คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๕) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขแนบท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ลงวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า “สถานพยาบาล” แก้ไขอัตราค่า COVID-19 Real time PCR รวมทั้งกำหนดเพิ่มบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และค่าใช้จ่ายของสถานพยาบาลที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคดังกล่าว ณ ที่พำนักของผู้ป่วย ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณและข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ควรกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข อัตราที่กำหนด และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานและงบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑) ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ได้รายงานผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน และงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับรองแล้วต่อกรมบัญชีกลางเป็นประจำทุกปี (๒) ผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ กองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ได้บริหารการเงินที่ได้รับจากการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะพันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB206A จำนวน ๘๙,๑๕๘.๗๒ ล้านบาท และผลตอบแทนจากการลงทุน รวม ๔๘๘.๕๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑.๑๘ ต่อปี และมีผลการประเมิน ๔.๙๐๕๗ คะแนน จากคะแนนเต็ม ๕ คะแนน (๓) ฐานะทางการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงานของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ แล้วเห็นว่า งบการเงินและผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย