ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 2 จากข้อมูลทั้งหมด 2 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2564 | นร.10 | 30/03/2564 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
และได้มีประเด็นข้อสั่งการสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่ารับไปดำเนินการ
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้ ๑.
ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาข้อเสนอแนวทางการขับเคลื่อน กระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
รวมถึงการใช้ชีวิตวิถีใหม่ของประชาชน
ภายใต้บริบทการบริหารจัดการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลดลง
และเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว ทั้งนี้
ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงาน
และการให้บริการประชาชนให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ด้วย ๒.
ให้ทุกส่วนราชการจัดทำวิดีทัศน์นำเสนอผลงานของหน่วยงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล
เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อประชาชนเกี่ยวกับผลงานและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน
ทั้งนี้ วิดีทัศน์ควรมีรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจ
ทันยุคสมัยและให้มีการเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ๓.
ให้ทุกส่วนราชการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงาน
การอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน โดยอาจพิจารณาสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความรู้
ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ๔.
ให้ทุกส่วนราชการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนตามที่ได้รับการประสานจากศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีด้วยความรวดเร็ว ๕. ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาจัดส่งข้อมูลให้กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอ
ทั้งนี้ ขอให้ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยเคร่งครัด ๖.
ให้ทุกส่วนราชการให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมจิตอาสา
โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมจิตอาสาในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ
ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ๗.
ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อาทิ
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เตรียมแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นองค์รวมภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้น อาทิ ภัยแล้ง ปัญหาน้ำทะเลหนุน ๘.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าทางการเกษตร
อาทิ (๑) การสร้างห้องเย็นเพื่อให้สามารถจัดเก็บสินค้าทางเกษตรได้นานขึ้น (๒)
การควบคุมความสมดุลระหว่างความสามารถในการเพาะปลูกพืชผล สินค้าทางการเกษตร
และความต้องการผลผลิตทางการเกษตร (๓)
การนำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้ในการควบคุมปริมาณการใช้น้ำสำหรับการเพาะปลูกพืชพันธุ์แต่ละชนิดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำลง และ (๔) การสนับสนุนความรู้
สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน
เพื่อการใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเหมาะสมตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๙.
ให้กระทรวงมหาดไทยสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจใหม่แบบองค์รวม
หรือ Bioeconomy, Circular Economy and Green Economy (BCG) ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเชิงพื้นที่
เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำนโยบายดังกล่าวไปพิจารณาประกอบการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ ต่อไปด้วย ๑๐. ให้สำนักงาน ก.พ.
จัดทำข้อเสนอรูปแบบการจ้างงานที่หลากหลาย
รวมถึงแนวทางการจ่ายค่าตอบแทนและการจัดสวัสดิการที่เหมาะสม เพื่อดึงดูด
จูงใจ และรักษาไว้ซึ่งกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถให้อยู่ในระบบราชการ ๑๑. ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการสรรหา
สอบคัดเลือก
และบรรจุแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการหรือปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐเพื่อทดแทนอัตราว่างจากการเกษียณอายุและอัตราตั้งใหม่ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วแต่ยังไม่ได้มีการบรรจุแต่งตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้
เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีงานทำของประชาชนและบรรเทาผลกระทบของการว่างงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๔
๑๒.
ให้ทุกส่วนราชการกวดขันและเข้มงวดในการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงานทุกระดับให้เป็นไปด้วยความซื่อสัตย์
สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล
เพื่อลดโอกาสในการทุจริตประพฤติมิชอบ
|
||||||||||||||||||
2 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2564 | นร.11 | 30/03/2564 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยที่ประชุมได้รับทราบเรื่องที่สำคัญ
ได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจไทยล่าสุด เป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๔
ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจ
แนวทางการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจและดึงดูดการลงทุน
ความคืบหน้าการดำเนินการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และพิจารณาแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) เสนอ
|