ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 10 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 21/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลปูโยะ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมสามารถจัดซื้อที่ดินและนำมาจัดสรรให้เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
22 | ขออนุมัติให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้กรมการขนส่งทางบกใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อดำเนินโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย | กษ | 19/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้กรมการขนส่งทางบกใช้ประโยชนที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อดำเนินโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยใช้ที่ดินถาวร ไม่มีกำหนดระยะเวลา ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการฯ ไม่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวยังมีสถานะเป็นป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) กระทรวงคมนาคม (กรมการขนส่งทางบก) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการพิจารณาเกี่ยวกับการกำหนดค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินของโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้พิจารณาดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ ผลกระทบต่อต้นทุนที่ใช้ในการคำนวณความคุ้มค่าของโครงการฯ และผลวิเคราะห์ผลตอบแทนด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบและแผนงานดำเนินโครงการฯ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และประธานกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เช่น ควรเร่งรัดการพิจารณาเกี่ยวกับค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินและค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปตามแผนงาน และเพื่อให้กรมการขนส่งทางบกสามารถจัดเตรียมแผนบริหารงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
23 | การลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม | กษ | 19/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายระยะเวลาการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามอัตราการเรียกเก็บค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้เหลือในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และจัดให้มีระบบการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการสูญเสียรายได้ของรัฐกับประโยชน์ที่เกษตรกรและประเทศจะได้รับจากการลดหย่อนค่าธรรมเนียมดังกล่าว เพื่อใช้ประกอบการวางแผนการดำเนินงาน รวมทั้งเห็นควรให้เร่งดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานในระยะยาว เพื่อให้สามารถใช้เป็นแนวทางปฏิบัติได้ก่อนที่จะครบกำหนดเวลาที่ระบุในประกาศกระทรวงมหาดไทยที่จะขยายออกไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. อนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีสาระสำคัญเป็นการขยายกำหนดเวลาใช้บังคับออกไปอีกจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ เพื่อเป็นการลดภาระในการชำระค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้แก่เกษตรกรที่ยังมิได้โอนกรรมสิทธิ์และสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปที่ดิน และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรให้ตัดการอ้างข้อ ๒ (๗) (ฎ) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ออก ไปประกอบการตรวจพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24 | ร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติ | ทส | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างนโยบายป่าไม้แห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ที่เหมาะสม หยุดยั้งและป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของชาติ ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นฐานการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชน ประกอบด้วยบทบัญญัตินโยบายป่าไม้แห่งชาติ จำนวน ๒๔ ข้อ ครอบคลุม ๓ ด้าน ได้แก่ (๑) นโยบายด้านการจัดการป่าไม้ (๒) นโยบายด้านการใช้ประโยชน์ผลิตผลและการบริการจากป่าไม้และอุตสาหกรรมป่าไม้ และ (๓) นโยบายด้านการพัฒนาระบบบริหารและองค์กรเกี่ยวกับการป่าไม้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพลังงานและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรให้มีการบูรณาการในการอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างกรมป่าไม้และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นกระบวนการเดียวกัน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25 | กรอบการเจรจาของประเทศไทยและองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ 14 | กษ | 27/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบท่าทีการเจรจาของประเทศไทยสำหรับเป็นกรอบในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย สมัยที่ ๑๔ ระหว่างวันที่ ๒-๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ณ the Indie Expo Center and Mart กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยสาระสำคัญของกรอบการเจรจาฯ ประกอบด้วย หลักการการพัฒนาที่ยั่งยืนในบริบทที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาฯ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของอนุสัญญาฯ แนวทางการดำเนินงานของอนุสัญญาฯ ในปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ และประเด็นอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นกรอบในการเจรจาในระหว่างการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ ๑.๒ รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ ประกอบด้วย อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ผู้แทนกรมพัฒนาที่ดิน ๕ คน ผู้แทนกรมชลประทาน ๑ คน ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๓ คน ผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ๑ คน ผู้แทนกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ๑ คน ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ๒ คน ผู้แทนกรมป่าไม้ ๑ คน และผู้แทนสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย ๑ คน ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกรอบเจรจาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับประเด็นที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และการจัดให้ภาคประชาชนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสในการรับทราบข้อมูล และการกำหนดท่าทีของไทยในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ ครั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการในขั้นการปฏิบัติได้รับความร่วมมือและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
