ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 12 จากทั้งหมด 23 หน้า แสดงรายการที่ 221 - 240 จากข้อมูลทั้งหมด 443 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
221 | การปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เรียนและเพิ่มศักยภาพสถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน | ศธ. | 26/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
222 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | สว. | 26/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
223 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอนุกูล ปีดแก้ว) | พม. | 26/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายอนุกูล ปีดแก้ว ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
224 | โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | ยธ. | 26/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑
โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน ๑๖
ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
งบเงินอุดหนุนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ๑.๒ ให้เลขาธิการ ป.ป.ส.
มีอำนาจอนุมัติโครงการ แผนงาน และกิจกรรมภายใต้กรอบงบประมาณ งบเงินอุดหนุน
รายการโครงการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และสามารถจ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศเพื่อให้มีการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
ตามที่ได้รับจัดสรร ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า (๑)
การสนับสนุนงบประมาณให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านควรมุ่งเน้นไปที่การควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์จำเป็นในการผลิตยาเสพติดที่มีการนำเข้าไปยังแหล่งผลิตต่าง
ๆ รวมถึงการตรวจสอบต้นทางว่ามาจากแหล่งและวิธีการใด (๒) พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ยาเสพติดในภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงไป
อันมีผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
และสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านด้วย และ (๓)
พิจารณากำหนดตัวชี้วัดของโครงการฯ
ที่จะสามารถสะท้อนผลสำเร็จของการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
เพื่อความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
225 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 19/2565 | นร.11 สศช | 18/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
226 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา
และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิชารัฐศาสตร์
และสาขาวิชาเทคโนโลยี ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
227 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ) | ศธ. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
228 | ผลการเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 | กต. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
229 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2565 | กค. | 12/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
230 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฏกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. 2553) | มท. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อปรับปรุงข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม
(สีเขียว) สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อกิจการอื่นในพื้นที่บางบริเวณ
ให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มขึ้น จาก ไม่เกินร้อยละ ๕ เป็น ไม่เกินร้อยละ ๑๐
ของที่ดินประเภทนี้ในแต่ละบริเวณ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดินในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
231 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคม แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid Scam | ดศ. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
ว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call
Center และ Hybrid Scam (Memorandum of Understanding
between the Ministry of Digital Economy and Society of the Kingdom of Thailand
and the Ministry of Post and Telecommunications of the Kingdom of Cambodia on
Cooperation for Suppressing Call Center Gang and Hybrid Scam) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ (จะมีการลงนามในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕) โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกรอบความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามแก๊ง Call
Center และ Hybrid Scam โดยกำหนดกิจกรรมความร่วมมือในเรื่องต่าง
ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญเชิงเทคนิค
และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid
Scam การแต่งตั้งผู้ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบหาหลักฐานในประเทศไทยและกัมพูชา
และการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
กระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทที่จะมุ่งก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จึงไม่ใช่สนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเห็นควรเร่งดำเนินการพัฒนาทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
(Digital Literacy) รวมทั้งการรู้เท่าทันภัยที่มากับสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน
เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมอันเกิดจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและระดับประเทศ
และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทุกภาคส่วนในการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล
ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
232 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การส่งเสริมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจากพลังงานทางเลือกของคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา | สว. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การส่งเสริมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจากพลังงานทางเลือก
ของคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงพลังงานได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยเห็นชอบกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว และมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า (๑) ด้านนโยบาย เช่น การกำหนดพื้นที่เป้าหมาย (Zoning) สำหรับปลูกไม้โตเร็ว
ได้มีการกำหนดกลุ่มพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่นาดอน ๑๘.๕ ล้านไร่
และพื้นที่ปลูกยางพารา ๖.๑ ล้านไร่ ที่ไม่เหมาะสมและให้ผลผลิตต่ำ
เป็นพื้นที่ให้เกษตรกรปลูกไม้โตเร็วแล้ว (๒) ด้านกฎ ระเบียบ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การกำหนดเกี่ยวกับสมาชิกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
ควรใช้เกณฑ์ของพื้นที่ที่มีศักยภาพของวัตถุดิบที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก
ปัจจุบันไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์ของพื้นที่ที่มีศักยภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก
แต่จะพิจารณาความพร้อมในการดำเนินโครงการ
โดยมุ่งเน้นผลประโยชน์ที่เศรษฐกิจฐานรากจะได้รับ
สำหรับการพิจารณาโรงไฟฟ้าเดิมที่มีความประสงค์ให้มีสิทธิ์ขอเปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้น
กระทรวงพลังงานจะได้คำนึงถึงการพิจารณาเรื่องสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเดิมกับคู่สัญญาและเงื่อนไขตามที่ระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าฯ
กำหนด (๓) ด้านการดูแลและการขับเคลื่อน เช่น การพิจารณาคัดเลือกสายพันธุ์ไม้โตเร็ว
สำหรับให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อให้ได้รับผลผลิตและประสิทธิภาพสูงสุด
กรมป่าไม้ได้เข้าร่วมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นในการพิจารณาคัดเลือกสายพันธุ์ไม้โตเร็วที่มีคุณภาพสำหรับให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อให้ได้รับผลผลิตและประสิทธิภาพสูงสุด
(๔) ด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เช่น การคัดเลือกเทคโนโลยีระบบผลิตไฟฟ้า
ควรให้ความสำคัญในการบริหารจัดการ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน
กระทรวงพลังงานได้พิจารณาความพร้อมด้านเทคโนโลยีหรือมาตรการในการบริหารจัดการร่วมกับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน
สำหรับโรงไฟฟ้าที่จะเข้าร่วมโครงการนี้จะต้องมีการแบ่งปันผลประโยชน์ให้ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า
เพื่อเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข
ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา และ (๕) ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่อหลักการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ
ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน
๒๕๖๓ เช่น
ควรส่งเสริมสนับสนุนให้มีการรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า
อันเป็นการลดการกำจัดเศษวัสดุดังกล่าวโดยการเผาไหม้ ได้มีการระบุไว้ในแผนการจัดหาเชื้อเพลิง
โดยมีสัญญารับซื้อในรูปแบบเกษตรพันธสัญญา (Contract farming) ซึ่งพืชพลังงานที่จะนำมาใช้ต้องมาจากวิสาหกิจชุมชนหรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนหรือเกษตรกรบริเวณใกล้เคียงอย่างน้อยร้อยละ
๘๐ และในส่วนร้อยละ ๒๐ ผู้ประกอบการสามารถรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ของเกษตรกรจากเกษตรกรมาเป็นเชื้อเพลิงได้
ทั้งนี้
จะได้มีการส่งเสริมให้นำวัสดุชีวมวลเหลือทิ้งทางการเกษตรเพื่อเป็นเชื้อเพลิงเข้าสู่โรงไฟฟ้าชุมชน
นอกเหนือจากการใช้ไม้โตเร็ว เพื่อหมุนเวียนและรองรับการขาดแคลนเชื้อเพลิง
และได้คำนึงถึงต้นทุนค่าขนส่งด้วย ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
233 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศภายหลังการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | รง. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา
และเวียดนาม
เพื่อรองรับการฟื้นฟูประเทศภายหลังการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒.
อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม ๗ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ (ฉบับที่ ..) ๒.๒ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๓ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๓
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๔ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ซึ่งใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๕ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘
กันยายน ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๒.๖ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๒.๗ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๓.
เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน รวม ๘ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓.๑ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๒ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๓
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๓ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา
ซึ่งใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๔ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘
กันยายน ๒๕๖๔ (ฉบับที่ ..) ๓.๕ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ .... ๓.๖ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ซึ่งได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
.... ๓.๗ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การกำหนดเงื่อนไขการทำงานกับนายจ้างรายใหม่ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว
และเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ภายใต้บันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ ๓.๘ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
การยกเว้นหน้าที่การแจ้งข้อมูลการเข้าทำงานของคนต่างด้าวตามมาตรา ๖๔/๒ ๔.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับปรุงระบบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวให้ตอบสนองต่อความจำเป็นของตลาดแรงงานได้อย่างรวดเร็วและมีความโปร่งใสในกระบวนการจัดหาแรงงาน
รวมทั้งจัดทำแผนการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวและมาตรการลดแรงจูงใจในการทำผิดกฎหมายที่เป็นรูปธรรม
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๕.
