ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 5 จากทั้งหมด 8 หน้า แสดงรายการที่ 81 - 100 จากข้อมูลทั้งหมด 146 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
81 | ขอความเห็นชอบแผนอัตรากำลังโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567-2570 | อว. | 09/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการแผนอัตรากำลังโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๗๐ จำนวน ๑๓๐ อัตรา
สำหรับงบประมาณรองรับแผนอัตรากำลังดังกล่าว ให้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังพิจารณาดำเนินการเท่าที่จำเป็นตามภารกิจหลักอย่างประหยัดและคุ้มค่า
และคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงินที่จะนำมาใช้จ่าย โดยเฉพาะรายได้หรือเงินนอกงบประมาณอื่นใดที่สถาบันมีอยู่หรือสามารถนำมาใช้จ่ายได้เป็นลำดับแรก
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐอย่างยั่งยืน
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ก.พ. และข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อเสนอแนะของสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงาน ก.พ. เห็นควรดำเนินการโดยคำนึงถึงหลักการและแนวทางการบริหารจัดการอัตรากำลังตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
กำหนดไว้ในมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐)
ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการประชุมเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรกำหนดแนวทางการสรรหาผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการจัดบริการดังกล่าวที่เป็นรูปธรรม
เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
82 | โครงการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2572 | กษ. | 02/07/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประมูลสิทธิ์จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดนครราชสีมา
พ.ศ. ๒๕๗๒ อนุมัติองค์ประกอบของคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดนครราชสีมา
พ.ศ. ๒๕๗๒ ตามที่เสนอ และเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณารายละเอียดเอกสารสัญญา ให้มีความรอบคอบ รัดกุม
และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์
เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าการดำเนินการใด ๆ
ในเขตพื้นที่ป่า ขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
83 | รายงานผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | ปช. | 25/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
(Integrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ๒.
เห็นชอบข้อเสนอแนะระดับนโยบายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องนำไปประกอบการพิจารณาขับเคลื่อนและยกระดับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐในปีต่อไป
รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและข้อเสนอแนะของสำนักงาน
ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าการประเมิน ITA ควรแยกส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานที่ให้บริการกับหน่วยงานนโยบายออกจากกัน
และปรับข้อคำถามในตัวชี้วัดให้แตกต่างกันตามภารกิจ
การเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างตามแบบวัด OIT ควรมีการยืดหยุ่นให้ใช้ระบบการรายงานของหน่วยงานแทนได้
และควรเพิ่มเกณฑ์การประเมินที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ที่เป็นประจักษ์ ชัดเจน โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะต้องได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติควรพิจารณากำหนดเกณฑ์การประเมิน
ITA ให้สอดคล้องกับลักษณะงานหรือภารกิจของแต่ละหน่วยงาน
รวมทั้งควรสื่อสารสร้างความเข้าใจและชี้แจงเกณฑ์การประเมิน ITA ก่อนเริ่มปีงบประมาณ
เพื่อให้หน่วยงานสามารถวางแผนการดำเป็นการและจัดทำแผนปฏิบัติราชการที่จะนำไปขับเคลื่อนภายในหน่วยงานได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
84 | การปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยไปศึกษาต่อ ณ สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น | ศธ. | 25/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย
(นักเรียนทุน จ.ภ.) ระยะที่ ๒
โดยผู้รับทุนจะเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานใช้ทุนหรือหน่วยงานของรัฐที่ผู้ให้ทุนกำหนด
และรับเงินเดือนตามที่หน่วยงานนั้น ๆ
กำหนดเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุนตามสัญญา โดย “หน่วยงานชดใช้ทุน”
ให้หมายความรวมถึงภาคอุตสาหกรรม สถาบันไทยโคเซ็นและหน่วยงานของรัฐ “ภาคอุตสาหกรรม”
ให้หมายความถึงภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ
และกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคตในประเทศไทย โดยไม่จำกัดภูมิภาคในประเทศไทยและไม่จำกัดสัญชาติของบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
และ “หน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร” ให้หมายความถึง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
องค์การมหาชน หน่วยธุรการขององค์การของรัฐที่เป็นอิสระ กองทุนที่เป็นนิติบุคคล
หน่วยบริการรูปแบบพิเศษ และหน่วยงานที่มีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นหน่วยงานของรัฐ ๒ เห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุน
จ.ภ. ระยะที่ ๑
โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขการปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุน
จ.ภ. ระยะที่ ๒ ตามข้อ ๑
เนื่องจากเป็นการให้ทุนการศึกษาในลักษณะเดียวกันกับการดำเนินงานโครงการทุนการศึกษาต่อสำหรับนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยไปศึกษาต่อ
