ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 3 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 20 จากข้อมูลทั้งหมด 56 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สรุปผลการพิจารณามาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ | รง. | 24/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์ป่าชายเลน เพื่อให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกะลาเส และป่าคลองไม้ตาย ท้องที่ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาตามภารกิจของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย | อว. | 24/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | ร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 17/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยกำหนดให้ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงผลิตน้ำประปาและโรงผลิตน้ำประปา
รวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นที่ใช้ประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับการผลิตน้ำประปา
ได้รับลดภาษีในอัตราร้อยละ ๕๐ ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย
และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.) ที่ต้องเริ่มดำเนินการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.
๒๕๖๘ อันจะทำให้ อปท.
สามารถจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำประปาให้แก่กิจการผลิตน้ำประปาซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ
ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้อง ครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | ข้อเสนอแนะและความก้าวหน้าการดำเนินการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศตามผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ครั้งที่ 1/2567 | นร.11 สศช | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบความก้าวหน้าการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยและข้อเสนอแนะในการพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ
ตามผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗ พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าวและรายงานให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทราบ
เพื่อนำเสนอคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศตามขั้นตอนต่อไป
และมอบหมายกระทรวงคมนาคมจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามมติคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศเสนอ ให้คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นควรให้จัดหมวดหมู่คอนเทนเนอร์ให้สามารถขนสินค้าและลำเลียงได้ในรถไฟขบวนเดียวกัน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | มาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 | ทส. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า
หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี ๒๕๖๘ พร้อมกลไกการบริหารจัดการ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานต่อไป
และรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ
และผลการประชุม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าในช่วงวิกฤตสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก
(PM2.5) กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญ โดยสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินงานแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
(PM2.5) ของภาคคมนาคมอย่างเคร่งครัดและติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
(PM2.5) ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ขอให้การขับเคลื่อนปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมาภิบาลโดยเคร่งครัดต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ 18 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 11 | กห. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน
ครั้งที่ ๑๘ (ADMM ครั้งที่
๑๘) และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ ๑๑
(ADMM - Plus ครั้งที่ ๑๑) จำนวน ๕ ฉบับ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่
๒๐ - ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้รับรองและให้ความเห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ได้แก่ ร่างเอกสารที่จะต้องรับรอง จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ (๑)
ร่างปฏิญญาร่วมเวียงจันทน์ของการประชุม ADMM ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อให้อาเซียนเกิดสันติสุข
ความมั่นคง และความเข้มแข็งของภูมิภาค (๒) ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุม ADMM
- Plus ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่น
ๆ (๓) ร่างระเบียบการปฏิบัติสำหรับประเทศผู้สังเกตการณ์ในกิจกรรมของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในกรอบการประชุม
ADMM-Plus และร่างเอกสารที่จะต้องอนุมัติ จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่
(๑) ร่างเอกสารยุทธศาสตร์เพื่อการเตรียมความพร้อมในอนาคตของการประชุม ADMM และการประชุม ADMM - Plus (๒) ร่างเอกสารการจัดการฝึกผสมทางทะเลระหว่างอาเซียน
- สหรัฐฯ ครั้งที่ ๒ โดยร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
เป็นการแสดงเจตนารมณ์เชิงนโยบายด้านความมั่นคงในการกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนและระหว่างกระทรวงกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาให้ครอบคลุมในทุกมิติในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ
รวมทั้งเป็นการพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมให้อาเซียนสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามด้านความมั่นคงของภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานความเป็นแกนกลางของอาเซียน
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว และให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรวิเคราะห์ พิจารณา และติดตามการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องตามแนวทางดังกล่าว
รวมทั้งสื่อสารเพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วน
มีความเข้าใจและทราบถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
