ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 6 จากข้อมูลทั้งหมด 6 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ ภาคผนวก 5 ว่าด้วยกฎข้อบังคับสำหรับการป้องกันมลพิษจากขยะบนเรือ (MARPOL Annex V) | คค. | 25/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 51 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | นร.07 | 19/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณพ.ศ.
๒๕๖๑ มาตรา ๕๑ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ในระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓-๓๐
กันยายน ๒๕๖๔ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้รายงานต่อรัฐสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับอัตราภาษีที่ใช้ในการจัดเก็บอัตราภาษียาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนโครงสร้างและอัตราภาษียาสูบทั้งในระยะปานกลางและระยะยาวเพื่อนำไปสู่โครงสร้างแบบอัตราเดียวในอนาคตที่เหมาะสม
เป็นธรรม และคำนึงถึงการแข่งขันในตลาด รวมทั้งการดูแลสุขภาพของประชาชน
ตลอดจนกำหนดมาตรการควบคุมการลักลอบนำเข้าบุหรี่โดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ๓.
ให้การยาสูบแห่งประเทศไทยรับผิดชอบดูแลเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบ
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เพื่อให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบเปลี่ยนมาปลูกพืชทดแทนเพื่อลดพื้นที่การเพาะปลูกยาสูบ ๔. ให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างองค์ความรู้
หรือสนับสนุนทางวิชาการให้กับเกษตรกรในการปลูกพืชทดแทนเพื่อลดพื้นที่การเพาะปลูกยาสูบ ๕.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวรวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
ตลอดจนการกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือการปรับเปลี่ยนอาชีพทางเลือกหรือปลูกพืชทดแทนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๖.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | ผลการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ | สผ. | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาญัตติด่วน
เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19)
ระลอกใหม่ ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
กรมควบคุมโรคได้กำหนดขั้นตอนการขออนุญาตดำเนินการการจัดตั้งสถานกักกันในรูปแบบองค์กร
(Organizational
Quarantine : OQ) วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกักกันผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
ทั้งที่มีสัญชาติไทย หรือไม่มีสัญชาติ ซึ่งเป็นบุคคล
หรือกลุ่มบุคคลเฉพาะที่เป็นสมาชิกขององค์กรที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจขององค์กร
เช่น ทำงานตามสัญญาว่าจ้างและมีเอกสารจ้างงาน กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา
การฝึกทางการทหาร หากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการ Lockdown ควรกำหนดหลักเกณฑ์และเหตุผลในการ
Lockdown โดยคำนึงถึงความสมดุลในการกักกันโรคกับเศรษฐกิจ ถ้า
Lockdown เป็นเวลานานเกินไปจะส่งผลให้เกิดความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ
ถ้า Lockdown เป็นเวลาน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถกักกันโรคได้
แรงงานต่างชาติจะมีส่วนเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยหลังจากโควิด ๑๙ อย่างไรก็ตาม
การพึ่งพิงแรงงานข้ามชาติมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจชะลอการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลางต่อไป
เป็นต้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | การเร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) | นร. | 11/05/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๓
กำหนดให้การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เป็นวาระแห่งชาติ
เพื่อให้การบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ไปแล้ว นั้น
เพื่อให้การดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเกิดผลเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ในปัจจุบัน
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักเร่งบูรณาการการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน
กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อให้การจัดหา
การกระจาย และการฉีดวัคซีน เป็นไปอย่างรวดเร็ว เหมาะสม ทั่วถึง
ตามลำดับความจำเป็นเร่งด่วน โดยให้ร่วมกันรณรงค์สร้างการรับรู้
ความเข้าใจที่ถูกต้อง
และความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด
เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต รวมทั้งให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ
ซึ่งจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาและยุติการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ได้โดยเร็วอันจะเป็นผลให้สามารถดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เข้าสู่ภาวะปกติได้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | การขอขยายระยะเวลาโครงการพัฒนากำลังคนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) จาก พ.ศ. 2552 – 2564 เป็น พ.ศ. 2552 – 2570 | อว. | 16/03/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการพัฒนากำลังคนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
(ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) จากเดิม พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๖๔ เป็น
พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๗๐ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานดังกล่าว เห็นควรให้ใช้จ่ายภายในกรอบวงเงิน
๖,๔๑๒,๒๕๐,๐๐๐ บาท ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เดิม ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้วบางส่วน
และยังมีกรอบวงเงินคงเหลืออยู่ โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ
และข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรเพิ่มสาขาสังคมศาสตร์ สาขาจิตวิทยา และสาขาการจัดสวัสดิการสังคมในโครงการฯ
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากำลังคนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ที่มีคุณภาพ
เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
และจัดทำรายงานผลการดำเนินการประจำปีเกี่ยวกับการจัดสรรทุนของโครงการฯ ให้สำนักงาน
ก.พ. ทราบ เพื่อประเมินผลทั้งในมิติด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมพิจารณากำหนดแนวทางการจัดสรรทุนการศึกษาตามโครงการฯ ในแต่ละสาขาวิชาให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม
สอดคล้องกับความต้องการกำลังคนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในอนาคต
รวมทั้งดำเนินการประชาสัมพันธ์ทุนการศึกษาต่าง ๆ ของโครงการฯ และสร้างแรงจูงใจให้ผู้สมัครรับทุนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้รับทราบอย่างทั่วถึงด้วย
|