ณ สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ให้กระทรงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงาน ก.พ. รวมทั้งข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น สำนักงาน ก.พ. เห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่
๒๒ กันยายน ๒๕๖๓ ที่ให้กำหนดสัดส่วนของนักเรียนทุน จ.ภ. ที่จะชดใช้ทุนในสถานที่ปฏิบัติงานต่าง
ๆ (หน่วยงานภาครัฐ กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของเอกชนในประเทศไทย
และสถาบันไทยโคเซ็น) ให้เหมาะสม และให้ความสำคัญกับหน่วยงานภาครัฐและโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยเป็นลำดับแรก
สำหรับการปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนในส่วนของการปฏิบัติงานหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุน
จ.ภ. ระยะที่ ๑ ให้เป็นเงื่อนไขเดียวกับนักเรียนทุน จ.ภ. ระยะที่ ๒
ควรกำหนดเงื่อนไขทุนเป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้ผู้รับทุนได้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรมีการวางแผนโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภาพรวมให้มีความชัดเจน
โดยพิจารณาจัดทำฐานข้อมูลเพื่อติดตามและประเมินความก้าวหน้าทางอาชีพของนักเรียนทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศ
เพื่อนำมาวัดประสิทธิผลของการจัดสรรทุนรัฐบาลในกลุ่มประเภทแหล่งทุนต่าง ๆ
และการออกแบบแนวทางการพิจารณาจัดสรรทุนโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ในภาพรวมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
85 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปี 2567 และกลไกการบริหารจัดการ | นร.12 | 25/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ ๑.๑
รับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ ของสำนักงาน
ก.พ.ร.
โดยจังหวัดเป้าหมายที่สามารถกำหนดให้มีการประเมินตัวชี้วัดค่าเฉลี่ยรายปีของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน
๒.๕ ไมครอน (PM2.5) ตามตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกัน
(Joint KPIs) ประเด็นที่ ๕ การลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5
ได้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวนทั้งสิ้น ๓๙ จังหวัด
และจังหวัดเป้าหมายที่ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะนำมากำหนดเป็นค่าเป้าหมาย
เนื่องจากมีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในระหว่างปี
หรือยังไม่มีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ
ซึ่งจะนำมากำหนดให้มีการประเมินตัวชี้วัดในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน ๑๕ จังหวัด ๑.๒
เห็นชอบข้อเสนอแนะโดยมอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษดำเนินการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่มเติม
สำหรับจังหวัดที่ยังไม่มีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดค่าเป้าหมายสำหรับใช้ประเมินในปีถัดไป ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงาน ก.พ.ร
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งการและสนับสนุนงบประมาณ
เครื่องมือ และบุคลากรสำหรับการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่อย่างเต็มขีดความสามารถ
ควรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗
ควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มกลไกการบริหารจัดการเชิงรุก
รวมทั้งกำหนดหน่วยงานหลักและหน่วยงานสนับสนุนอย่างชัดเจน เพื่อการบูรณาการทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศได้ในระยะยาว
และควรคำนึงถึงสถานที่ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
86 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุนิวเคลียร์ที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้ พ.ศ. .... | อว. | 25/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทวัสดุนิวเคลียร์ที่บุคคลธรรมดาขอรับใบอนุญาตได้
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุนิวเคลียร์
ที่บุคคลธรรมดาสามารถขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ นำเข้า ส่งออก
หรือนำผ่านซึ่งวัสดุนิวเคลียร์นั้นได้ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
87 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสมุทรปราการและศาลแรงงานจังหวัดระยอง พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ศย. | 25/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสมุทรปราการและศาลแรงงานจังหวัดระยอง
พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีการจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดขึ้นในท้องที่ของศาลแรงงานภาค
(ภาค ๑ และภาค ๒) และจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดขึ้นในจังหวัดสมุทรปราการ
โดยให้มีเขตอำนาจตลอดท้องที่ในจังหวัดสมุทรปราการและจัดตั้งศาลแรงงานขึ้นในจังหวัดระยอง
โดยให้มีเขตอำนาจตลอดท้องที่ในจังหวัดระยอง ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสภาทนายความ
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เห็นว่าในกรณีการจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดระยองจะสามารถขยายเขตอำนาจศาลให้ครอบคลุมถึงคดีที่เกิดพิพาทในเขตจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราดได้หรือไม่
เพื่อประชาชนจะได้สะดวกในการรับบริการด้านความยุติธรรมมากยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสมุทรปราการและศาลแรงงานจังหวัดระยอง
พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ๓.
ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงยุติธรรม
เห็นว่าการจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดขึ้นใหม่จะต้องมีอาคารสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการ
อีกทั้งยังต้องมีการจัดสรรอัตรากำลังของบุคลากรเพื่อปฏิบัติงาน
จึงควรคำนึงถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนที่จะได้รับประกอบด้วย สำนักงาน
ก.พ.ร. เห็นว่าศาลยุติธรรมควรพิจารณาเกลี่ยอัตรากำลังที่ปฏิบัติงานในศาลแรงงานภาค
ศาลแรงงานสาขาหรือศาลยุติธรรมอื่นก่อนเป็นลำดับแรก และควรพิจารณานำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการพิจารณาพิพากษาคดีและการบริหารจัดการคดีของศาลแรงงาน
พร้อมทั้งสื่อสารและประชาสัมพันธ์ช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทราบด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
88 | รายงานการพัฒนาระบบราชการ ประจำปี 2565 | นร.10 | 18/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพัฒนาระบบราชการประจำปี ๒๕๖๕ เพื่อเสนอผลการพัฒนาระบบราชการในภาพรวมของหน่วยงานภาครัฐ
ทั้งส่วนราชการจังหวัด และองค์การมหาชน
รวมทั้งภาคเอกชนและภาคประชาสังคมที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ
พร้อมทั้งมีข้อเสนอการดำเนินการต่อไปเพื่อยกระดับและขับเคลื่อนการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
รองรับต่อการพัฒนาระบบราชการในระยะต่อไป ตามที่ ก.พ.ร. เสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
89 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีการทำสัญญาเช่าอาคารที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ และบ้านพักกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ | กต. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๗๒ เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ ณ
เมืองเสียมราฐ และบ้านพักกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ รวมทั้งสิ้น ๒ รายการ
วงเงินรวมทั้งสิ้น ๓๒,๗๕๐,๕๐๐ บาท
หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
ตามนัยมาตรา ๔๒ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๒,๑๘๓,๔๐๐ บาท ให้กระทรวงการต่างประเทศใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้แล้ว
ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
90 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายวุฒิรักษ์ เดชะพงษ์พันธุ์) | นร.04 | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวุฒิรักษ์ เดชะพงษ์พันธุ์ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจักรพงษ์ แสงมณี) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
91 | ข้อเสนอแนะแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในการบริหารจัดการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต | ศธ. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาข้อเสนอแนะแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในการบริหารจัดการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต
ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาข้อเสนอแนะดังกล่าวในภาพรวมแล้ว
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
สรุปได้ ดังนี้ ๑. ระบบการบริหารจัดการและการคัดเลือกนักเรียนทุน ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
(สป.ศธ.) ดำเนินการ เช่น
กำหนดแนวทางหรือรูปแบบการประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตของกองทุนฯ
ในแต่ละกระบวนงาน และกำหนดแนวทางในการควบคุม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีการจัดทำรายงานการประเมินความเสี่ยง
การควบคุมภายใน และขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ เพื่อป้องกันการทุจริต
รวมทั้งมีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานเป็นข้อมูลสาธารณะ ๒.
ระบบการบริหารเงินกองทุนและการเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ ให้ สป.ศธ. ดำเนินการ เช่น
ซักซ้อมความเข้าใจให้กับเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารเงินและเบิกจ่ายเงินกองทุนฯ
เพื่อเน้นย้ำวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ และแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่ง สป.ศธ.
ได้แจ้งเวียนหลักเกณฑ์ และแนวทางการบริหารเงินกองทุนฯ แก่เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องตามคู่มือและแนวทางการดำเนินงานของกองทุนฯ
ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๖
พร้อมทั้งจัดทำปฏิทินและระยะเวลาการเบิกจ่าย/โอนเงินที่ระบุผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนโดยละเอียด ๓.
