ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 2 จากข้อมูลทั้งหมด 2 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ | กต. | 19/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ
ประจำปี ๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ โดยประเทศนิวซีแลนด์
เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมฯ
ไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป โดยผลการประชุมฯ มีประเด็นที่สำคัญ เช่น
การรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
และการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก การช่วยเหลือ MSMEs และการส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการดำเนินงานควรมีการวางแผนบูรณาการการทำงานร่วมกัน
การวางแผนการจัดการความเสี่ยงหรือวางแผนการลงทุนทางสังคม ควรมีการดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด
19 รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจระยะยาว
และให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักในการประสาน ติดตาม
และประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรายงานผลสัมฤทธิ์ต่อยุทธศาสตร์ชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
2 | ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (วัคซีน) | ดศ. | 08/06/2564 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด
๑๙ (วัคซีน) เพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการติดตาม
ประเมินผลและวางแผนบริหารจัดการวัคซีนให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
ครอบคลุมทุกพื้นที่ และสร้างความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน
และลดความสับสนของข้อมูลข่าวสารการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙
รวมทั้งการกำหนดนโยบาย/มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
โดยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสถิติแห่งชาติไปสัมภาษณ์สมาชิกในครัวเรือนที่มีอายุตั้งแต่ ๑๘ ปี ขึ้นไป ครัวเรือนละ
๑ คน จำนวน ๔๖,๖๐๐ คน ระหว่างวันที่
๑๗-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ สรุปได้ดังนี้ ๑) ประชาชนร้อยละ ๗๕.๒
ต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙ ขณะที่ร้อยละ ๑๙.๓ ไม่ต้องการฉีดวัคซีน ๒)
ประชาชนร้อยละ ๔๕.๓ มีความเชื่อมั่นต่อคุณภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙
ขณะที่ร้อยละ ๕๔.๗ ไม่เชื่อมั่น ๓) ประชาชนร้อยละ ๕๖.๖ ระบุว่าการที่รัฐให้เงินชดเชยเป็นหลักประกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด
๑๙ มีผลต่อการตัดสินใจฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙ ๔) ประชาชนร้อยละ ๘๐.๙
เห็นว่าควรเพิ่มสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙ ๕)
รัฐบาลควรสร้างความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙
และลดความสับสนของข่าวสารการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙ ให้แก่ประชาชน ๖)
หากรัฐจะจัดเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครเพื่ออำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด
๑๙ พบว่า ประชาชนร้อยละ ๔๕.๓ ระบุว่าต้องการ และร้อยละ ๕๔.๗ ระบุว่าไม่ต้องการ ๗)
ประชาชนร้อยละ ๙๐.๕ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ และ ๘)
เรื่องที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
ได้แก่ ค่าครองชีพ ลดภาระค่าสาธารณูปโภค จ่ายเงินชดเชย/เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
การพักชำระหนี้/ลดอัตราดอกเบี้ย และจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด ๑๙ เป็นต้น
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ๒.
ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของสำนักงานสถิติแห่งชาติและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เช่น
ควรประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณภาพของวัคซีนและผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน
ควรตรวจสอบและสกัดกั้นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือบิดเบือนจากความเป็นจริงอย่างรวดเร็ว
ควรมีหน่วยงานเพียงหน่วยงานเดียวเป็นผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร
และชี้แจงถึงขั้นตอนการเข้าถึงวัคซีนที่ชัดเจน ควรกำหนดมาตรฐานของวัคซีนทางเลือกเพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบประชาชนเกินควร
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|