ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 11 จากข้อมูลทั้งหมด 11 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ.. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขและเพิ่มเติมข้อความการกำหนดครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย
และแก้ไขเปลี่ยนแปลงการกำหนดสีประจำสาขาวิชาเป็นสีประจำคณะและวิทยาลัยแทน ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | การดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน | อว. | 26/12/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชน ของกระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น (๑) การอุดหนุนค่าสมัคร TCAS รอบ ๓ ปี ๒๕๖๗ ฟรี (๒)
การให้บริการภาพถ่ายจากดาวเทียม THEOS-2 ฟรี (๓) การจัดหลักสูตร
Upskill Reskill ให้แก่ประชาชนใน ๒๑ จังหวัด (๔) การอบรมอาชีพ
DIY ของขวัญปีใหม่ “สวนสวยในขวดแก้ว” (๕) โครงการ “โอเพ่นไทยจีพีที”
Chatbot ปัญญาประดิษฐ์ภาษาไทย ฟรีสำหรับคนไทยทุกคน (๖) การเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศดาวน์โหลดหนังสือ
“เทิด ด้วย ทำ” จัดการน้ำสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้ฟรี (๗) การให้บริการตรวจวัดรังสีที่อาจปนเปื้อนในอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่นฟรี
ในเดือนมกราคม ๒๕๖๗ (๘) การให้ส่วนลดค่าบริการกลุ่มบริการทดสอบและสอบเทียบอุตสาหกรรมร้อยละ
๕-๑๐ และ (๙) การเข้าชมพิพิธภัณฑ์และกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ เช่น การยกเว้นค่าเข้าชมแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
(Space Inspirium) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | สรุปผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 43 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กต. | 07/11/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๔๓ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง โดยมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศ (นายศรัณย์
เจริญสุวรรณ) ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ซึ่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียนฯ เมื่อวันที่ ๕-๗
กันยายน ๒๕๖๖ ในหัวข้อหลัก “อาเซียนเป็นศูนย์กลาง : สรรค์สร้างความเจริญ” โดยผลการประชุมสุดยอดอาเซียนดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำอาเซียนและคู่เจรจาในการขับเคลื่อนความร่วมมือโดยมีอาเซียนเป็นแกนกลาง
ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อหลักของการเป็นประธานอาเซียนของอินโดนีเซีย คือ
"อาเซียนเป็นศูนย์กลาง : สรรค์สร้างความเจริญ" (ASEAN Matters :
Epicentrum of Growth) รวมทั้งได้สนับสนุนประเด็นการเติบโตที่ยั่งยืน
ผ่านการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบหลักนำผลการประชุมสุดยอดอาเซียนฯ
ไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ที่เห็นว่าในประเด็นความประสงค์ของอินเดียในการริเริ่มการหารือด้านการเงินประจำปีอาเซียน-อินเดีย
(ASEAN-India Annual Financial Dialogue) เห็นควรให้สำนักเลขาธิการอาเซียนจัดให้มีการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางของอาเซียนและอินเดียก่อน
และนำผลการหารือรายงานต่อที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน
(ASEAN Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting) ต่อไป และให้ดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ
ที่มีอยู่ในปัจจุบันและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | การสนับสนุนการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ | นร. | 16/10/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้
สรุปว่ารัฐบาลจะไม่ละเลยเรื่องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
สานต่อนโยบาย Carbon Neutrality เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ
และจะใช้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นั้น
เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนดังกล่าว
ผ่านการส่งเสริมการผลิตและการใช้ยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero
Emission Vehicle) ซึ่งกำหนดเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ร้อยละ
๓๐ ของกำลังการผลิตยานยนต์ภายในประเทศภายในปี ๒๕๗๓
จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑.
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) มาใช้ในราชการแทนรถยนต์เดิมที่จะหมดอายุการใช้งานหรือที่จะต้องจัดซื้อจัดจ้างขึ้นใหม่เพื่อรองรับภารกิจใหม่หรือผู้ดำรงตำแหน่งใหม่
รวมทั้งให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงพลังงานสำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่าง
ๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าวให้ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงการคลังพิจารณากำหนดมาตรการและมาตรฐานเพื่อขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนรถสาธารณะทุกชนิด
[เช่น รถโดยสารประจำทาง
รถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) และรถสามล้อ] ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
และดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง
เพื่อให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วต่อไป ๓.
ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ
รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานตามความจำเป็นเร่งด่วนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ๔.
ให้กระทรวงคมนาคมประสานความร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและสงเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาและกำหนดนโยบายและมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปภายในมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
(EV) เช่น
การส่งเสริมให้เกิดตลาดรถยนต์ใช้แล้วสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
การส่งเสริมผู้ประกอบการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า การกำจัดรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งาน (End
of Life Vehicle) และการนำชิ้นส่วนรถยนต์ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)
รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีความเหมาะสมและจูงใจให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ๕.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการทุน
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกพิจารณากำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อส่งเสริมให้เกิดห่วงโซ่อุปทาน
(Supply Chain) ยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศอย่างครบวงจร
โดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนสำคัญ (เช่น แบตเตอรี่ และระบบส่งกำลังด้วยไฟฟ้า)
ภายในประเทศ เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศ
และรองรับการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญของภูมิภาค
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดปัตตานี เป็นพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ พ.ศ. .... | ทส. | 25/07/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดปัตตานี เป็นพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการคุ้มครองพื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดปัตตานี
เป็นพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ เนื้อที่ประมาณ
๑๙,๙๓๗
ไร่ ซึ่งประกอบด้วย ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่า เช่น พันธุ์ไม้ ของป่า และสัตว์ป่านานาชนิด
ตลอดจนทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง เพื่อประโยชน์ในการสงวน การอนุรักษ์
และการฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนให้คงสภาพธรรมชาติและมีสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่มีความสมบูรณ์
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 90 ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... | กค. | 09/05/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๙๐
ปี กรมธนารักษ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อเฉลิมพระเกียรติสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
และเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้แผ่ไพศาลไปทั้งภายในประเทศและนานาประเทศ
และเป็นที่ระลึก
รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจของกรมธนารักษ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงเเบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 28/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงเเบนรีดร้อน
สำหรับงานโครงสร้างเครื่องจักรกลต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน
เนื่องจากมาตรฐานบังคับดังกล่าวใช้มาเกิน ๕ ปีแล้ว
และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอ้างอิง การพัฒนาเทคโนโลยี
การทำและการใช้ภายในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8 | การขอความเห็นชอบโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง | พม. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของแผนงานและงบประมาณโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง
(ระยะเวลาการดำเนินโครงการ ๕ ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ วงเงินทั้งสิ้น ๗,๗๑๘.๙๔
ล้านบาท) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
๒๕๖๖ และปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ [สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)] ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ [สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
(องค์การมหาชน)] รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(ตามหนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร
๑๑๐๕/๖๕๔๐ ลงวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕) เช่น ควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และพื้นที่ดำเนินโครงการที่อยู่ในแผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์
ซึ่งมีรูปแบบเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน
ควรกำหนดสัดส่วนแหล่งเงินทุนดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง
ที่มาจากภาคเอกชนด้วย เพื่อลดภาระทางการคลังของภาครัฐ
และเพื่อให้ภาคเอกชนในฐานะผู้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนามีบทบาทช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ทั้งในรูปของตัวเงินหรือการสนับสนุนอื่น ๆ อาทิ การจ้างงาน การพัฒนาอาชีพ
หรือการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9 | โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ | นร.04 | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
เห็นชอบการดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี ๒๕๖๕ เพื่อปรับปรุงข้อมูลบุคคลผู้มีรายได้น้อยให้ถูกต้อง
ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้การจัดสรรสวัสดิการแห่งรัฐโดยเร็ว
และกระทรวงการคลังสามารถดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อการนี้ได้ทันตามแผนที่กำหนดไว้ในเดือนมีนาคม
๒๕๖๖ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนไว้แล้วให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้งพิจารณาปรับปรุงรูปแบบสวัสดิการแห่งรัฐที่ผู้มีรายได้น้อยพึงได้รับให้เหมาะสม
แล้วให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ทั้งนี้
โดยที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลถือเป็นการกระทำที่มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ดังนั้น
การประกาศรายชื่อหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการแห่งรัฐดังกล่าว
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
โดยให้ผู้ที่ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบข้อมูลการได้รับสิทธิเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเองเท่านั้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น วงเงิน 3,786.55 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จํานวน 32 จังหวัด) ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท | คค. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๓,๗๘๖.๕๕ ล้านบาท ประกอบด้วย กรมทางหลวง จำนวน
๒,๖๕๔.๘๓ ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท จำนวน ๑,๑๓๑.๗๒ ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ
(จำนวน ๓๒ จังหวัด) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
พร้อมทั้งเร่งรัดการดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและกระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นควรมอบหมายให้กรมอุตุนิยมวิทยาและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกันพัฒนาระบบดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติก็อาจลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ได้ตามสมควร
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย) | สพร. | 14/02/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย
เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตีมีมติ
(๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เสนอ
|