ระบบการติดตามและประเมินผลและการรายงานผลการดำเนินการเงินกองทุนฯ ให้
สป.ศธ.ดำเนินการ เช่น จัดทำข้อมูลข้อเท็จจริง
และประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อออนไลน์ เว็บไซต์
เพื่อให้ภาคประชาชนรับทราบการดำเนินงานของกองทุนฯ และมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลและเฝ้าระวังการทุจริต
ซึ่ง สป.ศธ. ได้วางแผนการจัดทำระบบฐานข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับทุน รายงานผลการดำเนินการประจำปี
รายงานการเงิน ยอดเงินคงเหลือ ปฏิทินการดำเนินการ
การติดตามผลสัมฤทธิ์ของผู้ได้รับทุน
รวมทั้งเพิ่มช่องทางการติดตามและรายงานผลผ่านระบบออนไลน์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
92 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | กค. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ รวม ๒ ราย ตามลำดับ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ๒. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
93 | การกำหนดให้การไหว้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทการทักทายและการแสดงความเคารพแบบไทย | นร.01 | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดให้การไหว้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ
ประเภทการทักทายและการแสดงความเคารพแบบไทย ตามมติคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ
เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
กระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานราชบัณฑิตยสภาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เห็นควรพิจารณาการจำแนกลักษณะการไหว้ประเภทต่าง ๆ ความหมาย
และการปฏิบัติให้ชัดเจนเพื่อให้เห็นความแตกต่างจากการไหว้ที่ปฏิบัติกันในประเทศต่าง
ๆ ที่มีการแสดงความเคารพโดยการไหว้แบบเดียวกัน
อันจะทำให้เกิดความชัดเจนในรูปแบบการไหว้ของไทย
และไม่ก่อให้เกิดปัญหาต้านวัฒนธรรมการไหว้กับประเทศต่าง ๆ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา เห็นว่า
เนื่องจากการไหว้เป็นวัฒนธรรมร่วมในภูมิภาค จึงควรประกาศโดยแสดงความเป็นอัตลักษณ์ของการไหว้แบบไทยอย่างชัดเจน |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
94 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (1. นายกุลิศ สมบัติศิริ ฯลฯ รวม 6 คน) | ดศ. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่
ตามความในมาตรา ๑๓ (๑) และ (๓)
แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) พ.ศ.๒๕๖๖
ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ รวม ๖ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการ ๒. นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านวิทยาการข้อมูล) ๓. นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ๔. นายณปกรณ์ ธนสุวรรณเกษม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านเศรษฐศาสตร์) ๕. นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการตลาด) ๖. นายศักดา นาคเลื่อน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหาร)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
95 | การขับเคลื่อนการดำเนินการสำคัญสืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2566 | นร.11 สศช | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๖
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอ ดังนี้ ๑.
การทบทวนความจำเป็นและความเหมาะสมของสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ
และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ๒. โครงการเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ๓.
การปรับเปลี่ยนหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๔.
กลไกการดำเนินการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๕. แนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในห้วงที่ ๒
(พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) ๖.
แนวทางการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ๗.
การประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ
พ.ศ. ๒๕๖๐ ทั้งนี้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงาน
ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ
และการสร้างความสามัคคีปรองดองไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น กระทรวงการคลัง
เห็นว่าในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ควรพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎ
ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และให้คำนึงถึงความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณด้วย กระทรวงมหาดไทย
เห็นว่าโครงการที่ผ่านการจัดลำดับความสำคัญฯ ควรเป็นโครงการที่ควรได้รับงบประมาณเพิ่มเติมจากกรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่ได้รับเพื่อให้ส่วนราชการมุ่งจัดทำโครงการที่สามารถขับเคลื่อนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
96 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมให้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
สามารถดำเนินการธุรกิจและนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ในรูปแบบต่าง
ๆ ได้เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๓. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ
เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ให้สามารถจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งนิติบุคคล
ควรคำนึงถึงผลการดำเนินงานที่ไม่ควรก่อให้เกิดภาระงบประมาณที่เพิ่มขึ้นแก่รัฐ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
97 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เรื่อง มาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน | ศธ. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง
มาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีผลการดำเนินการ เช่น ๑) การกำชับให้หน่วยงานในสังกัดเคร่งครัดในการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ๒) การยกเลิกการเปิดโอกาสให้สถานศึกษาในสังกัดกำหนดหลักเกณฑ์การรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน
๓) การประกาศรายชื่อนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ๔)
การสุ่มตรวจการดำเนินการรับนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดทั่วประเทศ และ ๕) การจัดทำแนวทางการดำเนินงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาและให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานนำไปปฏิบัติ
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
98 | รัฐบาลราชอาณาจักรเดนมาร์กเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย (นายแดนนี แอนนัน) | กต. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายแดนนี แอนนัน (Mr. Danny Annan) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายยอน ทัวร์กอร์ด (Mr. Jon
Thorgaard) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
99 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการบินพลเรือน (1. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ ฯลฯ จำนวน 7 คน) | คค. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการบินพลเรือน
จำนวน ๗ คนเนื่องจากกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. นายชัยศักดิ์
อังค์สุวรรณ (มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบินพลเรือน) ๒. นายชัยวัฒน์
ทองคำคูณ (มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบินพลเรือน) ๓. นายโชติชัย เจริญงาม ๔. นางชาริตา ลีลายุทธ (มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบินพลเรือน) ๕. นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ๖. พลตำรวจตรี อุกฤษฏ์
ศรีเสือขาม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
100 | การเสนอศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks: AHP) | กห. | 11/06/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเสนอศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู)
เฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา มหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ
ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN
Heritage Parks : AHP) ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าในกรณีที่มีการปรับแก้ไข
(ร่าง) เอกสารการขอขึ้นทะเบียนดังกล่าว
ขอให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องพิจารณาให้มีความสอดคล้องกับนโยบายและผลประโยชน์ของประเทศไทย
สามารถปฏิบัติได้ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ - พ.ศ. ๒๕๖๘ เห็นควรให้กองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๒ หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ แล้วแต่กรณี ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ
ๆ ไป ให้จัดทำเผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป |