ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 2 จากข้อมูลทั้งหมด 2 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | มาตราการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์ภายใต้ Flexible Plus Program | กก. | 19/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงาน
และร่างหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ
(Thailand Privilege Card) อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงาน รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้คนต่างด้าวซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงาน รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการลงทุน
เพื่อเข้าร่วมโครงการ Flexible Plus Program ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ควรปรับปรุงข้อกำหนดข้างต้นเป็น
“ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ. 2535” เพื่อให้ร่างหลักเกณฑ์ข้างต้นมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการในเรื่องนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตน
รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อาจพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เอื้อให้เกิดการลงทุนและขยายกิจการที่สร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในระยะยาว
และพิจารณามาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศเพิ่มเติมร่วมด้วย
เนื่องจากกำลังซื้อในตลาดหลักทรัพย์ของไทยส่วนใหญ่มาจากผู้ซื้อภายในประเทศ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรจัดทำกลยุทธ์การตลาด เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย
และแนวทางการบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน
และผลกระทบต่อการช่วยเหลืออสังหาริมทรัพย์ และเศรษฐกิจในภาพรวม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
โดยให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
มาประกอบการพิจารณากำหนดสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องภายใต้มาตรการของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | รายงานผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ประจำปี 2564 | พณ. | 29/06/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบรายงานผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ
มาตรา ๓๐๑ พิเศษ ประจำปี ๒๕๖๔ และรายงานรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้า
(Notorious Markets) ประจำปี ๒๕๖๓ และพิจารณาสั่งการกำชับให้หน่วยงานภาครัฐทุกกระทรวงปฏิบัติตาม
“แนวทางการจัดซื้อจัดจ้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software : ซอฟต์แวร์)
และการใช้งานซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ” สรุปได้ ดังนี้ (๑)
ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้ประกาศสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้าฯ
ประจำปี ๒๕๖๔ โดยไทยยังคงสถานะอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง และรายงาน Notorious
Markets ประจำปี ๒๕๖๓ ยังคงระบุเว็บไซต์ www.shopee.co.th เป็นตลาดออนไลน์ที่มีการละเมิดสูง (๒) สหรัฐฯ
แสดงความพอใจต่อนโยบายและผลการดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทยที่สำคัญ เช่น
การป้องปราม การละเมิดเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์
และการจัดทำแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์และการใช้งานซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์สำหรับหน่วยงานภาครัฐ
(๓) สหรัฐฯ ยังมีข้อกังวลและข้อเสนอแนะบางประการ เช่น
ปัญหางานจดทะเบียนสิทธิบัตรยาค้างสะสม การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์โดยมิชอบ
และการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งในท้องตลาดและตลาดออนไลน์
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงสาธารณสุข
ที่เห็นว่าภาครัฐควรมีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบการจัดหาซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์เนื่องจากบางซอฟต์แวร์สามารถใช้งานร่วมกันได้
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐเกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
ซึ่งจำเป็นต้องมีกลไกทางการตลาดด้านราคา ที่ต้องมีความยืดหยุ่นเป็นราคาที่เหมาะสม
หน่วยงานทั่วไปสามารถเข้าถึงและครอบครองได้ ไม่เป็นภาระด้านงบประมาณ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |