ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 3 จากข้อมูลทั้งหมด 3 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การขอรับจัดสรรงบเงินอุดหนุนแก่ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue) | กต. | 29/10/2567 | |||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศตั้งคำของบประมาณ
เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบเงินอุดหนุน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและการดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง
ๆ ของศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา
๕ ปี ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ - ๒๕๗๒ ไม่เกินปีละ ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๖๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
โดยเห็นสมควรให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน
ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงาน
ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์อาเซียนฯ
ในช่วงเวลาดังกล่าวให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม
เพื่อประกอบการพิจารณาขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายในระยะถัดไป
สำหรับการกำหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณให้เป็นตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
โดยต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กำหนดตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงาน ก.พ.
เห็นควรให้มีการจัดทำรายละเอียดการใช้จ่ายและกำหนดผลผลิต
และผลลัพธ์ในการดำเนินการที่ชัดเจน และการขอรับจัดสรรงบเงินอุดหนุนแก่ศูนย์อาเซียนฯ
ควรมีความยึดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามบริบท
ความจำเป็นและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี
เพื่อให้การดำเนินการของศูนย์อาเซียนฯ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสอดรับกับวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยื่น ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับข้อสังเกตของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายชูศักดิ์ ศิรินิล) เห็นว่า
แม้การจัดตั้งศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนขึ้นเป็นมูลนิธิจะทำให้ศูนย์อาเซียนฯ
มีสถานะเป็นนิติบุคคลและมีอิสระในการบริหารจัดการตนเองมากยิ่งขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศอาจมีข้อจำกัดในการกำกับดูแลศูนย์อาเซียนฯ
รวมถึงการนำเงินงบประมาณไปสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อาเซียนฯ ที่เปลี่ยนสถานะไปแล้ว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปให้เหมาะสม ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||
2 | ขอความเห็นชอบแผนอัตรากำลังโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567-2570 | อว. | 09/07/2567 | |||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการแผนอัตรากำลังโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๗๐ จำนวน ๑๓๐ อัตรา
สำหรับงบประมาณรองรับแผนอัตรากำลังดังกล่าว ให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังพิจารณาดำเนินการเท่าที่จำเป็นตามภารกิจหลักอย่างประหยัดและคุ้มค่า
และคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงินที่จะนำมาใช้จ่าย โดยเฉพาะรายได้หรือเงินนอกงบประมาณอื่นใดที่สถาบันมีอยู่หรือสามารถนำมาใช้จ่ายได้เป็นลำดับแรก
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐอย่างยั่งยืน
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ก.พ. และข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงาน ก.พ. เห็นควรดำเนินการโดยคำนึงถึงหลักการและแนวทางการบริหารจัดการอัตรากำลังตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
กำหนดไว้ในมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐)
ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการประชุมเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรกำหนดแนวทางการสรรหาผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการจัดบริการดังกล่าวที่เป็นรูปธรรม
เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป |
||||||||||||
3 | ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ | นร. | 27/02/2567 | |||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากกรณีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้มอบหมายให้กรมแผนที่ทหารเข้าไปสำรวจแนวเขตที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้ได้ข้อยุติ
กรมแผนที่ทหารได้ดำเนินการเดินสำรวจแล้วเสร็จเร็วกว่าที่คาดไว้และได้รายงานผลการดำเนินการให้ทราบในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างหน่วยงานในระยะยาว
จึงขอมอบหมายการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือเป็นหลักปฏิบัติและประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
จะไม่มีการนำที่ดินตามแนวเขตกันชนกับป่าหรือพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างหน่วยงานมาใช้แบ่งหรือจัดสรรเป็นที่ดิน
ส.ป.ก. อย่างเคร่งครัด
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้มีการปลูกป่าในพื้นที่ดังกล่าว
เพื่อคงความเป็นป่าธรรมชาติไว้
โดยขอให้ประขาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกและอนุรักษ์พื้นที่ป่าดังกล่าวด้วย
|