26 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 13 คน 1. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ฯลฯ) | กค | 12/02/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวม ๑๓ คน แทนรองประธานกรรมการและกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ รองประธานกรรมการ ๒. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๓. นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ กรรมการ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๔. นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ กรรมการ ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๕. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข กรรมการ ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๖. นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม กรรมการ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ๗. นายทองลักษณ์ หาญศึก กรรมการ ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น ๘. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล กรรมการ ๙. นางน้ำผึ้ง วงศ์สมิทธิ์ กรรมการ ๑๐. นายวัชระ ฉัตรวิริยะ กรรมการ ๑๑. นายลือชัย ชัยปริญญา กรรมการ ๑๒. นายสุวิชญ โรจนวานิช กรรมการ ๑๓. นางอมรา กลับประทุม กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
27 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 22/01/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) สามารถจัดซื้อที่ดินและนำมาจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมจำนวนมาก ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ ส.ป.ก. พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งควรติดตามดูแลให้เกษตรกรสามารถรักษาที่ดินที่ได้รับให้เป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และควรกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลมะนังตายอ อำเภอเมืองนราธิวาส และตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 02/01/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลมะนังตายอ อำเภอเมืองนราธิวาส และตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีอำนาจนำที่ดินมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งควรติดตามดูแลให้เกษตรกรสามารถรักษาที่ดินที่ได้รับให้เป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน เป็นไปตามเจตนารมณ์และขั้นตอนตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
29 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 13/11/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกำหนดเขตที่ดิน ในท้อที่ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีอำนาจนำที่ดินมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งควรต้องติดตามดูแลให้ดเกษตรกรสามารถรักษาที่ดินที่ได้รับให้เป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนเป็นไปตามเจตนารมณ์และขั้นตอนตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และควรพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ อาทิ การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่และเกษตรกรรมแม่นยำสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตในการผลิตพืชกระแสหลัก และการสนับสนุนทางเลือกในการทำเกษตรกรรมยยั่งยืน โดยเฉพาะเกษตรผสมผสาน อาทิ การส่งเสริมการปลูกพืชแซมในสวนยางพาราและสวนผลไม้ เพื่อเสริมสร้างรายได้และลดความเสี่ยงด้านราคาผลผลิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและชุมชนในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
30 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (จำนวน 8 ราย 1. นายสุรจิตต์ อินทรชิต ฯลฯ) | กษ | 11/09/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๘ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายสุรจิตต์ อินทรชิต ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสุรเดช เตียวตระกูล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายมีศักดิ์ ภักดีคง ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางสาวจริยา สุทธิไชยา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ๕. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๖. นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ๗. นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ๘. นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
31 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2561 | ทส | 10/07/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และกระบวนการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (กรณีการจัดระบบการใช้ประโยชน์) พื้นที่นิคมสร้างตนเอง พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน (ฉบับที่แก้ไข) และพื้นที่ป่าชายเลน (ฉบับแก้ไข) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ซึ่งที่ประชุม คทช. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๑ ได้มีมติรับทราบและเห็นชอบในเรื่องต่าง ๆ เช่น ๑.๑ รับทราบผลการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๑ มีพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน ๓๗๑ พื้นที่ ๖๖ จังหวัด เนื้อที่ประมาณ ๑,๐๔๓,๓๐๖ ไร่ และรับทราบข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนของผู้ยากไร้ที่ดินทำกินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมที่ดิน กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จำนวนทั้งสิ้น ๘๔๑,๑๗๐ ราย เป็นต้น ๑.๒ เห็นชอบในหลักการของ (ร่าง) แผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ ระยะเร่งด่วน และเห็นชอบกระบวนการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลใน (๑) พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน (๒) พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (๓) พื้นที่นิคมสร้างตนเอง (๔) พื้นที่ป่าชายเลน (ขอปรับแก้กระบวนการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนฯ จากเดิมเฉพาะในพื้นที่ป่าชายเลน อำเภอเมือง และอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็น ทั่วประเทศ) ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณในส่วนของงบประมาณ ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบภายใต้แผนงานบูรณาการการจัดการปัญหาที่ดินทำกินเร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ร่วมกันอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ในการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
