ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 11 จากข้อมูลทั้งหมด 11 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสิน | กค. | 01/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
(Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสิน
พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และรับทราบโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยปี ๒๕๖๗ ภายใต้โครงการ PGS
๑๑ ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้กระทรวงการคลัง สถาบันการเงิน
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรรับทราบการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ
SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี
๒๕๖๗ ภายใต้โครงการ PGS ๑๑ ของ บสย. ให้ผู้ประกอบการ SMEs
และผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อกับสถาบันการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ บสย. ควรบริหารจัดการโครงการ PGS ๑๑
โดยไม่กระทบกรอบวงเงินการขอรับชดเชยจากรัฐบาลและเงื่อนไขอื่น ๆ ภายใต้โครงการ PGS
๑๑ ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | การปรับปรุงคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สำนักงานอัยการสูงสุด) | อส. | 03/10/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ของสำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๒๐,๕๕๒,๐๐๓,๖๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายชยาวุธ จันทร ฯลฯ รวม 36 ราย) | มท | 14/07/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | โครงการปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา และเพชรบุรี ปี 2558 | มท | 16/06/2558 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ดำเนินโครงการปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาพระนครศรีอยุธยา และเพชรบุรี ปี ๒๕๕๘ วงเงินลงทุนรวม ๒,๙๙๗.๖๓๙ ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ กปภ. กู้เงินภายในประเทศ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน รวมทั้งให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป โดยให้ กปภ. ใช้เงินรายได้ชำระคืนการกู้เงินดังกล่าว ๒. ให้ กปภ. ไปหารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ดำเนินการทั้งหมดว่าอยู่ในเขตพื้นที่ที่ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ และกิจกรรมที่ดำเนินการเข้าข่ายห้ามกระทำการตามข้อ ๑๐ ในประกาศดังกล่าวหรือไม่ ก่อนดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กปภ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการพร้อมจัดทำแผนรองรับปัญหาขาดแคลนน้ำดิบ ภัยพิบัติ การลดอัตราน้ำสูญเสีย และการบริหารจัดการแรงดันน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของ กปภ. และจัดทำแผนการตลาดในการเพิ่มผู้ใช้น้ำรายใหม่ให้เป็นไปตามเป้าหมายและควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการผลิตและบริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงด้านแหล่งน้ำดิบเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำดิบและน้ำประปา รวมทั้งจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อลดอัตราน้ำสูญเสียขององค์กร โดยแสดงรายละเอียด เป้าหมาย ตัวชี้วัด วงเงินลงทุน และผลลัพธ์เป็นรายปี เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาโครงการปรับปรุงขยายการประปาที่จะเสนอใหม่ต่อไป ตลอดจนประสานงานระหว่างส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับส่วนกลาง อาทิ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และหน่วยงานผู้ปฏิบัติในพื้นที่เพื่อบูรณาการเรื่องการใช้ประโยชน์แหล่งน้ำในพื้นที่มาเป็นแหล่งต้นทุนน้ำดิบในกระบวนการให้เป็นไปด้วยความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน นอกจากนี้ เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาดำเนินการด้วยความโปร่งใส พร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ และให้มีการพิจารณาการจ้าง ดำเนินการโดยแรงงานท้องถิ่นในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | ขอโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 07/08/2555 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จากแผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ โครงการชำระหนี้เงินกู้เพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) งบรายจ่ายอื่น รายการค่าชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน ๔๗๐.๗๖๔๘ ล้านบาท และค่าดอกเบี้ยเงินกู้ จำนวน ๓๑.๘๗๕๓ ล้านบาท ไปตั้งจ่ายแผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป รายการชดเชยเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) จำนวน ๕๐๒.๖๔๐๑ ล้านบาท เพื่อแทนการกู้เงินจำนวนดังกล่าว และเป็นการประหยัดเงินงบประมาณแผ่นดินในส่วนของค่าดอกเบี้ยการกู้เงินที่รัฐบาลต้องรับภาระ รวมทั้งการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าวยังคงอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้เพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ทั้งนี้ ให้ ขสมก. ทำความตกลงรายละเอียดงบประมาณกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ ขสมก. เตรียมดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินงานได้ทันทีเมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชนและบรรเทาปัญหาฐานะการเงินของ ขสมก. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกและการจัดตั้งสถาบันพลาสติก | อก | 16/11/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแปร รูปผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในภูมิภาคอาเซียน และสนับสนุนการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ต่าง ๆ ของไทยอย่างยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยมีแผนงานโครงการเร่งด่วน ระยะ ๕ ปี (ปี พ.