ให้กระทรวงแรงงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
234 | โครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2565 | พณ. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติการดำเนินโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี ๒๕๖๕
ทั้งนี้ ในการดำเนินการโครงการฯ
จะพิจารณาสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสำหรับการส่งออกเฉพาะน้ำมันปาล์มดิบ
เมื่อระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า ๓๐๐,๐๐๐ ตัน
และราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก ๑.๒
อนุมัติวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อดำเนินโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี ๒๕๖๕
รวมทั้งสิ้น ๓๐๙ ล้านบาท ๑.๓
เห็นชอบหลักเกณฑ์การขอรับการสนับสนุนค่าบริหารจัดการการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ
ตามโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี ๒๕๖๕ ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ
เช่น ควรมีการติดตาม กำกับดูแลคุณภาพของสินค้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
ควรมอบหมายให้กรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานการตรวจสอบปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือภายในประเทศ
เพื่อประกอบการพิจารณาในการผลักดันการส่งออกให้มีความสัมพันธ์ในแต่ละห้วงเวลา
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการเพื่อควบคุมราคาน้ำมันปาล์มสำหรับการบริโภคให้มีความเหมาะสมและส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด |
||||||||||||||||||||||||||||||
235 | องค์กรร่วมไทย-มาเลเซียขอความเห็นชอบการผนวกสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17 & C-19 และพื้นที่ว่าง (แปลง B-17-02) เข้ากับสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 โดยการออกสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 | พน. | 05/07/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การผนวกสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17 & C-19 และพื้นที่ว่าง
(แปลง B-17-02) เข้ากับสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01
โดยการออกสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓)
ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 ๑.๒ การเปลี่ยนแปลงอัตราการหักค่าใช้จ่าย
จากเดิมสูงสุดไม่เกินร้อยละ ๕๐ หรือ ๖๐ เป็นสูงสุดไม่เกินร้อยละ ๗๕
สำหรับค่าใช้จ่ายของน้ำมันดิบ (Cost Oil) และก๊าซธรรมชาติ (Cost Gas) ในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๓) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 ๑.๓ ร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓)
ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01 ระหว่างองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (องค์กรร่วมฯ) กับบริษัทผู้ได้รับสัญญา
ได้แก่ บริษัท PETRONAS Carigali (JDA) Sdn. Bhd. (PC JDA) และบริษัท
ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ปตท.สผ. อินเตอร์) ๑.๔ ให้องค์กรร่วมฯ
โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารองค์กรร่วมฯ เป็นผู้ลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ ๓) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง B-17-01
กับบริษัทผู้ได้รับสัญญา
และให้รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารองค์กรร่วมฯ ลงนามในฐานะพยาน ๒.
ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมเกี่ยวกับการสำรวจและการจัดหาก๊าซธรรมชาติ
ควรมีการคำนึงถึงผลกระทบด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
236 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางวารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์) | สธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานเวชศาสตร์
ภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
237 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | กห. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ ๑๖ (16th ASEAN Defence Ministers’
Meeting : 16th ADMM) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๕ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีกระทรวงกลาโหมราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
และฝ่ายไทย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
เป็นหัวหน้าคณะและผู้รับรองร่างเอกสารผลลัพธ์จำนวน ๘ ฉบับ ซึ่งผลการประชุมฯ
มีความคืบหน้าของความร่วมมือในกรอบการประชุม ADMM
ที่เป็นประเด็นคาบเกี่ยวระหว่างเสาและสาขาความร่วมมือของประชาคมอาเซียน
รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศคู่เจรจา
ที่ส่วนราชการสมควรรับทราบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือของอาเซียนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
238 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหารศึกษาในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ | สธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติแต่งตั้ง
รองศาสตราจารย์สิรี ชัยเสรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านอาหารศึกษา) ในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระเนื่องจากถึงแก่กรรม ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มิถุนายน
๒๕๖๕) เป็นต้นไป โดยผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ซึ่งตนแทน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
239 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานคดีประจำศาลยุติธรรม) | ศย. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(การกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานคดีประจำศาลยุติธรรม)
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอำนาจหน้าที่ คุณสมบัติ และวิธีการคัดเลือกเจ้าพนักงานคดี
และแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติของผู้สมัครทดสอบความรู้เพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการ
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน
ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าการกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานคดีประจำศาลยุติธรรมเป็นการกำหนดกรอบอัตรากำลังของตำแหน่งดังกล่าว
เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสอดคล้องของภาระงานและภาระงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคตของศาลอย่างแท้จริง
และเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗
และจัดทำแผนกรอบอัตรากำลังของตำแหน่งดังกล่าวเท่าที่จำเป็น
โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามภารกิจงาน รายได้
เงินนอกงบประมาณและเงินอื่นใดที่ศาลยุติธรรมมีอยู่ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
240 | ผลการสรรหากรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์) | สขค | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
จำนวน ๑ คน ได้แก่ นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์
ตามที่คณะกรรมการการสรรหาได้คัดเลือกไว้แล้ว
แทนรองประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|