ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท. | 04/11/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของกระทรวงมหาดไทย มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการเก็บ
ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยตามที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นระยะเวลา ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑๖
พฤศจิกายน ๒๕๖๙ ให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่นที่ไม่สามารถออกข้อกำหนดของท้องถิ่นบังคับใช้ได้ตามกฎกระทรวงดังกล่าว
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี
(นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ) ที่เห็นว่าการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ
ทำให้การปรับอัตราค่าธรรมเนียมต้องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติซึ่งต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมาก
สมควรที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปกำหนดให้มีการบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติที่ตรวจแก้ให้มีการปรับอัตราค่าธรรมเนียมในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติทุกห้าปีตามอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง เพื่อมิให้ต้องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอีกต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย
(กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) รับความเห็นของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายภราดร ปริศนานันทกุล) ที่เห็นว่า
เดิมการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต
หนังสือรับรองการแจ้ง และการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย พ.ศ. ๒๕๕๙
ไม่ได้มีการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยไว้
แต่กฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
พ.ศ. ๒๕๖๗ กำหนดให้มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
(ค่าเก็บและขนมูลฝอย มีขั้นต่ำ ๓๐ บาท ค่ากำจัดมูลฝอย มีขั้นต่ำ ๒๐ บาท)
ซึ่งจะทำให้ประชาชนจำต้องรับภาระในการชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในระหว่างที่มีการขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
พ.ศ. ๒๕๖๗ ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน
๒๕๖๙ เห็นควรให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)
รับไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นและเหมาะสมในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
พ.ศ. ๒๕๖๗ อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย
(กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นควรที่กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือร่วมกันเพื่อพิจารณาวิธีการอื่นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยคำนึงถึงสถานะทางเศรษฐกิจของประชาชนแต่ละท้องถิ่น
ความสามารถในการจัดเก็บรายได้และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ของท้องถิ่นแต่ละแห่ง
เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อกำหนดเพดานอัตราค่าธรรมเนียมให้ต่ำลง
หรือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีดุลพินิจในการออกข้อบังคับท้องถิ่นเพื่อกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามความเหมาะสมกับท้องถิ่นของตน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรกำหนดมาตรการส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งพัฒนาความพร้อมดำเนินการในเรื่องนี้โดยเร็ว
โดยสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยตามหลักวิชาการ
รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยอย่างถูกต้องให้แก่ประชาชน
และสร้างความตระหนักถึงต้นทุนที่แท้จริงในการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยตามหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย
(Polluter Pays Principle :
PPP) ซึ่งเป็นการสร้างความรับผิดชอบของผู้ก่อมลพิษและก่อให้เกิดการจัดการมลพิษอย่างมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