โดยพิจารณาใช้ช่องทางการสื่อสารอย่างเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7 | การลงนามข้อตกลงอาร์เทมิส (Artemis Accords) ระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศไทย | อว. | 29/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบข้อตกลงอาร์เทมิส (Artemis Accords) ระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศไทย
และมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) เป็นหน่วยงานปฏิบัติ
(Implementor) และหน่วยงานหลักแห่งชาติ (National
Focal Point) ของประเทศไทยในการดำเนินการใด ๆ ในข้อตกลงฯ
และกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่อง และให้ สทอภ. พิจารณากลั่นกรองโครงการของหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานที่จะดำเนินการในโครงการอาร์เทมิส
(Artemis Program) ในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนา ส่งเสริม
สนับสนุน ค้นคว้า วิจัย และดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง
เสนอคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ พิจารณาก่อนการดำเนินการต่อไป โดยข้อตกลงฯ
มีสาระสำคัญเพื่อสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันผ่านชุดหลักการ แนวปฏิบัติ
และแนวทางปฏิบัติ เพื่อยกระดับการกำกับดูแลการสำรวจและการใช้อวกาศโดยพลเรือนด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโปรแกรมอาร์เทมิส
แนวปฏิบัติในการดำเนินกิจกรรมในอวกาศ
และส่งเสริมการใช้อวกาศอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์สำหรับมวลมนุษยชาติ และนำไปใช้กับกิจกรรมด้านอวกาศของพลเรือนที่ดำเนินการโดยองค์กรอวกาศพลเรือนของรัฐผู้ลงนาม
(องค์กรอวกาศพลเรือนของรัฐของประเทศไทย คือ สทอภ.) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม
(Full Powers) ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนข้อตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม [สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)] และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เห็นควรให้
สทอภ. ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการฯ เพื่อส่งเสริมการใช้อวกาศอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ (1. ศาสตราจารย์พงษ์เทพ สันติกุล ฯลฯ จำนวน 8 คน) | พม. | 22/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ
จำนวน ๘ ราย เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑. ศาสตราจารย์พงษ์เทพ
สันติกุล ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดสวัสดิการสังคม ๒. นายชินชัย ชี้เจริญ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดสวัสดิการสังคม ๓. นางสาววิจิตา รชตะนันทิกุล ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดสวัสดิการสังคม ๔. นายสมชัย จิตสุชน ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดสวัสดิการสังคม ๕. นายถาวร สกุลพาณิชย์ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านสุขภาพอนามัย ๖. ศาสตราจารย์สมพงษ์ จิตระดับ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ๗. นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 664/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 1054/2566 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 309 คน ผู้ฟ้องคดี กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร | อส. | 15/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้องคณะรัฐมนตรี
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ในคดีหมายเลขดำที่ อ. ๖๖๔/๒๕๕๘ ระหว่าง
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ ๑ กับพวกรวม ๓๐๙ คน ผู้ฟ้องคดี
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ ๑ กับพวกรวม ๕ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อ.
๑๐๕๔/๒๕๖๖ และคดีถึงที่สุดแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10 | ขอทบทวนหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 | มท. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน
ปี ๒๕๖๗ และให้ใช้แทนหลักเกณฑ์เดิมที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ ๑๗
กันยายน ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ
เห็นควรเร่งดำเนินการตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยอย่างชัดเจน
ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี
และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11 | การปรับเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคแอฟริกาและที่ดูแลประเทศในภูมิภาคแอฟริกา | กต. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติปรับเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคแอฟริกาและที่ดูแลประเทศในภูมิภาคแอฟริกา
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน
๒๕๒๖ (เรื่อง การขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตไปประจำประเทศแอลจีเรีย)
โดยปรับให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ มีเขตอาณาครอบคลุมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรีย
แทนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ๒. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๔๙
(เรื่อง ความคืบหน้าของการเปิดสำนักงานในต่างประเทศ) โดยปรับให้สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงมาปูโต สาธารณรัฐโมซัมบิก มีเขตอาณาครอบคลุมสาธารณรัฐมาลาวี
สาธารณรัฐแซมเบีย และสาธารณรัฐแองโกลา แทนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย
สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ๓. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การปรับและกำหนดเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตและกำหนดเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ในต่างประเทศ)
โดยปรับให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย
มีเขตอาณาครอบคลุมสาธารณรัฐไนเจอร์ แทนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ สาธารณรัฐเซเนกัล
และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ มีเขตอาณาครอบคลุมรัฐลิเบีย
แทนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12 | รัฐบาลสาธารณรัฐมาลีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมาลีประจำประเทศไทย (พลจัตวา เฟลิกซ์ ดีอาโล) | กต. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พลจัตวา เฟลิกซ์ ดีอาโล (Brigadier General Felix Diallo) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมาลีประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย สืบแทน นางกีเซ มาอีมูนา ดีอาล (Mrs.
Guisse Maimouna Dial) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (1. นายอัครุตม์ สนธยานนท์ ฯลฯ รวม 7 คน) | กค. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์
รวม ๗ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายอัครุตม์ สนธยานนท์ ประธานกรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒. นายชุมพล สุวรรณกิจบริหาร กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๓. นายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการ ๔. นายธะเรศ โปษยานนท์ กรรมการ ๕. นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ ๖. นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ กรรมการ ๗. นายดรุฒ คำวิชิตธนาภา กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14 | ร่างเอกสารถ้อยแถลงในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านปัญญาประดิษฐ์ [ASEAN Ministerial Meeting on Science, Technology and Innovation (AMMSTI) Statement on Artificial Intelligence (AI)] | อว. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พลเอก ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี) | กห. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พลเอก ไตรศักดิ์
อินทรรัสมี เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ตุลาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวิเชียร สุขสร้อย) | วธ. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายขจร ศรีชวโนทัย ฯลฯ จำนวน 25 ราย) | มท. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒๕ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายขจร ศรีชวโนทัย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง)
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสันติธร ยิ้มละมัย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง)
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง
ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๔.นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
(ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายอดิเทพ กมลเวชช์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง
ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมการปกครอง ๗. นายภาสกร บุญญลักษม์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง)
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๘. นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมโยธาธิการและผังเมือง ๙. นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง)
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ๑๐. นายอังกูร ศีลาเทวากูล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง)
จังหวัดกระบี่ ๑๑. นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดฉะเชิงเทรา ๑๒. นายชรินทร์ ทองสุข ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดเชียงราย ๑๓. นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด
(นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนนทบุรี ๑๔. นายสมคิด จันทมฤก ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดปทุมธานี ๑๕. นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดปราจีนบุรี ๑๖.นายทวี เสริมภักดีกุล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิษณุโลก ๑๗. นายศรัณยู มีทองคำ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดเพชรบูรณ์ ๑๘. นายชุติเดช มีจันทร์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดลำปาง ๑๙. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดสงขลา ๒๐. นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง
ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสงคราม ๒๑. นายนริศ นิรามัยวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดสมุทรสาคร ๒๒. นายพิริยะ ฉันทดิลก ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดสุพรรณบุรี ๒๓. นายชำนาญ ชื่นตา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดสุรินทร์ ๒๔. นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง)
จังหวัดอุดรธานี ๒๕. ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง
ระดับสูง) จังหวัดอุบลราชธานี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18 | ขอความเห็นชอบเพื่อลงนามเอกสารข้อตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาการเกษตรว่าด้วยการจัดตั้งสำนักงาน IFAD ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง | กษ. | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (1. นายชยุต ภุมมะกาญจนะ ฯลฯ จำนวน 7 ราย) | นร.04 | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๗ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชยุต ภุมมะกาญจนะ ๒. นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ๓. นายศุภชัย ใจสมุทร ๔. นายวรวงศ์ รามางกูร ๕. นายพงศกร อรรณนพพร ๖. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ๗. นายสิรภพ ดวงสอดศรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายฉัตรชัย บางชวด) | นร.08 | 08/10/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายฉัตรชัย บางชวด ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|