นำเสนอ คณะกรรมการกลั่นกรอง พิจารณา  
คณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการตามที่ กระทรวงมหาดไทย  เสนอ สำหรับ
รายละเอียดให้ กระทรวงมหาดไทย นำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองงาน
ฝ่ายความมั่นคงพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสนอว่า เนื่องจากภาวะฝนแล้งทำให้เกิด
อัคคีภัยได้ง่ายและในปัจจุบันเกิดบ่อย ครั้ง สาเหตุเนื่องจากความประมาทหรือเจ้าของ
ที่ดินต้องการไล่ที่ กระทรวงมหาดไทย ได้มีมาตรการ เพื่อป้องกันโดยเคร่งครัด และ-
เห็นว่าควรแก้กฏหมายโดยเพิ่มบทลงโทษผู้รับผิดชอบร่วมด้วย ซึ่ง นายกรัฐมนตรี
มีข้อสังเกตว่า การแก้ไขให้คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนและการใช้อำนาจของรัฐ  
ด้วยคณะรัฐมนตรีมีรับทราบ

         รับทราบรายงานผลการดำเนินการจัดส่งหน่วยแพทย์และสาธารณสุขไปปฏิบัติงาน
ณ ประเทศซาอุดิอาระเบียตามโครงการช่วยเหลือด้านการแพทย์และการสาธารณสุขสำหรับ
คนไทยในประเทศแถบตะวันออกกลางและโครงการร่วมมือทางการแพทย์ระหว่างประเทศไทย
และประเทศซาอุดิอาระเบียในภาวะวิกฤตรับทราบ  ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ  

         กระทรวงศึกษาธิการ.เสนอว่าได้รับการร้องเรียนจากลูกจ้างชาวต่างประเทศเกี่ยวกับ
ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันค่าครองชีพสูง โดยเฉพาะค่าเช่าบ้านเพิ่มสูงขึ้นมา ควรจะมีการปรับ
ค่าเช่าบ้านของลูกจ้างชาวต่างประเทศใหม่  กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นควรอนุมัติ
ปรับอัตราค่าเช่าบ้านลูกจ้างชาวต่างประเทศจากเดิม  5,000 บาท  ให้เป็นเหมาจ่ายเป็น
เดือนละ 8,000บาท   คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง  เสนอ 

กระทรวงมหาดไทย
     เสนอมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอความร่วมมือและดำเนินการ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฝนแล้งตามมาตรการที่คณะกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ดังนี้
     1. ให้หน่วยงานที่ได้ดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำไว้แล้ว แต่ชำรุดเสียหายไม่
สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้ดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ต่อไป เช่น กรณีบ่อน้ำ
บาดาลที่ชำรุด เป็นต้น
     2. ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดหาแหล่งน้ำตามปกติ จากงบประมาณ
แต่ละปีของทางราชการ เร่งรัดการดำเนินการตามแผนงานและโครงการในท้องที่
ที่มีผู้ประสบภัยจากภาวะฝนแล้งก่อน
     3. ท้องที่ใดที่สามารถขุดบ่อน้ำตื้นช่วยเหลือราษฎรโดยมีปริมาณน้ำตาม 
ธรรมชาติพอเพียงก็ให้รีบดำเนินการทันที
     4. การระดมเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำช่วยเหลือไม่ว่าน้ำเพื่อบริโภคใช้สอยหรือ
เพื่อการเกษตรให้จังหวัดระดมจากทุกหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจและเอกชนเข้าไปช่วยเหลือ
และหากหน่วยงานใดมีสำรองไว้ในส่วนกลางก็ดีหรือมีอยู่ในจังหวัดที่ยังไม่เกิดภาวะ
ฝนแล้งก็ดี ให้รีบส่งไปช่วยเหลือจังหวัดที่ประสบภัยอีกทางหนึ่งด้วย
     5. การระดมรถยนต์บรรทุกน้ำเข้าไปแจกจ่ายแก่ราษฎรที่ประสบภัย ในหมู่บ้าน
ตำบล ตามจุดต่าง ๆ ที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ให้
ดำเนินการเช่นเดียวกับกรณีการระดมเครื่องสูบน้ำ
     6. การจัดหาภาชนะรองรับน้ำในกรณีที่จำเป็น เช่น ถังเหล็กอาบสังกะสี
ไว้เป็นส่วนกลาง สำหรับรองรับน้ำจากรถยนต์บรรทุกน้ำวางไว้ในที่ชุมชนของหมู่บ้าน
รวมทั้งการบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายด้วยรถยนต์บรรทุกเล็ก ก็ให้จังหวัดรีบดำเนินการ
เช่นเดียวกัน
     7. กรณีที่จำเป็นไม่สามารถบรรทุกน้ำไปช่วยเหลือทางอื่นได้ ก็ให้
กรมประชาสงเคราะห์ดำเนินการจัดส่งไปช่วยเหลือ ทางรถไฟ
     8. การจัดทำฝนเทียม หากลักษณะภูมิอากาศอำนวยและได้รับการขอร้องจาก
จังหวัดแล้ว ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกองทัพอากาศให้ความร่วมมือ
ช่วยเหลือด้วย
     9. ให้จังหวัดที่ประสบภาวะฝนแล้ง และมีรถยนต์บรรทุกน้ำของทางราชการ
ไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือราษฎรสามารถจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำของเอกชนไปช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยได้ตามความจำเป็น โดยให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากทางราชการได้
     10. การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว ขอให้จังหวัด หน่วยงาน
และรัฐวิสาหกิจได้ให้ความร่วมมือและประสานงานกันโดยใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความ
เดือดร้อนของผู้ประสบภัยให้ได้ ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานในส่วนกลางที่มีหน่วยงานอยู่
ในจังหวัด ได้แจ้งแก่หน่วยงานในสังกัดให้ความร่วมมือกับจังหวัดโดยตรงต่อไปด้วย
     คณะรัฐมนตรี รับทราบ และอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้กระทรวง-
มหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการเจาะบ่อบาดาล
เพื่อการเกษตรและเพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ที่ประสบความแห้งแล้งด้วย

กระทรวงมหาดไทย
     รายงานผลการดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือประชาชนอันเกิดจากสภาวะน้ำมัน
สรุปได้ว่า ได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงในภาวะน้ำมันขึ้นราคา
โดยแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย ดังนี้
     1. ฝ่ายบริหาร ได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงในภาวะน้ำมัน
ขึ้นราคาระดับจังหวัด และอำเภอ รวมทั้งเร่งรัดให้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้อง
ทุกข์ตามสถานที่ชุมชนต่าง ๆ โดยให้จังหวัดเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบาย
ป้องกันการกักตุนสินค้า การผูกขาดและการค้ากำไรเกินควร
     2. ฝ่ายป้องกันและปราบปราม จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการค้า
ภายในออกตรวจสอบร้านค้าในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับในส่วนภูมิภาค ได้จัดเจ้าหน้าที่
ตำรวจร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองและพาณิชย์จังหวัดออกตรวจสอบร้านค้า และสอบสวนข้อ
เท็จจริงและจับกุมผู้กระทำผิดกรณีเรื่องที่ประชาชนมาร้องทุกข์
     3. ฝ่ายการตลาดและจำหน่ายสินค้า ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ที่จำหน่ายสินค้า
อุปโภคบริโภคที่จำเป็นในราคาถูกในเขตกรุงเทพมหานคร ตามแหล่งชุมชนแออัด สำหรับ
ในส่วนภูมิภาคได้ให้ จังหวัดร่วมกับหน่วยงานในส่วนภูมิภาคจัดตลาดนัดหรือจัด
จำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรม
     ปัจจุบันสินค้าอุปโภคบริโภคในเขต กรุงเทพมหานคร มีปริมาณเพียงพอกับความ
ต้องการของผู้บริโภค คณะทำงาน ๆ ฝ่ายการตลาดจึงมีมติให้ยกเลิกการจัดรถเคลื่อนที่
ออกจำหน่ายสินค้าในเขตชุมชนแออัดแล้ว
คณะรัฐมนตรี รับทราบตามที่ กระทรวงมหาดไทย เสนอ

      อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาสำรวจภาวะการทำงานของประชากร พ.ศ. ....
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการตรวจพิจารณา 

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะราคาขายปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค และราคาขายส่ง
สินค้าเกษตรกรรม เขตกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 28 มกราคม 2534 -1 กุมภาพันธ์ 2534 ตามที่
กระทรวงพาณิชย์เสนอ