32 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก และตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 24/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก และตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีอำนาจนำที่ดินมาใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และควรต้องติดตามดูแลให้เกษตรกรสามารถรักษาที่ดินที่ได้รับให้เป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ และการสนับสนุนทางเลือกในการทำเกษตรกรรมยั่งยืน โดยเฉพาะเกษตรผสมผสาน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
33 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าธง และตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่าธง และตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินหรือมีที่ดินเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การเลี้ยงชีพสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่มั่นคงมีแรงจูงใจในการพัฒนาผลผลิต และสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้เกษตรกรได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมควรพิจารณาให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และควรพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
34 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 4 คน 1. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ฯลฯ) | กค | 24/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทนผู้ที่ลาออก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป และให้ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน จำนวน ๔ คน ดังนี้
๑. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองประธานกรรมการ แทน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ๒. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรรมการ แทน นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๓. นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ กรรมการ แทน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๔. นายสุรจิตต์ อินทรชิต กรรมการ แทน นายสมปอง อินทร์ทอง ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
35 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย | กษ | 10/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ดำเนินการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ระยะเวลาดำเนินการ ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๖) วงเงินโครงการรวมทั้งสิ้น ๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กรมชลประทานสามารถดำเนินการเตรียมความพร้อมของโครงการฯ ได้ทันที และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เสนออย่างเคร่งครัด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ เห็นควรให้จัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ โดยคำนึงถึงการพัฒนาพื้นที่ระดับภาคด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานเตรียมความพร้อมเบื้องต้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทานและสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) เร่งรัดกระบวนการจัดหาที่ดินเพื่อการดำเนินโครงการฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรตั้งคณะทำงานเพื่อชี้แจงและสร้างความรู้ความเข้าใจในกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการเกษตรและปศุสัตว์ และการป้องกันน้ำท่วม เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างแรงจูงใจให้ราษฎรเข้าร่วมพัฒนาเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ที่ตั้งไว้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
36 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 29/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการกำกับให้สถาบันอาชีวศึกษาทุกจังหวัดทั่วประเทศจัดหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพและช่างฝีมือในสาขาต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการแรงงานในแต่ละพื้นที่ เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้แก่ผู้ที่ไม่มีวุฒิการศึกษา ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ ทั้งนี้ ให้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อสร้างเครือข่ายและต่อยอดการพัฒนาฝีมือในอนาคตต่อไปด้วย ๑.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลิตแรงงานในสาขาที่ต่างประเทศมีความต้องการ เช่น แม่ครัว คนเลี้ยงเด็ก คนดูแลคนชรา นั้น ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมการผลิตแรงงานมีฝีมือกลุ่มดังกล่าวเพื่อให้มีโอกาสไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะพ่อครัว แม่ครัว หรือลูกจ้างร้านอาหารไทยในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศสามารถประกอบอาหารที่มีคุณภาพและรสชาติที่มีความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ให้พิจารณาดำเนินการให้รวมถึงอาชีพการนวดแผนไทยด้วย โดยประสานงานกับกลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไร (NGO) ที่เกี่ยวข้องมาร่วมขับเคลื่อนการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วด้วย ๑.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เห็นชอบในหลักการแนวทางดำเนินงานโครงการโคบาลบูรพา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวบรรลุผลและได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดีแล้ว นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาขยายผลการดำเนินการโครงการในระยะต่อไปโดยให้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่โครงการตลอดจนแนวทางการดำเนินการให้เหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ รวมทั้งความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ด้วย ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศเตรียมความพร้อมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศในประเด็นต่าง ๆ เช่น รูปแบบการปฏิบัติงาน หน้าที่และความรับผิดชอบเพื่อให้การขับเคลื่อนงานตามพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ๒.๒ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมาย ว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ที่ดินที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้มาเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๑/๒๕๖๐ ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ให้สามารถเริ่มดำเนินโครงการระบายน้ำที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การจัดทำพื้นที่แก้มลิงเพิ่มเติม (๒) การผันน้ำระหว่างแม่น้ำหรือแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น การผันน้ำจากเขื่อนป่าสักไปยังอ่างเก็บน้ำลำตะคองซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อับฝน (๓) การสร้างหรือขยายเส้นทางระบายน้ำ เช่น โครงการคลองระบายน้ำหลาก บางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๔. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (จังหวัดชลบุรีและเมืองพัทยา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการดังนี้ ๔.๑ เร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุงถนนสายหลักที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหรือระบายน้ำไม่ทันภายในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและพัทยาเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในขณะฝนตก รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาวางแผนการระบายน้ำที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ต่อไป ๔.๒ พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการสร้างถนนเลียบชายทะเลเพิ่มเติมให้เชื่อมต่อกับถนนเลียบชายทะเลที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เป็นเส้นทางคมนาคมสายรองสำหรับการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความแออัดของการจราจรบนถนนสายหลัก ๕. ตามที่ส่วนราชการได้มีการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับใช้ในการแถลงผลงานประจำปีของรัฐบาลนั้น ขอให้ส่วนราชการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันให้พร้อมในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หากมีกำหนดการที่ชัดเจนและเหมาะสมแล้ว สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะได้ประสานแจ้งส่วนราชการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (จำนวน 4 ราย 1. นางสาวจริยา สุทธิไชยา ฯลฯ) | กษ | 08/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่างและทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นางสาวจริยา สุทธิไชยา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายสุรจิตต์ อินทรชิต ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๔. นายโอภาส ทองยงค์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
38 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ชัย ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี และตำบลต้นโพธิ์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 18/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ชัย ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี และตำบลต้นโพธิ์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และควรต้องติดตามดูแลให้เกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่มั่นคง และรักษาที่ดินที่ได้รับเพื่อเป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืนเป็นไปตามเจตนารมณ์และขั้นตอนตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และให้ ส.ป.ก. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความรู้กับเกษตรกรด้านการวางแผนการผลิตและส่งเสริมให้เกษตรกรทำเกษตรกรรมที่สอดคล้องกับศักยภาพองพื้ที่และความต้องการของตลาด และจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ให้มีความพร้อมต่อการป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำ รวมทั้งสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาพื้นที่ และการสนับสนุนทางเลือกในการทำเกษตรกรรมยั่งยืนให้กับเกษตรกรที่มีความพร้อม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านหนุน และตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 11/07/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านหนุน และตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านกลาง ตำบลบ้านหนุน และตำบลทุ่งน้าว อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การดำเนินการของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล และเนื่องจากขอบเขตแปลงที่ดินตามร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สองและป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยป้อม จังหวัดแพร่ บางส่วน ซึ่งเป็นการดำเนินการนอกพื้นที่รับผิดชอบของ ส.ป.ก. จึงควรมีการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวก่อนดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ส.ป.ก. ควรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความตระหนักถึงคุณค่าและความจำเป็นในการดูแลรักษาป่าไม้ และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกต้นไม้ในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรกรรมยั่งยืนที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
40 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนามะเขือ ตำบลกุตาไก้ ตำบลปลาปาก และตำบลโคกสูง อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 13/06/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลนามะเขือ ตำบลกุตาไก้ ตำบลปลาปาก และตำบลโคกสูง อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และ ส.ป.ก. ควรติดตามดูแลให้การจัดสรรที่ดินแก่เกษตรกรให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และขั้นตอนตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รวมทั้งควรให้ความสำคัญกับการเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเกษตรในแปลงที่ดินที่ได้มาจากการยึดคืนพื้นที่ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๖/๒๕๕๙ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....