ศ. ๒๕๕๕- ๒๕๕๙) งบดำเนินโครงการรวม ๗๒๐ ล้านบาท และการจัดตั้งสถาบันพลาสติก ในรูปแบบองค์กรอิสระ ภายใต้ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกไทย ตามที่กระทรวงอุตสาห กรรมเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ เกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายตัวชี้วัดในระดับโครงการที่ชัดเจน การบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะหน่วยงานที่อาจมีแผนงาน/โครงการในลักษณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิด ความซ้ำซ้อนในการดำเนินการ และการใช้งบประมาณ การเพิ่มบทบาทหน้าที่ของสถาบันพลาสติกให้ครอบคลุม อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ และให้มีแผน/มาตรการรองรับกรณีที่สถาบันฯ อาจมีรายได้จากแหล่งอื่นไม่เป็นไป ตามเป้าหมายเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานของสถาบันฯ ในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาแนวทางการจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันพลาสติก เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7 | ขออนุมัติให้ข้าราชการไปทำการซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ | กห | 23/11/2525 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ นางวัฒนา ศิวรักษ์ อ.2 ระดับ 6 วิทยาเขตพระนครใต้วิทยาลัยเทคโนโลยี
และอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ และนางนิตรา กิตติพีรชล นิติการ 5 กรมป่าไม้ ไปปฏิบัติหน้าที่ รับรองทางการทูตร่วมกับสามี ณ ต่างประเทศเป็นกรณีพิเศษตามกระทรวงกลาโหม และกระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอและให้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติให้ข้าราชการสตรีไปปฏิบัติหน้าที่ รับรอง ทางการทูตร่วมกับสามี ณ ต่างประเทศ ซึ่ง คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2525 ให้ถือว่า เป็นการไปทำการใดๆ ตามนัยมาตรา 3 แห่ง พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการ ไปทำการซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ ว่าจะพิจารณาอนุมัติย้อนหลังให้เฉพาะรายที่ เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ก่อนวันที่ 22 มิถุนายน 2525 เท่านั้น ตามที่ กระทรวงกลาโหมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8 | ร่างพระราชบัญญัติเหรียญที่ระลึกสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเหรียญที่ระลึกสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. .... | กค | 08/09/2524 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติเหรียญที่ระลึกสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. ....
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว และให้เสนอ สภาผู้แทนราษฎรต่อไป สำหรับร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเหรียญที่ระลึก สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. .... ให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อร่างพระราชบัญญัติเหรียญที่ระลึกสมโภช ฯ ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9 | โครงการความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และวิชาการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนจะขอจากประเทศไทย | นร | 31/10/2521 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และวิชาการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
จะขอจากประเทศไทย โดยสนับสนุนให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางวิทยาศาสตร์ และวิชาการแก่สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ภายในหลักเกณท์กรมวิเทศสหการเสนอ เฉพาะในส่วนที่กรมวิเทศสหการรับผิดชอบไปก่อน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10 | การก่อสร้างทางสามแยกเพชรเกษม-กาญจนบุรี ตอนเพชรเกษม-อำเภอท่าเรือ | 29/12/2519 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการก่อสร้างทางสายแยกเพชรเกษม
- กาญจนบุรี ตอนแยกเพชรเกษม - อำเภอท่าเรือ โดยอนุมัติหลักการให้กรมทางหลวงดำเนินการประกวดราคา ก่อสร้างทางสามแยกเพชรเกษม - กาญจนบุรี ตอนแยกเพชรเกษม - อำเภอท่าเรือในปีงบประมาณ 2520 ได้ และเมื่อประกวดราคาแล้วได้ผลประการใด จึงเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณอีก ครั้งหนึ่ง ส่วนเงินที่จะต้องใช้ในปีงบประมาณ 2520 นี้ เห็นควรอนุมัติให้โอนเงินงบประมาณจากทางสาย อินทร์บุรี - เขาทราย เป็นเงิน 25,000,000 บาท มาดำเนินงานได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11 | การแก้ไขปัญหาสุกร | 28/10/2518 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2518 โดยให้ใช้ข้อความ
ต่อไปนี้แทนจากเดิมเป็นเห็นชอบด้วยตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เว้นแต่ ให้คงใช้มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2511 ต่อไปก่อน และให้คณะกรรมการตลาดกรุงเทพมหานครมีหน้าที่รับผิดชอบในการ ที่จะพิจารณาร่วมกับกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรกลุ่มโรงงานฆ่าสุกร และกลุ่มลูกเขียง เพื่อพิจารณาหาวิธีที่จะไม่เดือดร้อน แก่ทุกฝ่ายโดยให้ยึดถือหลัก 3 ประการ โดยให้รับข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย สำหรับปัญหาเกี่ยวกับการที่จะส่งสุกรไปจำหน่าย ยังต่างประเทศ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเจ้าของเรื่อง ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาห -กรรมร่วมกันพิจารณาวางแผนดำเนินงานต่อไป |